อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในงานสัมมนา ‘กัญชาเสรีเพื่อการแพทย์’ ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยเคยให้คำมั่นกับพี่น้องประชาชนว่า ถ้าหากมีโอกาสได้เข้าไปบริหารประเทศ เราต้องดำเนินนโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นเมื่อพรรคภูมิใจไทยได้โอกาสทำงานเพื่อบ้านเมือง ตนและพรรคต้องดำเนินนโยบายนี้อย่างจริงจั้ง วันนี้เรานำทีม ส.ส. พรรคภูมิใจไทยมาร่วมงานด้วย เพื่อบอกให้รู้ว่า เรื่องกัญชาเพื่อรักษาผู้ป่วย เป็นเรื่องของคนทั้งพรรคที่ต้องทำให้สำเร็จ คนภูมิใจไทยจะเพิกเฉยไม่ได้
“เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) พรรคส่งตัวแทนไปพูดคุยเรื่องนโยบายกับพรรคร่วมรัฐบาล กระทั่งมีข่าวดีมากๆ คือ นโยบายกัญชาเสรีเพื่อการแพทย์ของพรรคภูมิใจไทยได้รับการบรรจุเป็นนโยบายของรัฐบาลแล้ว ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันผลักดัน ผมต้องเดินหน้านโยบายในทันที”
อนุทินกล่าวต่อว่า กัญชาจะกลายเป็นยาทางเลือกของคนไทย คนไทยต้องสามารถเข้าถึงยาตัวนี้อย่างทั่วถึง เป้าหมายคือ ต้องการช่วยคนไทย แต่ไม่ต้องการช่วยนายทุน ราคาของสารสกัดกัญชาที่สูงอยู่ ณ ปัจจุบัน จะถูกทำให้ต่ำลงด้วยกลไกการควบคุมของรัฐ
สำหรับเรื่องการปลูกกัญชาบ้านละ 6 ต้น ขอย้ำว่า มีสิทธิ์ปลูกได้ แต่ต้องใช้เพื่อการแพทย์และต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐเท่านั้น โดยอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) จะเป็นภาคส่วนที่เข้าไปดูแลเบื้องต้น ซึ่งในกระบวนการทั้งหมด เราต้องปฏิบัติโดยต่อยอดจากกฎหมายปัจจุบัน จะไม่ทำเรื่องยุ่งยากและเสียเวลาเด็ดขาด
“การปลูกกัญชาเพื่อการรักษาโรคเหมือนเราปลูกพืชอื่นๆ หลังบ้านเราต้องไม่เป็นปัญหา แต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอน โดยอาจใช้ อสม. ซึ่งเรามีตั้งล้านคนจัดอบรมให้ไปถ่ายทอดความรู้ให้ประชาชนทั่วไป แล้วก็ขยายผลของการปลูกในบ้าน ซึ่งอีก 1-2 ปี ถึงจะเรียบร้อยทั้งหมด แต่สิ่งที่จะเริ่มได้เลยคือ การใช้เครือข่ายของ อสม. เสมือนเป็นโครงการนำร่องไปจากนั้นค่อยๆ ขยายผลออกไปเรื่อยๆ” อนุทินกล่าว
สำหรับหัวใจในการทำนโยบายคือ สถาบันการศึกษา สถานพยาบาล หน่วยงานราชการที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสาธารณสุข ภาครัฐต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่ เราจะไม่ให้กัญชาถูกผูกขาดโดยกลุ่มนายทุน
อนุทินยังกล่าวถึงสูตรน้ำมันกัญชาของไทยที่ยังไม่ได้รับการรับรองว่า จากนี้ภาครัฐต้องเร่งตรวจสอบว่าสูตรไหน มีประสิทธิภาพในการรักษา ไม่มีสารอันตราย ปลอดภัย และรีบรับรองในฐานะของยารักษาโรค ส่วนเรื่องสิทธิบัตรซึ่งมีความกังวลว่า กัญชาไทยจะถูกต่างชาติขโมยไปจดสิทธิบัตร ตนจะดูแลเรื่องนี้ ขอย้ำว่า กัญชาไทยต้องเป็นของคนไทยเท่านั้น แต่ในส่วนของสูตรยาต่างๆ ตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องให้ความเคารพกับผู้ที่คิดค้น เราคงเข้าไปแทรกแซงไม่ได้