เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (25 มิ.ย.) SpaceX บริษัทเอกชนด้านอวกาศของสหรัฐฯ ปล่อยจรวด Falcon Heavy ซึ่งบรรทุกดาวเทียม 24 ดวงขึ้นสู่ 3 วงโคจรที่แตกต่างกัน โดย อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของ SpaceX ระบุว่าเป็นภารกิจที่ ‘โหดที่สุดเท่าที่เคยมีมา’
Falcon Heavy จรวดปฏิบัติการที่ได้ชื่อว่าทรงพลังที่สุดของโลก ทะยานขึ้นจากศูนย์อวกาศเคนเนดีในรัฐฟลอริดาเมื่อเวลา 2.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยภารกิจครั้งนี้เป็นการปล่อยจรวด Falcon Heavy ครั้งที่ 3 และเป็นการปล่อยจรวดในเวลากลางคืนครั้งแรก
SpaceX ระบุว่าภารกิจดังกล่าว หรือที่มีชื่อเรียกว่า STP-2 (Space Test Program-2) ของกระทรวงกลาโหม นับเป็นอีกหนึ่งการปล่อยจรวดที่ท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์ของ SpaceX เนื่องจากต้องเผาไหม้เชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ส่วนบน 4 เครื่อง และต้องเดินทางไปยังวงโคจร 3 วง รวมทั้งยังต้องใช้ระยะเวลาในการทำภารกิจนี้มากกว่า 6 ชั่วโมง
ในการปล่อยจรวดครั้งนี้ การส่งดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรเริ่มขึ้นหลังจากจรวดพุ่งขึ้นจากฐานปล่อยประมาณ 12 นาที โดยขั้นตอนการส่งดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง
การถ่ายทอดสดรายงานว่ามีการนำจรวดขับดันด้านข้าง (Side Boosters) ที่ใช้ในการปล่อยจรวด Falcon Heavy ครั้งก่อนเมื่อเดือนเมษายนกลับมาใช้กับจรวดลำนี้ด้วย โดยในการปล่อยครั้งนี้ จรวดขับดันแยกตัวออกมาหลังจากจรวดพุ่งขึ้นจากฐานปล่อยประมาณ 9 นาที แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จในการกลับมาลงจอดอีกครั้ง
สำหรับดาวเทียมที่ถูกส่งเข้าสู่วงโคจรในครั้งนี้ บางส่วนเป็นดาวเทียมของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะที่บางส่วนจะถูกใช้ในโครงการค้นคว้าวิจัยของมหาวิทยาลัยต่างๆ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: สำนักข่าวซินหัว, Voice of America