ถ้าพูดถึงคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงในวงการบันเทิง ผู้มีดาเมจรุนแรงที่รอยยิ้ม มีความเป็นสุภาพบุรุษเต็มขั้น และมีแนวคิดตามแบบฉบับของคนรุ่นใหม่ เป็นตัวของตัวเอง วางแผนทำสิ่งต่างๆ เพื่อเป้าหมายอนาคต แต่ในขณะเดียวกันก็ยังอ่อนโยน รักครอบครัว ก็คงต้องบอกตามความจริงว่าชื่อของ ‘นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ’ คือหนึ่งในลำดับต้นๆ ที่ฉายชัดในความคิดของเรา
ยิ่งเมื่อได้เห็นเขาปรากฏตัวในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์คนพิเศษของบริษัทประกันที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 68 ปี อย่าง กรุงเทพประกันชีวิต ในอีเวนต์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘บีแอลเอ เพรสทีจ เฮลธ์’ ซึ่งเป็นแผนประกันสุขภาพที่คิดอย่างครอบคลุม เพื่อเป็นหลักประกันค่ารักษาพยาบาล โดยจ่ายค่ารักษาตามจริงสูงสุดถึง 100 ล้านบาท ครอบคลุมทั่วโลก จนถึงอายุ 99 ปี จึงไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับค่าใช้จ่ายบานปลายในภายหลัง ยิ่งตอกย้ำภาพความสมาร์ทแบบคนรุ่นใหม่ที่รัดกุม และฉลาดเลือกวางแผนเพื่ออนาคตในตัวของเขาได้จริงๆ
แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เหตุผลเรื่องโฆษณา แต่เราเชื่อว่าคนแบบ นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ คือขั้นกว่าของการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพราะถ้าเคยได้อ่านความคิดของเขาจากหลายๆ บทสัมภาษณ์ คุณจะรู้ว่ากว่าเขาจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และเขาเองก็เป็นคนชอบวางแผน ชอบทำสิ่งแปลกใหม่อยู่เสมอๆ รักครอบครัว จึงนับเป็นโอกาสเหมาะอีกครั้งที่ THE STANDARD ได้พูดคุยกับนาย ณภัทร กับมุมมองสะท้อนภาพคนรุ่นใหม่ที่ชอบสร้างภูมิคุ้มกันดีๆ ให้กับชีวิต
บ่อยครั้ง เรามักจะเห็นคุณตอบคำถามสื่อในเชิงว่า เป็นคนชอบวางแผนชีวิตมาตั้งแต่เด็ก นิสัยนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
เพราะการเลี้ยงดูของแม่ครับ และก็เพราะชีวิตตอนเด็กๆ ตั้งแต่เล็กจนโตผมเห็นแม่ทำงานหนักมากๆ เพื่อเลี้ยงผม ตอนนั้นก็วางแผนในใจมาตลอดว่าวันหนึ่งผมจะต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวแทนแม่ นั่นเป็นแรงผลักดันให้ผมตั้งใจทำทุกสิ่ง เห็นคุณค่ากับทุกอย่าง ทั้งเรื่องงานและเรื่องชีวิต รู้ว่าแต่ละบาทกว่าจะหามาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น เมื่อผมเป็นคนเต็มที่กับทุกเรื่อง เลยต้องมีความรอบคอบในทุกสิ่งที่ทำครับ
นิสัยชอบวางแผนที่เติบโตขึ้นมาพร้อมกับตัวคุณ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตบ้างไหม
แน่นอนครับ นิสัยชอบวางแผนกลายเป็นส่วนหนึ่งในตัวตนของผมไปแล้ว ผมชอบคิด ชอบวางแผนกับทุกเรื่อง อย่างตอนเด็กผมวางแผนเก็บเงินเพื่อทำสิ่งที่ผมรัก คือ เรียนกอล์ฟ ผมกับคุณแม่จะวางแผนจัดการเรื่องเงินอย่างมีระบบเพื่อให้ผมได้เรียนในสิ่งที่ผมรักจริงๆ ตั้งแต่นั้นเวลาทำอะไรผมก็จะต้องวางแผนให้รอบคอบก่อนทุกครั้งเลยครับ เพราะไม่อยากพลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตไป และหลายๆ ครั้งก็เห็นผลนะว่า การเป็นคนชอบวางแผน ทำให้ไปถึงเป้าหมายโดยที่ไม่ล้มเลิกหรือถอดใจไปกลางคันเสียก่อน
คุณกำลังจะบอกว่า ชีวิตทุกวันนี้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ แบบนั้นใช่ไหม
ส่วนมากใช่ครับ แต่ก็ไม่ใช่กับทุกเรื่อง มันอยู่ที่ว่าจะจัดสรรอย่างไร จะวางแผนกับเรื่องอะไรแค่ไหน บางเรื่องที่ผ่านมาก็อาจมีผิดพลาด มีเหนื่อย และมีบางอย่างที่ทำให้ผมท้อบ้าง เป็นเรื่องปกติ แต่ผมจะเก็บสิ่งเหล่านั้นมาเรียนรู้ และปรับปรุง เพื่อให้ไปสู่เป้าหมายที่ผมตั้งใจ
ถ้าเช่นนั้น พอจะบอกได้ไหมว่าในช่วงเวลาที่เคยมีประสบการณ์ที่ผิดแผน ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น และส่งผลอย่างไรต่อชีวิตของคุณ
อาจจะเป็นเรื่องที่ผมทำงานหนัก จนบางครั้งละเลยเรื่องการดูแลสุขภาพของตัวเองไป พักผ่อนไม่เพียงพอ เลยทำให้ป่วย ผมเป็นคนที่ทำอะไรจริงจัง บางครั้งตั้งใจมากเกินไปด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี ก็มาเรียนรู้ได้ในภายหลังว่าต้องลดความเครียดของตัวเองลงมาหน่อย แต่ผมชอบนะที่เวลาทำงานหนัก เครียด เหนื่อย และล้าจนท้อ แล้วได้มาค้นพบอะไรบางอย่างที่ทำให้เราได้พัฒนาตัวเอง และนำประสบการณ์ที่เรียนรู้มาปรับใช้กับแผนอื่นๆ ในอนาคตต่อไป
ลองเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม ว่าการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ผิดแผนนั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร
เอาเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวทุกคนมากที่สุดอย่างเรื่องสุขภาพแล้วกันครับ วงการบันเทิงสอนให้ผมโตเป็นผู้ใหญ่เร็ว มีวินัย ตรงต่อเวลา มอบโอกาสต่างๆ มากมายในชีวิตให้ผม แต่ถ้าสุขภาพของผมไม่พร้อม ทุกอย่างที่วงการบันเทิงมอบให้ ผมจะรับมันได้อย่างไม่เต็มที่ ในขณะเดียวกันก็อาจทำงานได้อย่างไม่เต็มกำลังด้วย ผมจึงต้องดูแลสุขภาพตัวเอง พักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงมีสุขภาพจิตที่ดี เช่น ถ้าพรุ่งนี้ต้องทำงานแต่เช้า ก็จะพยายามนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง เพื่อตื่นไปทำงานด้วยความรู้สึกสดชื่น อารมณ์ดี แล้วก็ต้องใส่ใจเรื่องการกิน รวมถึงหาเวลาออกกำลังกายให้เพียงพอ เพราะถ้าหากผมไม่ดูแลตัวเอง หักโหมทำงาน สิ่งที่ทำออกมาไม่ดีมันก็จะเสียกับทุกฝ่าย ทีมงานก็เหนื่อย คนดูเขาก็ดูออกอยู่แล้ว นี่คือสิ่งที่ผมเคยเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตครับ
อนาคตถัดจากนี้ไป คุณวางแผนชีวิตไว้อย่างไรบ้าง
ผมมองว่าทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นเป็นเรื่องของโอกาสและเวลา โอกาสเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเราปฏิเสธมัน เราจะไม่มีทางรู้เลยว่ามันจะย้อนกลับมาหาเราอีกหรือเปล่า ส่วนเวลา ผมเชื่อว่าคนเราได้เวลามาเท่ากัน จะทำอะไรก็ต้องแบ่งเวลาให้ดีที่สุด ยอมรับว่าโดยส่วนตัวก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นนักแสดงไปตลอด แม่ผมอยู่ในวงการนี้มานานก็จะบอกผมตลอดว่าไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าได้ ตัวผมเองก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่อยากทำ ดนตรีผมก็ชอบ ศิลปะผมก็สนใจ กีฬาผมก็อยากเล่น ถ่ายรูปก็มีความสุข และมีแผนทำธุรกิจอยู่บ้าง ซึ่งผมรู้ดีว่าทั้งหมดที่ผมอยากทำ และเป็นสิ่งที่ผมรักจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าสุขภาพของผมไม่พร้อม หรือเกิดเหตุไม่คาดฝันที่ทำให้คนที่อยู่ข้างหลังต้องมาแบกรับภาระอย่างไม่ตั้งใจ ผมจึงต้องวางแผนอย่างรอบคอบที่สุดเพื่อความสุขของคนรอบข้าง รวมถึงตัวผมด้วยครับ
อะไรคือตัวช่วยในการวางแผนชีวิตของคุณ
หลายคนน่าจะเคยได้ยินที่ผมเคยบอกว่า สิ่งที่ผมยึดเป็นแผนที่ชีวิต คือ ศีลห้า กับ กฎไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) ผมก็ยังคงยึดสิ่งนั้นเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตอยู่ เรียกว่าเป็น ‘ภูมิคุ้มกันของชีวิต’ ถ้าเรายึดตามแนวทางนั้นได้ น้อยมากที่ชีวิตจะมีความทุกข์เกิดขึ้น มันเป็นกฎธรรมชาติของมนุษย์ ถ้าเข้าใจและยอมรับได้ ก็จะมีความสุขมากขึ้น และอย่างที่กฎไตรลักษณ์ได้บอกไว้ว่าสิ่งต่างๆ ล้วนไม่เที่ยง วันนี้ผมดูแข็งแรงมากๆ แต่วันหนึ่งผมอาจล้มป่วยขึ้นมา
ดังนั้น หนึ่งในแผนที่จะเป็นภูมิคุ้มกันชีวิตให้ผม คือ แบบประกันสุขภาพ BLA Prestige Health ของกรุงเทพประกันชีวิต ช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยฉุกเฉิน จ่ายตามจริงสูงสุดถึง 100 ล้านบาท สามารถคุ้มครองครอบคลุมทั่วโลก ถึงอายุ 99 ปี รวมทั้งยังมีบริการเสริมด้านสุขภาพ BLA EveryCare คอยดูแลเราแบบครบวงจรตั้งแต่ก่อนรับการรักษา ระหว่างการรักษา และหลังจากรับการรักษาเรียบร้อยแล้ว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์