เจ้าหญิงมาโกะ เจ้าอากิชิโนะ (Princess Mako) พระราชนัดดาพระองค์โตใน สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ แห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น ประกาศพิธีหมั้นต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการเเล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 ก.ย.) เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ให้สัมภาษณ์สื่อร่วมกัน นับตั้งแต่มีข่าวเรื่องที่เจ้าหญิงมาโกะทรงกำลังคบหาดูใจและตัดสินพระทัยจะเข้าพิธีแต่งงานกับอดีตพระสหายร่วมชั้นเรียน เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2017
การตัดสินพระทัยของเจ้าหญิงมาโกะในครั้งนี้ พระองค์จะต้องยอมสละฐานันดรของการเป็นสมาชิกราชวงศ์ญี่ปุ่นตามที่กฎมณเฑียรบาลบัญญัติไว้ และใช้ชีวิตเหมือนสามัญชนทั่วไป โดยจะได้รับสิทธิ์ในการเลือกตั้ง รวมถึงสวัสดิการที่ประชาชนชาวญี่ปุ่นพึงมี
การประกาศพิธีหมั้นอย่างเป็นทางการนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะทรงอนุญาตให้เจ้าหญิงมาโกะและพระคู่หมั้นทรงเข้าพิธีเสกสมรสกันได้ โดยทั้งคู่จะต้องปฏิบัติตามโบราณราชประเพณีที่ถูกบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้เจ้าหญิงมาโกะทรงเผยความในใจต่อสาธารณชนผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจและสื่อมวลชนจากหลายสำนักว่า “วันนี้เรามีความสุขมาก เรามีความสุขจริงๆ
“เราคิดมาเสมอตั้งแต่เด็กว่า ในวันหนึ่งเราอาจจะต้องสละฐานันดรของเรา เมื่อเราแต่งงาน
“ที่ผ่านมาเราปฏิบัติหน้าที่เพื่อแบ่งเบาพระราชกรณียกิจขององค์พระจักรพรรดิในฐานะสมาชิกราชวงศ์ให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ และตอนนี้เรากำลังทำเพื่อชีวิตของเรา เชื่อมั่นในความรักของเรา
“รอยยิ้มของเคอิเหมือนกับเเสงอาทิตย์ของเรา เราอยากจะใช้ชีวิตร่วมกันกับเขา พวกเราจะสร้างครอบครัวเล็กๆ อันแสนอบอุ่นและสงบสุขร่วมกัน”
เส้นทางความรัก: เมื่อความรักก่อตัว ระยะทางไม่ใช่ปัญหา
เคอิ โกมูโร (Kei Komuro) อายุ 25 ปีเท่ากับเจ้าหญิงมาโกะ เป็นอดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเจ้าหญิง ทั้งคู่พบกันครั้งแรกในงานปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ของ International Christian University ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มสนิทสนมกันในปี 2012 และตัดสินใจที่จะเข้าโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนเพื่อไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ โดยเจ้าหญิงมาโกะตัดสินพระทัยเข้าศึกษาต่อที่ University of Edinburgh สกอตแลนด์ ในขณะที่เคอิเลือกเข้าศึกษาต่อที่ University of California นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
เคอิให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเราเริ่มออกเดตกันก่อนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ
“แม้พวกเราอยู่ห่างกันคนละเขตเวลา แต่เราก็ยังคงติดต่อหากันและกันอยู่เสมอ ระยะทางไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับความรักของเรา
“ในเดือนธันวาคม ปี 2013 ผมจึงตัดสินใจขอเจ้าหญิงมาโกะแต่งงาน”
หลังจบการศึกษาจาก International Christian University ในปี 2014 เจ้าหญิงก็ทรงตัดสินพระทัยศึกษาต่อ และทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทจาก University of Leicester สหราชอาณาจักร ในสาขาพิพิธภัณฑ์ศิลปะ การจัดนิทรรศการ และงานแสดงศึกษา ปัจจุบันพระองค์กำลังทรงศึกษาต่อปริญญาเอก และเป็นนักวิจัยที่พิพิธภัณฑ์ใน University of Tokyo
ในขณะที่เคอิกำลังศึกษาต่อด้านกฎหมายธุรกิจที่ Hitotsubashi University พร้อมกับทำหน้าที่ทนายความในบริษัทกฎหมายแห่งหนึ่ง โดยเขาอาศัยอยู่กับแม่และคุณตารวม 3 คนในโยโกฮามา นอกจากนี้เขายังเคยชนะการประกวดเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวของเมืองฟูจิซาวา เขตคานากาวะ จนได้รับฉายาว่า ‘เจ้าชายแห่งท้องทะเล’
ความกังวลใจต่อราชวงศ์ญี่ปุ่น
เจ้าหญิงมาโกะ เป็นพระราชนัดดาพระองค์แรกจากทั้งหมด 4 พระองค์ของราชวงศ์ญี่ปุ่นที่ประกาศพิธีหมั้น และจะเข้าพิธีเสกสมรสที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายปี 2018
โดยเจ้าหญิงมาโกะและเคอิจะต้องปฏิบัติตามธรรมเนียมปฏิบัติของราชวงศ์ที่มีชื่อว่า ‘Nosai no Gi’ เสียก่อน จึงจะถือว่าพิธีหมั้นหมายของทั้งคู่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ โดยขั้นตอนนี้ ตัวแทนของเคอิจะต้องเดินทางมายังพระราชวังของเจ้าหญิงมาโกะ พร้อมกับของขวัญ (สินสอด) เพื่อเป็นหลักฐานของพิธีหมั้น นอกจากนี้ทั้งคู่ยังจะต้องเข้าร่วมพิธีกรรมและขั้นตอนต่างๆ ตลอดจนพิธี Kokki no Gi ในวันแต่งงาน ซึ่งฤกษ์พิธีเสกสมรสจะถูกประกาศโดยตัวแทนของฝ่ายเจ้าบ่าวอีกครั้งหนึ่ง
มีความเป็นไปได้ว่าพิธีเสกสมรสจะมีขึ้นในเดือนธันวาคมปีหน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ที่รัฐสภาไดเอทของญี่ปุ่นเห็นชอบให้สมเด็จพระจักรพรรดิสามารถสละราชสมบัติได้ นับเป็นการสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 200 ปี แม้ว่า ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น อาจจะไม่เห็นด้วยต่อประเด็นนี้ก็ตาม โดยเจ้าชายนะรุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น จะขึ้นครองราชย์เป็นพระจักรพรรดิพระองค์ที่ 126 ต่อจากพระราชบิดา
กฎมณเฑียรบาลกำหนดให้สมาชิกราชวงศ์ที่เป็นผู้ชายเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เสกสมรสหรือเข้าพิธีแต่งงานกับหญิงสามัญชนได้ โดยหญิงสามัญชนนั้นจะเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของราชวงศ์ ในขณะที่สมาชิกราชวงศ์ที่เป็นผู้หญิง หากเสกสมรสหรือเข้าพิธีแต่งงานกับหนุ่มสามัญชนจะต้องสละฐานันดรศักดิ์ของตน และใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชนคนธรรมดา
ภายหลังการเสร็จสิ้นพิธีเสกสมรสในปลายปีหน้า จะทำให้สมาชิกของราชวงศ์ญี่ปุ่นลดจำนวนลงเหลือเพียง 18 พระองค์เท่านั้น และจากจำนวนรัชทายาทที่มีสิทธิ์ขึ้นครองราชย์เป็นพระจักรพรรดิของญี่ปุ่นทั้ง 4 พระองค์ มีเพียงเจ้าชายฮิซะฮิโตะ เจ้าแห่งอากิชิโนะ พระอนุชาในเจ้าหญิงมาโกะในวัย 10 ชันษาเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ที่จะเป็นความหวังเดียวในการเพิ่มจำนวนสมาชิกของราชวงศ์ญี่ปุ่นในอนาคต
ไม่แน่ว่าราชวงศ์ญี่ปุ่นอาจจะประสบความยากลำบากและสิ้นสุดลง หากในอนาคต เจ้าชายฮิซาฮิโตะ เจ้าอากิชิโนะ ไม่มีรัชทายาทสืบราชวงศ์ต่อจากพระองค์
Photo: Shizuo Kambayashi/POOL/AFP
อ้างอิง:
- AFP
- www.news.com.au/entertainment/celebrity-life/royals/princess-mako-gives-up-royal-title-to-marry-kei-komuro-in-japan/news-story/d6444dceae5830947543c318b0720c64
- www.telegraph.co.uk/news/2017/09/03/princess-mako-japan-will-leave-royal-family-marry-university
- www.japantimes.co.jp/news/2017/09/03/national/princess-mako-marry-former-university-classmate-possibly-next-fall/#.WaywR9MjGt8
- www.nydailynews.com/news/world/japan-princess-mako-giving-royal-status-marry-commoner-article-1.3465053
ลำดับรัชทายาททั้ง 4 พระองค์ ผู้มีสิทธิ์ขึ้นครองราชย์ต่อจากสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ
- เจ้าชายนะรุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น – พระราชโอรสพระองค์โตในพระสมเด็จจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ (มีพระธิดา 1 พระองค์)
- เจ้าชายฟุมิฮิโตะ เจ้าอากิชิโนะ – พระราชโอรสพระองค์รองในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ทรงเป็นพระราชบิดาในเจ้าหญิงมาโกะ (มีพระธิดา 2 พระองค์ และพระโอรส 1 พระองค์)
- เจ้าชายฮิซะฮิโตะ เจ้าอากิชิโนะ – พระราชโอรสพระองค์เดียวในเจ้าชายฟุมิฮิโตะแห่งอากิชิโนะ ทรงเป็นพระอนุชาในเจ้าหญิงมาโกะ วัย 10 ชันษา
- เจ้าชายมะซะฮิโตะ เจ้าฮิตาชิ – พระอนุชาในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ (ไม่มีพระโอรสและพระธิดา)