อาจดูเป็นเรื่องยากสำหรับสตาร์ทอัพที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง เพราะนอกจากจะมีไอเดียเจ๋งๆ แล้ว ยังจะต้องนำไอเดียเหล่านั้นไปต่อยอดเพื่อให้เกิดเป็นรูปเป็นร่าง ซึ่งบ่อยครั้งก็มักจะพบกับปัญหาหรืออุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทุน การวิจัย การทดสอบ การออกแบบ หรือสิ่งอำนวยความสะดวก แต่จะดีแค่ไหนหากมีบริการด้านเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยสนับสนุนและแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้อย่างครบวงจร
หากคุณเป็นนักธุรกิจ นักอุตสาหกรรม หรือนักลงทุนที่มีความสนใจทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี แต่กำลังพบเจอปัญหามากมายจนอยากพับโปรเจกต์นั้นโยนทิ้งไปเสีย ขอแนะนำให้รู้จักกับบริการของ สวทช. หรือ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ องค์กรวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ไม่ได้มีภารกิจแค่ทำวิจัยเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีบริการสนับสนุนผู้ประกอบการในหลากหลายมิติที่จะเข้ามาเป็นตัวช่วยเติมเต็มและต่อยอดไอเดียของคุณให้เป็นจริงได้ ด้วยความพร้อมในด้านบุคลากรวิจัย ห้องปฏิบัติการ และนวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจทุกประเภท
ภายในงาน 15th NSTDA Annual Conference: NAC2019 หรืองานประชุมวิชาการประจำปี สวทช. ครั้งที่ 15 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25-28 มีนาคม 2562 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย มีการสัมมนาให้ความรู้และจัดแสดงผลงานวิจัยของ สวทช. รวมไปถึงหน่วยงานพันธมิตรอื่นๆ ซึ่งในปีนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมชมงานกว่า 4,000 คน
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญภายในงานที่มีโอกาสได้เข้าร่วม คือ กิจกรรม NSTDA Open House เปิดบ้าน สวทช. ที่ให้เหล่าสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการได้เยี่ยมชมเทคโนโลยีที่เกิดจากศักยภาพของบุคลากรวิจัยและห้องปฏิบัติการของ สวทช. รวมถึงบริษัทผู้เช่าพื้นที่ภายในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย โดยทางเจ้าของบ้านก็ได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี และพร้อมนำเสนอจุดเด่นที่งานวิจัยไปตอบโจทย์อุตสาหกรรมต่างๆ โดยแบ่งออกเป็น 7 เส้นทางอุตสาหกรรม ได้แก่
- Modern Agriculture เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนรูปแบบการทำการเกษตรให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น และใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
- Food For The Future เทคโนโลยีที่ช่วยปรับอาหารให้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ และทำให้อาหารเพื่อสุขภาพมีรสชาติอร่อย ตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภค
- Cosmeceutical เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนสมุนไพรไทยให้เป็นสารมูลค่าสูงด้วยนาโนเทคโนโลยี และนำไปต่อยอดเป็นเครื่องสำอางคุณภาพสูง
- Industrial Microbe ขับเคลื่อนไปกับขบวนเศรษฐกิจฐานชีวภาพด้วยคลังจุลินทรีย์ โรงงานต้นแบบ และตัวอย่างการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีชีวภาพ
- Mobility เทคโนโลยีที่จะทำให้การเดินทางในเมืองคล่องตัว พาหนะที่ลดมลพิษ และการควบคุมคุณภาพของรถยนต์ให้ได้มาตรฐาน
- Digital Transformation หมุนไปพร้อมกับโลกของข้อมูลและการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
- Energy รีชาร์จธุรกิจด้วยนวัตกรรมด้านพลังงาน ที่มาพร้อมกับมาตรฐานและการวิเคราะห์ทดสอบ
ในครั้งนี้ เราได้มีโอกาสร่วมเดินทางไปสัมผัสกับศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หรือ PTEC ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นห้องปฏิบัติการฯ ระดับอาเซียน ที่น้อยคนนักจะรู้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายประเภทที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้ จะต้องผ่านการทดสอบจาก PTEC จึงจะมั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อการใช้งาน โดยที่ผ่านมาได้มีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ชั้นนำที่เข้ามาใช้บริการและผ่านการทดสอบจากที่นี่มากมาย
ดร.ไกรสร อัญชลีวรพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) สวทช. กล่าวว่า หากมองในมุมของธุรกิจ PTEC เปรียบเสมือนธุรกิจแบบ B2B หรือธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยมีหน้าที่หลักคือทดสอบมาตรฐานและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออนุญาตให้นำสินค้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศได้อย่างถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น แบตเตอรี่หรือที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ ที่จะต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน อย่างตู้เย็น เครื่องซักผ้า และโทรทัศน์ โดยของพวกนี้จะต้องมีเครื่องหมายมาตรฐานสำหรับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. กำกับเสมอ ซึ่งทาง PTEC จะช่วยให้อุตสาหกรรมเหล่านั้นประหยัดเวลาและค่าขนส่งในการนำเอาสินค้าไปทดสอบที่ต่างประเทศ
มาถึงห้องที่ผู้ประกอบการหลายท่านให้ความสนใจเป็นพิเศษ นั่นก็คือ ห้องปฏิบัติการนาโนเวชสำอางของศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (NANOTEC) เป็นศูนย์วิจัยที่ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการธุรกิจและผู้สนใจที่กำลังมองหาโอกาสทำธุรกิจเครื่องสำอาง โดย NANOTEC จะเป็นศูนย์วิจัยที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Personal Care อาทิ เครื่องสำอางและเวชสำอางนาโน ที่ประยุกต์เทคโนโลยีการสกัดสมุนไพรเข้ากับนาโนเทคโนโลยี
NANOTEC ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสอบถามนักวิจัยถึงรายละเอียดที่มาของการทำวิจัยผลิตภัณฑ์และคุณสมบัติการออกฤทธิ์ของสมุนไพรชนิดต่างๆ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันมีผู้หันมาสนใจใช้ผลิตภัณฑ์จากสารสกัดธรรมชาติและสมุนไพรกันมากขึ้น เมื่อผสานกับนาโนเทคโนโลยีที่ลงตัวก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าของสมุนไพรมากขึ้นตามไปด้วย และส่งผลให้ผลิตภัณฑ์นั้นมีศักยภาพพร้อมส่งออกต่างประเทศ เช่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากมะขามป้อม และผลิตภัณฑ์ครีมทามือจากใบบัวบก ที่เป็นผลิตภัณฑ์ตัวอย่างที่ผ่านการวิจัยและทดสอบจากห้องปฏิบัติการนาโนเวชสำอาง ซึ่งผู้ประกอบการที่มาเข้าชมสามารถลองสัมผัสผลิตภัณฑ์ตัวอย่างด้วยตัวเอง
โรงงานต้นแบบผลิตเครื่องสำอางระดับนาโน เป็นอีกหนึ่งบริการของ NANOTEC ที่มีบริการครบวงจร เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิตเครื่องสำอาง (Cosmetic GMP) ตั้งแต่บริการพัฒนาและปรับสูตรต้นตำรับ บริการวิเคราะห์และตรวจสอบคุณสมบัติ บริการทดลองผลิตระดับโรงงาน บริการผลิตอนุภาคนาโนสมุนไพร บริการทดสอบความคงตัวของผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงบริการจดแจ้งขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ ตอบโจทย์และครอบคลุมความต้องการของผู้ประกอบการด้านเวชสำอางที่ยังขาดแคลนปัจจัยในการดำเนินธุรกิจ เรียกได้ว่าหากใครที่มีสูตรที่คิดค้นของตัวเองก็สามารถใช้บริการผลิตเพื่อจำหน่ายทดลองตลาดได้ หรือจะมาซื้อสิทธิเทคโนโลยีจาก สวทช. ที่มีอยู่ก็ได้เช่นกัน
เมื่อผู้ประกอบการได้เยี่ยมชมผลงานจากห้องปฏิบัติการต่างๆ ของ สวทช. จนครบแล้ว ก็ไปพบกับกิจกรรมปิดท้ายของงาน NSTDA Open House ที่มีบริการให้คำปรึกษาเชิงลึก สำหรับผู้ประกอบการหลายท่านที่อาจจะเกิดไอเดียต้องการต่อยอดธุรกิจเทคโนโลยี หรือบางท่านอาจจะมีโจทย์ปัญหาที่ยังหาทางออกไม่ได้ สวทช. จึงได้จัดบูธให้คำปรึกษาและแนะนำบริการแบบครบวงจร โดยมีทีมงานคอยให้ข้อมูลอย่างใกล้ชิด ซึ่งบริการของทาง สวทช. จะมีให้เลือกใช้ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ อาทิ
บริการด้านการเงิน ภาษี และมาตรการส่งเสริม
ข่าวดีสำหรับสตาร์ทอัพที่มีความต้องการหาผู้ร่วมลงทุน เพราะ สวทช. จะร่วมลงทุนกับธุรกิจของคุณไม่เกินร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน เพื่อเพิ่มโอกาสในการวิจัยพัฒนาและต่อยอดไอเดีย พร้อมทั้งสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นคงให้กับธุรกิจ โดยธุรกิจนั้นจะต้องเข้าตามหลักเกณฑ์การร่วมลงทุน ได้แก่ จะต้องเป็นธุรกิจที่บุกเบิกทางด้านเทคโนโลยี ธุรกิจวิจัยและพัฒนา ธุรกิจที่รับการถ่ายทอดผลงานวิจัยของ สวทช. และธุรกิจที่มี สวทช. เป็นผู้สนับสนุนด้านเทคโนโลยี
นอกเหนือจากนี้ ยังมีบริการอื่นๆ อีกมากมายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี ทั้งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ, การสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์, การสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์ BOI, การรับรองการวิจัย การพัฒนา และนวัตกรรม เพื่อยกเว้นภาษี 300%, การรับรองธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อยกเว้นภาษีเงินได้, การรับรองผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย และการรับเงินบริจาค RDI มาตรการการบริจาคเงินเข้ากองทุนเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ สวทช. เพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษี 2 เท่า
บริการด้านการอบรม
ไม่เพียงแต่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ธุรกิจเท่านั้น สวทช. ยังมีบริการอบรมและถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีให้แก่ผู้ประกอบการ โดยจัดตั้ง NSTDA Academy หรือสถาบันวิทยาการ สวทช. ที่มีหลักสูตรฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 หลักสูตรด้วยกัน ได้แก่ วิทยาศาสตร์ นวัตกรรม เทคโนโลยี และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เชิงบูรณาการ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการและยกระดับธุรกิจให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น
บริการให้คำปรึกษา
เมื่อพบเจอปัญหาหรืออุปสรรคที่ยากจะแก้ไข ผู้ประกอบการหลายคนคงต้องการความช่วยเหลือหรือคำปรึกษาด้านธุรกิจและเทคโนโลยี สวทช. ได้จัดตั้งโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Innovation and Technology Assistance Program: ITAP) ที่จะแก้ไขปัญหาทุกข้อจำกัดของคุณให้ถึงโรงงาน โดยจะได้รับการวินิจฉัยปัญหาจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้มีการแก้ไขอย่างตรงจุด พร้อมทั้งสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการสูงสุดถึง 50% ของงบประมาณโครงการ และยังมีบริการนอกเหนือจากนี้ที่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่าย ประหยัดแรง และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น
บริการด้านสิ่งอำนวยความสะดวก
อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (Thailand Science Park) นิคมวิจัยที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่พร้อมรองรับและสนับสนุนให้เกิดนวัตกรรม การวิจัย และการพัฒนาในภาคเอกชน โดยจัดให้มีโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งอุทยานวิทยาศาสตร์ฯ ประกอบไปด้วยศูนย์วิจัย 4 แห่ง ได้แก่
- BIOTEC ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ
- MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ
- NECTEC ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
- NANOTEC ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ
ภายในจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเพื่อรองรับงานวิจัยที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบห้องปฏิบัติการที่สามารถปรับเปลี่ยนขนาดพื้นที่ตามความต้องการได้ ห้องวิจัยที่สามารถควบคุมความสะอาดของอากาศภายในเป็นพิเศษ ห้องวิจัยที่รับรองอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมากถึง 2 ตันต่อตารางเมตร ห้องวิจัยที่ออกแบบให้มีความปลอดภัยสูง และห้องปฏิบัติการกลางที่ให้บริการด้านเทคนิค
เห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้างหรือยัง กางแผนโปรเจกต์ของคุณแล้วเดินหน้าต่อไปได้เลย เพราะยังมีบริการของ สวทช. อีกมากมายที่จะช่วยสนับสนุนและเปิดโอกาสให้ธุรกิจของคุณได้ก้าวเข้าสู่ตลาดโลกอย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้มั่นใจได้ว่า แม้คุณจะเป็นสตาร์ทอัพหรือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กก็สามารถต่อยอดธุรกิจให้เป็นจริงได้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
- เราได้หยิบเอาเรื่องราวบางส่วนมาบอกเล่าให้เห็นถึงโครงสร้างพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญต่อประเทศ ที่พร้อมให้บริการนักธุรกิจ นักอุตสาหกรรม หรือนักลงทุนที่มีความสนใจทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี แม้ว่างานจะจบลงไปแล้ว แต่ผู้ประกอบการที่สนใจอยากขอคำปรึกษาหรือใช้บริการต่างๆ ของ สวทช. สามารถติดต่อได้ที่โทร. 0 2564 7000 หรือค้นหาข้อมูลกันก่อนที่ www.nstda.or.th