×

อยู่ในสังคมเมืองต้องสตรอง นี่คือ 2 ไอเท็มต้องมี ถ้าอยากปกป้องผิวให้สุขภาพดี๊ดี จากปัจจัยทำร้ายผิวรอบด้าน [Advertorial]

21.03.2019
  • LOADING...
Fresh

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • มลพิษทางอากาศที่ปนเปื้อนไปด้วยสสารต่างๆ เช่น ควันจากท่อไอเสียรถยนต์บนท้องถนน ควันบุหรี่ ค่าฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐานอันมาจากอุตสาหกรรมโรงงานต่างๆ ที่มีขนาดเล็กมาก สิ่งเหล่านี้คือสารพิษที่ทำให้สารอนุมูลอิสระมีมากขึ้น ทำให้ผิวคล้ำเสีย รูขุมขนอุดตัน เกิดอาการระคายเคือง แห้งกร้าน และดูแก่ก่อนวัย
  • แนะนำไอเท็ม Fresh Rose Deep Hydration Facial Toner และ Black Tea Kombucha Facial Treatment Essence ไอเท็มที่ปกป้องผิวให้สุขภาพดีจากปัจจัยทำร้ายผิวรอบด้าน

หัวใจสำคัญของการมีผิวสวยสุขภาพดีคือ การรักษาความสะอาด และคงความชุ่มชื้นให้ผิว แต่ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนในสังคมเมืองที่ไม่หยุดนิ่ง บางคนพักผ่อนไม่เพียงพอ บางคนเครียด หรือทานอาหารไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ผสมโรงกับมลพิษทางอากาศที่ยากจะควบคุม กลายเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวเสีย โดยเฉพาะมลพิษทางอากาศที่ปนเปื้อนไปด้วยสสารต่างๆ เช่น ควันจากท่อไอเสียรถยนต์บนท้องถนน ควันบุหรี่ ค่าฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐานอันมาจากอุตสาหกรรมโรงงานต่างๆ ที่มีขนาดเล็กมาก สิ่งเหล่านี้คือสารพิษที่ทำให้สารต้านอนุมูลอิสระมีมากขึ้น (ยิ่งมีมาก ยิ่งแก่เร็ว)

 

ทำให้ผิวคล้ำเสีย รูขุมขนอุดตัน เกิดอาการระคายเคือง แห้งกร้าน และดูแก่ก่อนวัย

 

ส่งผลให้ผิวโดยรวมดูไม่เฮลตี้เอาเสียเลย แต่เรามี 2 ไอเท็มเด็ด ที่เป็นดั่งบอดี้การ์ดปกป้องผิวมาแนะนำ เพื่อช่วยรับมือกับมลพิษทางอากาศในสังคมเมือง ผิวที่เคยคล้ำเสียเสื่อมโทรมจะได้กลับมาเป็นผิวที่สุขภาพดี๊ดีได้ทุกวัน

 

Fresh

 

สิ่งแรกที่ต้องมีคือโทนเนอร์

โทนเนอร์อาจไม่ใช่ไอเท็มลูกรักของใครหลายๆ คน เพราะคิดว่าแค่ล้างหน้าสะอาดก็เพียงพอแล้ว บางคนมองว่าการใช้โทนเนอร์เป็นขั้นตอนที่ทำให้เสียเวลา จึงข้ามไปทาครีมบำรุงเลย ทั้งที่ความจริงแล้ว โทนเนอร์คือฮีโร่ไอเท็มที่เปรียบเสมือนบอดี้การ์ดส่วนตัวของผิว เพราะนอกจากจะเป็นการทำความสะอาดผิวขั้นตอนสุดท้ายหลังการล้างหน้า เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่อาจตกค้างอยู่บนผิวแล้ว ยังเป็นการช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับคุณค่าการบำรุงจากสกินแคร์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเอสเซนส์ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือครีมกันแดด

 

จะเลือกโทนเนอร์อย่างไรให้เวิร์กกับผิวในสังคมเมือง

ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนเมืองอย่างเราๆ ใช่ว่าจะเลือกโทนเนอร์แบบไหนก็ได้ เราควรให้ความสำคัญไม่ต่างจากการเลือกแฟนที่จะอยู่เคียงข้างเราไปในทุกวัน ถ้าเลือกแค่เพราะเขาเป็นผู้ชายที่ยอมตกลงเป็นแฟนเรา แต่ไม่ดูแล ไม่ใส่ใจเราเลย วันหนึ่งก็ต้องแยกย้ายเลิกรา ดังนั้นเวลาจะเลือกโทนเนอร์ ให้มองหาคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ชีวิตเรามากที่สุด ยิ่งเราอยู่ในสังคมเมืองที่แวดล้อมไปด้วยมลพิษทางอากาศ โทนเนอร์ที่เหมาะกับผิวจึงต้องทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึกจริงๆ และมอบผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้ในเรื่องความชุ่มชื้น สร้างผิวให้เนียนนุ่มสุขภาพดี อยู่ด้วยแล้วสบายใจ

 

เราแนะนำ Fresh Rose Deep Hydration Facial Toner นี่เป็นโทนเนอร์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าเปรียบโทนเนอร์ขวดนี้เป็นคนที่มาขอเป็นแฟนเรา เขาคนนี้ก็ทั้งหน้าตาดี มีความสามารถ ช่างเทกแคร์ แถมยังเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวให้เราได้ทุกวัน จุดเด่นของ Fresh Rose Deep Hydration Facial Toner ที่จะทำให้ชีวิตดี๊ดีมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

 

  • ช่วยเติมและคงความชุ่มชื้นในผิวมากขึ้นถึง 46% ยาวนานกว่า 6 ชั่วโมง หลังการใช้โทนเนอร์ ส่วนผสมเด็ดคือคุณค่าจากกลีบกุหลาบแท้ สายพันธุ์โรชา เซนทิโฟเลียผสมกับน้ำกุหลาบบริสุทธิ์และน้ำมันกุหลาบ ทำให้เป็นโทนเนอร์ที่ใช้แล้วหอมฟิน ได้ความรู้สึกผ่อนคลาย ยิ่งใช้ผิวยิ่งเนียนนุ่มชุ่มชื้น
  • ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก คนที่ใช้โทนเนอร์เช็ดผิวหลังล้างหน้า กับคนที่ไม่ใช้โทนเนอร์เลย สุขภาพผิวจะต่างกัน เพราะไม่ใช่ทุกวันที่คุณจะล้างหน้าได้สะอาดหมดจด การใช้โทนเนอร์เช็ดบำรุงผิว จะช่วยทำความสะอาดสิ่งตกค้างจากมลพิษที่ผิวต้องเผชิญได้ในระดับอนุภาค ไม่ว่าชีวิตต้องฝ่าฝุ่นละอองมาหนักหน่วงแค่ไหน เมื่อล้างหน้าเสร็จแล้วตามด้วยโทนเนอร์สูตรนี้ ก็มั่นใจได้ว่าผิวจะสะอาดและชุ่มชื้นในเวลาเดียวกัน

 

Tips: วันไหนกลับบ้านมาเหนื่อยๆ เอาโทนเนอร์หยดใส่แผ่นมาสก์สำเร็จรูป หรือสำลีใส่ในถุงซิปล็อกนำไปแช่ตู้เย็นให้เย็นฉ่ำ แล้วเอามาสก์ทั่วใบหน้าหลังล้างหน้าจะเพิ่มความฟินให้ผิวอีกเท่าตัวเลยล่ะ

 

Fresh

 

สเตปที่ 2 ใช้เอสเซนส์บำรุงผิวหลังโทนเนอร์

เมื่อเราเตรียมผิวมาอย่างดีด้วยวิธีง่ายๆ อย่างการใช้โทนเนอร์เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปในการพิทักษ์ผิวจากมลภาวะที่เราอยากแนะนำคือ การใช้เอสเซนส์บำรุงผิวนั่นเอง ซึ่งเอสเซนส์ในท้องตลาดมีมากมาย จำแนกเป็นสูตรต่างๆ ที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวแตกต่างกัน แต่ในสังคมเมืองปัจจุบันนี้ แม้แต่การเลือกใช้เอสเซนส์ก็ต้องคำนึงถึงคุณสมบัติของมันด้วยว่า ช่วยปกป้องผิวได้มากแค่ไหน

 

ซึ่งเอสเซนส์ที่เหมาะจะเป็นเนื้อคู่ของเรา ควรจะปกป้องผิวของเราจากปัจจัยทำร้ายผิวรอบด้าน อาทิ มลภาวะทางอากาศ การเผชิญกับรังสี UV และที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิตประจำวันคือ แสงสีน้ำเงินจากหน้าจอมือถือหรือคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานอยู่ทุกวันนั่นเอง เมื่อบวกกับไลฟ์สไตล์ในสังคมเมืองที่อาจไม่เฮลตี้ เช่น นอนดึก เครียดกับการเรียนหรือการงาน ทานอาหารไม่ดี ขาดการออกกำลังกาย ปัจจัยเหล่านี้กระตุ้นให้สารอนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มขึ้น ซึ่งมันไม่ดีต่อสุขภาพผิวเอาเสียเลย อย่าลืมว่าสารอนุมูลอิสระ ถ้ายิ่งมีเยอะ ยิ่งเป็นตัวเร่งให้ผิวพรรณเสื่อมโทรม แห้งเหี่ยว แก่เร็วขึ้น เพราะมันเป็นสารที่ทำลายเนื้อเยื่อและดีเอ็นเอของเซลล์ผิวที่เคยแข็งแรง ให้กลายเป็นเซลล์ที่อ่อนแอ พอเซลล์อ่อนแอ การทำงานของร่างกายที่ควรจะสร้างคอลลาเจนได้เต็มที่ ก็กลายเป็นสร้างได้น้อย ผิวจึงเสื่อมสภาพ และโชว์ผลลัพธ์ออกมาเป็นผิวที่หย่อนคล้อย แห้งกร้าน เสื่อมโทรมนั่นเอง

 

เอสเซนส์ที่เหมาะกับคนเมืองที่เราแนะนำคือ Black Tea Kombucha Facial Treatment Essence เป็นเอสเซนส์ที่เรายกให้เป็นเนื้อคู่ดูแลผิวในชีวิตประจำวันได้เลย จุดเด่นซึ่งเป็นคุณสมบัติเฉพาะที่ทำให้เอสเซนส์ขวดนี้แตกต่างจากเอสเซนส์อื่นๆ ที่มีอยู่ตามท้องตลาดคือ นวัตกรรมที่มุ่งเน้นคิดค้นจนได้เป็นเอสเซนส์ที่ตอบโจทย์ในการปกป้องผิวจากมลภาวะที่กำลังลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ ทั้งในประเทศและระดับโลก ซึ่งรวมถึงฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งเป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน  เกิดจากอุตสาหกรรมการผลิต การเผาไหม้ การผลิตไฟฟ้า รวมถึงการคมนาคมขนส่งต่างๆ ที่ปล่อยก๊าซเผาไหม้ของเชื้อเพลงออกมาเต็มไปหมด ในอากาศที่เราสูดดมเข้าไปจึงไม่ได้มีแค่ฝุ่นธรรมดา แต่ยังมีเหล็ก โครเมียม สังกะสี ปนเปื้อนมาด้วย ความอันตรายของฝุ่นประเภทนี้สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจได้ และเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆ อีกมากมาย ในด้านผิวพรรณ ปัจจัยของฝุ่นละออง PM2.5 เป็นดั่งสารพิษที่เป็นต้นเหตุทำให้ผิวคล้ำเสีย รุขุมขนอุดตัน เกิดการระคายเคืองและแห้งกร้าน ผิวที่เผชิญมลภาวะทุกวัน แต่ไร้การปกป้อง จึงกลายเป็นผิวที่ดูอ่อนล้า หมองคล้ำ และฝุ่นละอองเหล่านี้ยังเป็นสาเหตุของการเกิดสารอนุมูลอิสระที่ทำลายสุขภาพผิว และทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

 

ความดีงามอันดับแรกของ Black Tea Kombucha Facial Treatment Essence ขวดนี้จึงเป็นดั่งบอดี้การ์ดส่วนตัวที่จะมาปกป้องผิวจากมลภาวะ จากคุณสมบัติของส่วนผสมจากคอมบูชา ช่วยต่อต้านมลภาวะทางอากาศ โดยเข้าจับคู่กับโลหะหนัก (เหล็ก) ที่ปนเปื้อนมากับอากาศและน้ำ ยับยั้งไม่ให้มลภาวะเหล่านี้สร้างกระบวนการ ออกซิเดชันและทำลายผิว ความดีงามอันดับที่ 2 คือ เป็นเอสเซนส์ที่ปกป้องผิวจากสารอนุมูลอิสระ เพราะพิสูจน์แล้วว่า สามารถยับยั้งการสะสมของสารอนุมูลอิสระได้จริง โดยเปลี่ยนขั้วลบของสารอนุมูลอิสระให้เป็นกลาง และต่อต้านการทำปฏิกิริยาของมลพิษทางอากาศให้กับเซลล์ผิว

 

เราจึงสรุปประโยชน์เด่นๆ 8 ประการของ Black Tea Kombucha Facial Treatment Essence ได้ดังนี้

 

  1. ปกป้องผิวจากการทำลายของมลภาวะและสารอนุมูลอิสระ จากส่วนผสมสำคัญที่ชื่อว่า คอมบูชา หรือชาดำหมัก ที่โดดเด่นเรื่องการต้านอนุมูลอิสระอยู่แล้ว (หากใครเคยดื่มเครื่องดื่มคอมบูชา จะพบว่า ดีต่อสุขภาพและระบบอวัยวะภายในร่างกายเช่นเดียวกัน)
  2. เติมความเปล่งประกายให้ผิว
  3. ลดเลือนริ้วรอยเส้นเล็กให้ดูจางลง
  4. กระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง
  5. เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
  6. บำรุงผิวให้เรียบเนียน
  7. คืนความเปล่งปลั่งให้ผิวแลดูสุขภาพดี
  8. มอบความชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง

 

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากมีบอดี้การ์ดปกป้องผิวกับเขาบ้าง สามารถพบกับ 2 ผลิตภัณฑ์นี้ได้ที่ Fresh และ Sephora ทุกสาขา โดย Rose Deep Hydration Facial Toner 250 ml ราคา 1,760 บาท และขนาดใหม่ล่าสุด 100 ml ราคา 980 บาท ส่วนไอเท็ม Black Tea Kombucha Facial Treatment Essence 150 ml ราคา 2,900 บาท

 

ภาพประกอบ: Dreaminem

ภาพ: Courtesy of Fresh

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

FYI

Fresh

  • เลฟ กลาสมัน ผู้ร่วมก่อตั้ง Fresh เป็นผู้ที่ทุ่มเทศึกษาเรื่องคุณประโยชน์ของชาดำหมัก หรือคอมบูชา มาเป็นเวลานาน การค้นพบเครื่องดื่มชาดำหมักนี้ ทำให้เขาคิดค้น Black Tea Complex เป็นเอกลักษณ์ของ Fresh ขึ้นมา ทำงานร่วมกับห้องวิจัยของ Fresh เพื่อศึกษาและดึงเอาความมหัศจรรย์ที่เป็นประโยชน์ต่อผิวพรรณของคอมบูชามาผลิตเป็นเอสเซนส์ที่คืนความสวยงาม และช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างพิสูจน์ได้จริง
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X