แน่นอนว่าเทรนด์การเดินทางมีให้เราเห็นมากขึ้นทุกวัน อย่าง Travel Blogger ที่พาเราเที่ยวรอบโลกผ่านโซเชียลมีเดียก็มีให้เห็นเต็มไปหมด หรือโปรโมชันจากสายการบินต่างๆ ที่ทำให้เที่ยวยุโรปไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นิตยสาร Forbes ได้นำเสนอบทความในหัวข้อ ‘Travel Brands Shift Their Attention To The Millennial Market’ ที่ช่วยยืนยันการมาถึงของเทรนด์ท่องเที่ยวในหมู่หนุ่มสาวยุคมิลเลนเนียล ด้วยการที่บริษัทด้านการท่องเที่ยวหลายแห่งหันมาสนใจกลุ่มเป้าหมายที่อายุน้อยลง ตั้งแต่ Airbnb ไปจนถึงแบรนด์ใหญ่อย่าง Hilton ที่ออกมาจัดคอนเสิร์ตภายในโรงแรมรอบสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การเดินทาง

     นอกจากการพาตัวเองไปเที่ยว เรายังต้องให้ความสำคัญกับข้าวของที่ใช้ในการเดินทาง โดยเฉพาะตัวเอกของงานอย่าง ‘กระเป๋าเดินทาง’ ถ้าเป็นคนยุคมิลเลนเนียลที่ใส่ใจทั้งราคา คุณภาพ และการออกแบบ เราจะเลือกกระเป๋าเดินทางแบรนด์ไหนดีล่ะ?

 

 

     เพื่อนคู่หูอย่างสเตฟ คอรี (Steph Korey) และเจน รูบิโอ (Jen Rubio) ตั้งคำถามนี้ขึ้นมาจากความที่พวกเธอไม่อยากเสียเงินให้กับกระเป๋าเดินทางแบรนด์ใหญ่ๆ ในตลาดที่ทั้งราคาแพงและไม่ตอบโจทย์ความต้องการได้เสียทีเดียว ทั้งคู่จึงเริ่มกระจายแบบสอบถามให้กับนักเดินทางกว่า 800 คน และหารูปแบบกระเป๋าที่นักเดินทางยุคใหม่ต้องการมากที่สุด

     ในปี 2015 ทั้งคู่เปิดตัวแบรนด์กระเป๋าเดินทางในชื่อสั้นๆ เก๋ๆ ว่า ‘Away’ และใช้เวลาแค่ปีเดียว พวกเธอสร้างยอดขายได้ถึง 12 ล้านเหรียญสหรัฐจากกระเป๋าเดินทางที่ออกแบบภายใต้แนวคิด ‘Made For Life’ ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดและตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่จริงๆ ทั้งรูปทรงที่สวยงาม เรียบง่าย ชุดสีที่คัดเลือกมาแล้วทั้งเทา เบจ เขียวเข้ม น้ำเงิน ดำ แดง และเหลือง (สีเหลือง limited edition จากคอลเล็กชัน Minion ที่ THE STANDARD เคยนำเสนอให้ดูไม่นานมานี้)

     นอกจากรูปทรงเรียบง่าย ภายในยังมีการเสริมกระเป๋าตาข่ายสำหรับใส่เสื้อผ้าแยกซักที่สามารถถอดได้ ตัวล็อกที่ผ่านมาตรฐาน TSA รูปแบบซิปด้านข้างที่ทำให้จุของได้มากขึ้น และจุดเด่นที่สร้างชื่อให้กับแบรนด์ก็คือช่องยูเอสบีสำหรับเสียบชาร์จมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา! ไม่ต้องห่วงว่าจะโหลดกระเป๋าลงใต้ท้องเครื่องได้ไหม หรือถ้าโดนด่านตรวจคนเข้าเมืองดุเข้าจะทำอย่างไร เพราะตัวแบตเตอรี่สามารถถอดแยกจากกระเป๋าเดินทางได้ด้วย

     Away มีทั้งหมด 4 ขนาด สำหรับถือขึ้นเครื่อง 2 ขนาด และใบใหญ่สำหรับโหลดใต้ท้องเครื่องอีก 2 ขนาด โดยตั้งราคาเริ่มต้นที่ 225 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7,500 บาทไทยเท่านั้น!

 

     นอกจากดีไซน์ที่น่าสนใจมากๆ แล้ว ที่น่าจับตามองก็คือผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง สเตฟ คอรี และเจน รูบิโอ

     สเตฟเริ่มจากการทำงานเป็นบายเออร์ให้กับห้างสรรพสินค้า Bloomingdale’s และย้ายไปทำให้กับแบรนด์เสื้อผ้า Kate Spade ขณะที่เจนทำงานในตำแหน่ง Social Media Expert ให้กับบริษัทใหญ่อย่าง Neutrogena, Ford, Disney และ Amazon ก่อนที่ทั้งคู่จะมาพบกันที่ ‘Warby Parker’ แบรนด์แว่นตาฮิปสเตอร์ในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่โด่งดังในหมู่คนรุ่นใหม่ ด้วยดีไซน์แว่นที่ดูหรูหราในราคาที่แสนถูก จากจำนวนพนักงานที่เริ่มต้นจาก 15 คน จน Warby Parker ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและมีพนักงานกว่า 300 คน ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจลาออก

     สเตฟเลือกเรียนต่อด้านการบริการจัดการธุรกิจที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ส่วนเจนย้ายไปอังกฤษเพื่อทำงานให้กับบริษัทรีเทล AllSaints แต่ไม่นานทั้งคู่ก็ค้นพบความต้องการที่จะสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง จึงนัดเจอกันเพื่อเริ่มสร้างแบรนด์ Away ที่ปัจจุบันขายได้แล้วกว่าแสนใบ ยอดขายกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ทั้งคู่ยังอายุไม่ถึง 30 ด้วยซ้ำ! สเตฟเคยติดอันดับนักลงทุนอายุต่ำกว่า 30 ของ Forbes ในขณะที่เจนติดอันดับนักการตลาดและการโฆษณาที่อายุต่ำกว่า 30 ของ Forbes ด้วยเช่นเดียวกัน

 

 

     ปัจจุบันนี้ Away มีหน้าร้านแค่ในนิวยอร์กและลอสแอนเจลิสเท่านั้น โดยในร้านจะมีกระเป๋าเดินทางทุกสี ทุกขนาด รวมทั้งของจุกจิกอื่นๆ ทั้งน้ำหอมดีไซน์เก๋ขนาดเล็ก ผ้าห่มอัดกระป๋อง แปรงสีฟันพกพา และอื่นๆ เพราะในอนาคต Away มีแผนที่จะวางขายของใช้ในการเดินทางอย่างครบครัน เพื่อให้กลายเป็นศูนย์กลางสินค้าที่ดีทั้งคุณภาพและดีไซน์ที่ทุกคนจะต้องนึกถึง

     แค่เห็นหน้าร้านที่ตกแต่งแบบเหมาะกับการถ่ายรูปลงอินสตาแกรมก็เตะตาจนทำให้ต้องหันมอง แบรนด์ Away ไม่ใช่แค่กระเป๋าเดินทางที่เท่ เพราะที่มาของสองสาวผู้ก่อตั้งแบรนด์ทำให้เราอยากมี Away สักใบไว้เป็นของตัวเอง