(2 ม.ค.) ภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยถึงสถานการณ์ของพายุโซนร้อนปาบึก ซึ่งเป็นพายุโซนร้อนที่เกิดขึ้นในรอบ 30 ปีว่าจะส่งผลกระทบต่อจังหวัดทางภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย โดยจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศไทยตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (3 ม.ค.) โดยศูนย์กลางอยู่จะขึ้นที่อำเภอละแม จังหวัดชุมพร และจะส่งผลให้ช่วงวันที่ 3-4 มกราคม จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส, ระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และสตูล
โดยเฉพาะวันที่ 4 มกราคมจะเป็นวันที่มีสถานการณ์ฝนหนักที่สุด โดยจะมีฝนตกหนักเฉลี่ยอย่างต่ำอยู่ที่ 120-130 มิลลิเมตรต่อวัน เปรียบเทียบกับการใช้ที่ปัดน้ำฝนระดับ 3 แต่ก็ยังไม่เห็นเส้นทาง และมีลมกระโชกแรง โดยในวันดังกล่าวอาจส่งผลกระทบให้เกิดฝนตกหนักในพี้นที่ภาคกลางด้วยคือ ราชบุรี, นครปฐม, สมุทรสงคราม รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ส่วนวันที่ 5 มกราคมจะมีปริมาณฝนทางภาคใต้ฝั่งตะวันตก เช่น ระนอง พังงา และภูเก็ต จากนั้นวันที่ 6-7 มกราคม พายุจะเคลื่อนออกจากประเทศไทยไปเข้าบังกลาเทศ ส่งผลให้สถานการณ์ฝนในไทยลดลง แต่ยังส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในบางพื้นที่คือประจวบคีรีขันธ์
ความเร็วลมอยู่ที่ประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาจจะไม่ถึง 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามที่มีการคาดการณ์ และไม่น่าจะพัฒนาเป็นพายุไต้ฝุ่น ซึ่งขณะนี้ความเร็วลมอยู่ที่ประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อขึ้นชายฝั่งคาดว่ากำลังลมจะไม่พัฒนาไปถึง 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากเมื่อถึงฝั่งจะมีตัวลดแรงเสียดทานทั้งภูเขาและบ้านเรือนประชาชนให้อ่อนกำลังลง แต่มีโอกาสเกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง (สตอร์มเซิร์จ) บริเวณชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์ อำเภอบางสะพาน อำเภอละแม อำเภอหลังสวน โดยพายุลูกนี้มีกำลังแรงเทียบเท่าพายุโซนร้อนแฮเรียตในปี 2505
ทั้งนี้ช่วงวันที่ 3-4 มกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่ศูนย์กลางพายุเคลื่อนตัวเข้าไทย ต้องเฝ้าระวังการเกิดคลื่นสูง 3-5 เมตร ซึ่งพื้นที่อันตราย 2 จุดคือตั้งแต่แนวชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์ทั้งหมด ไปถึงชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราชตอนบน
และจุดที่ 2 ที่ศูนย์กลางพายุเคลื่อนเข้าหาจะเกิดลมแรง มีฝนตกหนักถึงหนักมากที่บริเวณเกาะสมุย เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้โดยปกติในไทยจะไม่ค่อยเกิดพายุขึ้นในเดือนมกราคม ส่วนใหญ่จะเกิดในเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม โดยสาเหตุการเกิดพายุลูกนี้เนื่องจากลักษณะของอากาศและผิวน้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นกว่าปกติ จึงเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้สภาพอากาศแปรปรวน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
