คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross : ICRC) เผยแพร่แถลงการณ์ ยืนยันว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคนกลางด้านมนุษยธรรมที่เป็นกลางเพื่อสนับสนุนการปล่อยตัวและส่งกลับเชลยศึกจำนวน 18 ราย ซึ่งถูกกักคุมจากสถานการณ์การขัดกันทางอาวุธระหว่างประเทศกัมพูชาและไทย โดยปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามแถลงการณ์ร่วมที่ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2025 ซึ่งเปิดทางให้เชลยศึกสามารถเดินทางจากประเทศไทยกลับสู่ประเทศกัมพูชาได้
มีรยานา สปอลยาริช ประธาน ICRC กล่าวว่า “การปล่อยตัวและส่งกลับเชลยศึกในวันนี้ไม่เพียงช่วยให้ครอบครัวได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนพันธสัญญาที่ระบุไว้ในแถลงการณ์ร่วมให้เกิดผลเป็นรูปธรรม การปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการส่งตัวเชลยศึกกลับประเทศเมื่อการสู้รบสิ้นสุดลง มีความสำคัญยิ่งต่อการช่วยสร้างความเชื่อมั่นระหว่างคู่ขัดแย้งและปูทางสู่สันติภาพที่ยั่งยืน ดิฉันหวังว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของปีใหม่ที่เปี่ยมด้วยสันติภาพและความมั่นคง ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนของทั้งสองประเทศต่างต้องการและสมควรจะได้รับ”
นับตั้งแต่มีการกักคุมเชลยศึกในประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ICRC ได้เข้าเยี่ยมเชลยศึกทั้ง 18 รายรวม 4 ครั้ง ตามบทบัญญัติแห่งอนุสัญญาเจนีวา โดยเป็นไปเพื่อติดตามความเป็นอยู่และสภาพการกักคุม พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารกับครอบครัว ทั้งนี้ ในฐานะองค์กรที่เป็นกลางและไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด การปฏิบัติงานของไอซีอาร์ซีในสถานที่กักคุมจะยึดถือหลักการรักษาความลับและการเจรจาทวิภาคีกับหน่วยงานที่กักคุมเป็นสำคัญ
ตามอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 3 เชลยศึกจะต้องได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับภูมิลำเนาโดยทันทีหลังสิ้นสุดการสู้รบ โดยจะยังคงได้รับสถานะและการคุ้มครองตามอนุสัญญาจนกว่ากระบวนการปล่อยตัวและส่งกลับจะเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์


