วันนี้ (29 ธันวาคม) รังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมผู้สมัคร สส. เขตบางพลัด-บางกอกน้อย ของพรรคประชาชน ในคดีฟอกเงินเครือข่ายยาเสพติด
รังสิมันต์ กล่าวว่า ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ตนขอกล่าวคำขอโทษไปยังประชาชน ผู้สนับสนุน และสมาชิกพรรคทุกคน เหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของพรรคประชาชน แม้ที่ผ่านมาพรรคจะมีระบบการคัดกรองผู้สมัครที่เข้มข้น ทั้งการเปิดกว้างให้คนรุ่นใหม่เสนอตัว การตรวจสอบประวัติอาชญากรรมผ่านลายนิ้วมือ และการตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโร ซึ่งถือว่ารัดกุมกว่าปีที่ผ่านๆ มา แต่ต้องยอมรับความจริงว่ายังมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ซึ่งพรรคขอน้อมรับไว้ปรับปรุงแก้ไข
“ผมขอเน้นย้ำว่า วาระสำคัญของประเทศไทยในขณะนี้คือการที่ ‘ทุนสีเทา’ พยายามแทรกซึมไปทุกอณูของสังคมและเข้ามีบทบาทอำนาจทางการเมือง เราต้องยอมรับความจริงข้อนี้ และไม่ควรนำความผิดพลาดในเหตุการณ์หนึ่งมาปิดปากหรือห้ามไม่ให้มีการตรวจสอบเรื่องทุนเทา เพราะเรื่องนี้เป็นผลประโยชน์มหาศาลของประเทศชาติ” รังสิมันต์ กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาชน ยืนยันว่า จุดยืนของพรรคในการต่อสู้กับธุรกิจสีเทา ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือสแกมเมอร์ ยังคงหนักแน่นเหมือนเดิม โดยพรรคประชาชนจะไม่ทำการปกป้องหรือช่วยเหลือบุคลากรของพรรคหากพบว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย หากมีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือ พรรคพร้อมดำเนินการปรับเปลี่ยนบุคคลให้เหมาะสมทันที เพื่อรักษาความถูกต้อง
รังสิมันต์ ยังได้ฝากข้อเรียกร้องไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า อยากเห็นมาตรฐานการตรวจสอบเช่นนี้เกิดขึ้นกับวงการการเมืองในทุกพรรค ผู้ที่จะเข้ามาทำงานการเมืองต้องปราศจากข้อครหาในเรื่องทุนสีเทา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนโยบายปราบปรามยาเสพติดและการค้ามนุษย์
“หากหลังการเลือกตั้ง พรรคประชาชนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เรายืนยันว่าจะดำเนินนโยบายปราบปรามทุนสีเทาแบบ ‘ถึงลูกถึงคน’ เพื่อถอนรากถอนโคนขบวนการเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐคนใดที่เกี่ยวข้อง จะต้องถูกจัดการขั้นเด็ดขาด เหตุการณ์ในวันนี้เป็นบทเรียนสำคัญ แต่จะไม่ทำลายเจตจำนงของเราที่จะกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายให้หมดไปจากประเทศ” รังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้าย
