วันนี้ (17 ธันวาคม) ในงานสัมมนาว่าที่ผู้สมัคร สส. ของพรรคประชาชน ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ที่พรรคประชาชนส่งผู้สมัครครบทั้ง 400 เขต รวมถึง สส. บัญชีรายชื่อ 100 คน ที่จัดทำเสร็จแล้ว เพื่อเตรียมเข้าสู่กระบวนการไพรมารีโหวตตามขั้นตอนกฎหมาย ก่อนวันรับสมัคร สส. อย่างเป็นทางการในวันที่ 27 ธันวาคม 2568 ที่จะถึงนี้
ภายในงานสัมมนา ผู้บริหารพรรคได้กล่าวถึงแนวทางการหาเสียง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ได้กล่าวต้อนรับว่าที่ผู้สมัคร สส. และย้ำถึงความสำคัญของการเลือกตั้งในฐานะวันตัดสินอนาคตประเทศไทยว่า จะเดินหน้าต่อไปสู่การจัดการปัญหาเรื้อรังอย่างเต็มรูปแบบ หรือจมดิ่งสู่ความเทา ให้ทุนเทาดำยึดประเทศ
ณัฐพงษ์ย้ำว่า ผู้สมัคร สส. แบบแบ่งเขต มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เพราะพรรคต้องการได้ที่นั่งในสภามากที่สุด แต่ผู้สมัครเขตคือตัวแทนของพรรคในทุกพื้นที่ ที่จะต้องเดินไปพูดคุยทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ถึงนโยบายและแนวทางการทำงานของพรรค ตลอดจนทำให้ประชาชนตระหนักว่า 1 เสียงของตนเองจะเป็นการชี้ชะตาอนาคตประเทศไทย ว่าจะได้รัฐบาลแบบไหนมานำพาประเทศไปข้างหน้า
“ขอให้ว่าที่ผู้สมัครทุกคน ครองตนอยากมีวุฒิภาวะ และใช้โอกาสในการประชุมใหญ่ 2 วันนี้ เป็นเวลาเก็บเกี่ยวความรู้นโยบายกว่า 200 นโยบายของเราอย่างเต็มที่ เพื่อให้นำไปใช้ในการทำงานพื้นที่และหาเสียงเลือกตั้งต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ” ณัฐพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ ตลอดการสัมนา มีการจัดเวิร์คชอปติวเข้มผู้สมัคร สส. ใน 4 หัวข้อ ได้แก่ ชุดนโยบายความมั่นคงและประชาธิปไตยใหม่ โมเดลพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ ชุดนโยบายพลิกคุณภาพชีวิตคนไทย และชุดนโยบายปฏิรูประบบบริหารราชการแผ่นดินครั้งใหญ่ ซึ่งพรรคประชาชนเชื่อมั่นว่านโยบายจะเป็นจุดแข็งของพรรค เช่นเดียวกับใน 2 การเลือกตั้งที่ผ่านมา และครั้งนี้ นโยบายที่ลงลึก มีทั้งหลักการและการวิธีการทำนโยบายให้เป็นจริง จะทำให้ประชาชนสามารถตัดสินใจได้ว่าจะมอบความไว้วางใจให้พรรคการเมืองใดบริหารประเทศ ซึ่งพรรคประชาชนเชื่อว่าการทำการเมืองแบบโปรงใส ไม่ซื้อเสียง ชนะใจคนด้วยนโยบาย จะสามารถสร้างมีทีมบริหารประเทศที่มีความรู้ความสามารถ พาไทยพ้นจากวงจรการเมืองทุนเทา มุ้งบ้านใหญ่ ที่ฉุดรั้งประเทศไทยมาหลายสิบปีได้










