กระแสการวิ่งในประเทศไทยกำลังขยายตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการวิ่งเป็นกลุ่มหรือ Run Club รวมถึงการวิ่งเทรล (Trail Running) ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั้งในไทยและตลาดโลก เทรนด์ดังกล่าวไม่เพียงสะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ตลาดรองเท้าวิ่งเติบโตมากกว่า 10% ต่อปี
ท่ามกลางการเติบโตของอุตสาหกรรมดังกล่าว แบรนด์ HOKA สปอร์ตแวร์สัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งถือกำเนิดจากแพสชั่นของคู่รักนักวิ่งเทรล กำลังก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในแบรนด์รองเท้าวิ่งที่เติบโตเร็วที่สุดในตลาดเอเชีย ปัจจุบัน HOKA มีสาขามากกว่า 100 แห่งทั่วภูมิภาค รวมถึงประเทศไทย และภายในสิ้นปีนี้เตรียมขยายสาขาในประเทศให้ครบ 9 แห่ง
โดยล่าสุด HOKA ได้เปิดสาขาใหม่ที่สยามเซ็นเตอร์ โดยอยากสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้เชื่อมโยงกับแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ขณะเดียวกันในปีหน้าบริษัทมีแผนขยายเพิ่มอีก 3 สาขา ซึ่งแต่ละแห่งจะถูกออกแบบภายใต้คอนเซปต์ร้านที่แตกต่างกัน เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้น
พรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรฟ อิดิชั่น จำกัด (REV Edition) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย HOKA ในประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ HOKA สามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว มาจากกระแสการวิ่งที่เติบโตต่อเนื่อง ผสานกับคาแรกเตอร์ของแบรนด์ที่ชัดเจน ทั้งด้านดีไซน์และคุณภาพสินค้า โดย HOKA ยึดหลัก ‘ทำในสิ่งที่แบรนด์ถนัด’ ไม่เน้นวิ่งตามเทรนด์แฟชั่นหรือการแข่งขันด้านราคาในตลาด
จุดเด่นของ HOKA อยู่ที่การออกแบบรองเท้าพื้นหนาและขนาดใหญ่กว่ารองเท้าวิ่งทั่วไป เพื่อช่วยรองรับแรงกระแทก ลดอาการบาดเจ็บ และเพิ่มความสบายในการวิ่งระยะกลางถึงระยะไกล ซึ่งสอดรับกับความต้องการของนักวิ่งยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและประสบการณ์การวิ่ง มากกว่าการทำสถิติความเร็วเพียงอย่างเดียว
แนวโน้มดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นว่าวัฒนธรรมการวิ่งในประเทศไทยกำลังขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ จากเดิมที่ตลาดนักวิ่งกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มการวิ่งถนนและการทำสถิติ ปัจจุบันได้ขยายไปสู่กลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลายขึ้น ตั้งแต่กลุ่มวิ่งเพื่อสุขภาพ กลุ่มออกกำลังกายในสวนสาธารณะ กลุ่มวิ่งเชิงไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงกลุ่มนักวิ่งเทรลที่มีอัตราการเติบโตสูง
ยิ่งหลังสถานการณ์โควิด ผู้บริโภคจำนวนมากหันมาใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ และมองหาประสบการณ์การออกกำลังกายรูปแบบใหม่ ส่งผลให้การวิ่งเทรลได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตอบโจทย์ทั้งด้านสุขภาพ ความท้าทาย และการสะท้อนตัวตนด้านไลฟ์สไตล์ของนักวิ่งรุ่นใหม่
ในระยะต่อจากนี้ HOKA วางประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางหรือ Hub ของภูมิภาค เพื่อใช้เป็นฐานในการพัฒนา Regional Playbook ซึ่งมองว่าประเทศไทยฯ เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงของอุตสาหกรรมกีฬาและรองเท้าวิ่ง ด้วยจำนวนประชากรนักวิ่งที่มีประมาณ 15 ล้านคน ประกอบกับการเกิดขึ้นของงานวิ่งใหม่ๆ จากผู้จัดอีเวนต์หลากหลายราย โดย HOKA มุ่งสร้างคอมมูนิตี้ผ่านการจัดกิจกรรมร่วมกับนักวิ่ง ให้ความรู้เรื่องการเริ่มต้นวิ่งอย่างถูกวิธี ปัจจุบันมีสมาชิกในกลุ่มรันคลับมากกว่า 5,000 ราย และยังสนับสนุนวัฒนธรรมการวิ่งเทรลผ่านการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน UTMB ถึง 2 รายการ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
สำหรับกลยุทธ์ดังกล่าวคาดว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แบรนด์ ทั้งในแง่การขยายการเข้าถึงลูกค้าและการสร้างการรับรู้ในวงกว้าง โดยในปี 2569 บริษัทประเมินว่าตลาดสินค้าและรองเท้ากีฬาจะมีนักวิ่งหน้าใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่เริ่มจากการวิ่งเชิงไลฟ์สไตล์ ก่อนพัฒนาไปสู่ระยะ 10 กิโลเมตร 20 กิโลเมตร หรือขยับสู่การวิ่งเทรล ซึ่ง HOKA เตรียมพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อตอบโจทย์กลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง
“คาดว่าปีหน้าจะเป็นช่วงพีกของตลาดรองเท้าวิ่ง แม้ภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อจะกดดันการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่ธุรกิจรองเท้าวิ่งได้รับผลกระทบน้อยกว่าหลายอุตสาหกรรม เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y และ Gen Z ที่หันมาดูแลสุขภาพและออกกำลังกายอย่างจริงจัง” พรศักดิ์ กล่าวย้ำ


