ย้อนกลับไปราว 10 กว่าปีที่แล้ว เราคงจินตนาการไม่ออกว่าเทคโนโลยีจะทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบายได้มากขึ้นแค่ไหน ใครจะไปคิดว่าในวันที่เหนื่อยล้าจากการทำงานจนไม่อยากทำอาหาร ฝนตก รถติด แต่ท้องดันหิว อาหารก็สามารถเดินทางมาถึงเราได้ในเวลาเพียงไม่กี่สิบนาทีหลังจากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน
ลองมาย้อนดูกันว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เทคโนโลยีพาเราไปได้ไกลแค่ไหน
การเดินทาง
เมื่อก่อนแผนที่คือสิ่งจำเป็นอันดับต้นๆ ที่เราต้องมีเมื่อออกเดินทาง และบ่อยครั้งเราก็หลงทางกันได้ง่ายๆ เพียงเพราะแผนที่ในแผ่นกระดาษไม่สามารถอัปเดตเส้นทางใหม่ๆ ไปพร้อมกับการตัดถนนหนทางที่ขึ้นมาตลอดได้ บ่อยครั้งเราจึงต้องแวะจอดรถถามทางกันริมถนน แต่ทุกวันนี้เพียงแค่เรามีสมาร์ทโฟนสักเครื่อง การเดินทางไม่ว่าใกล้หรือไกลก็เป็นเรื่องง่ายดายขึ้นมาทันที เพียงแค่เราเปิดใช้งาน Google Maps ยิ่งทุกวันนี้มีการพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ กันอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่การนำทางด้วยเสียงที่ทำให้คุณไม่ต้องคอยหันไปมองหน้าจอมือถือ ไปจนถึงความสามารถในการประเมินเส้นทางที่รถติดน้อยที่สุด อีกทั้งยังสามารถประมาณการระยะเวลาที่เราจะใช้เดินทางได้อีกด้วย
การจัดเก็บข้อมูล
หลายคนคงคุ้นเคยกันดีกับแผ่นพลาสติกทรงสี่เหลี่ยม Floppy Disk อุปกรณ์สำหรับบันทึกข้อมูลที่คุณครูให้พกไปโรงเรียนในคาบเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะพัฒนาไปเป็นแผ่น CD/DVD และ Flash Drive ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นทำให้ปัจจุบันเราสามารถจัดเก็บไฟล์ต่างๆ ได้โดยไม่ต้องอาศัย Hard Drive ใดๆ ด้วยเทคโนโลยี Cloud Storage แหล่งเก็บไฟล์ขนาดใหญ่ในโลกออนไลน์ที่เราสามารถดึงข้อมูลมาใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงแค่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และยังสามารถนำกลุ่มคลังข้อมูลที่จัดเก็บแบบ Big Data นี้มาประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อต่อยอดการทำงานต่อไปได้อีกด้วย
การติดต่อสื่อสาร
เมื่อก่อนการโทรศัพท์หากันไม่ใช่เรื่องง่าย เราต้องใช้หมายเลขโทรศัพท์บ้านเป็นหลัก หรือหากจะใช้มือถือก็เครื่องใหญ่และราคาค่อนข้างสูง หากต้องการโทรหาใครสักคนอาจต้องหยิบเหรียญออกไปหยอดตู้สาธารณะ และยิ่งการโทรศัพท์ไปต่างประเทศด้วยแล้วนั้นยิ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยค่าโทรที่แสนแพงเราอาจต้องใช้การส่งแอร์เมลที่ราคาถูกกว่าแต่ก็ต้องใช้เวลานาน การพัฒนาของเทคโนโลยีในทุกวันนี้ทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น ใครจะไปคิดว่าการสื่อสารจะกลายเป็นเรื่องที่แสนง่ายดาย แม้เราอยู่ไกลกันก็สามารถวิดีโอคอลหากัน ได้เห็นหน้ากันโดยที่ระยะทางไม่ใช่ปัญหา เพราะเทคโนโลยีทำให้เราใกล้กันมากขึ้น
การพัฒนาของเทคโนโลยีนับเป็นสิ่งที่เข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันของเราให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นในแทบทุกจังหวะของชีวิต CDG บริษัทที่ให้บริการด้าน Information Technology (IT) รอบด้าน ทั้ง Hardware และ Software รวมไปถึงบริการด้านการหา Solution การจัดการบริการด้านเทคโนโลยีสำหรับรัฐบาลและองค์กรเอกชนคือหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในประเทศไทย
กว่า 50 ปี ที่ CDG ได้เข้ามามีบทบาทในการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นพัฒนาระบบการบริหารงานทั่วไปในองค์กรขนาดใหญ่ หนึ่งในโครงการที่เกี่ยวข้องกับคนไทยทุกคนคืองานเกี่ยวกับระบบงานทะเบียนราษฎร์และบัตรประจำตัวประชาชน โดย CDG ได้รับมอบหมายจากกระทรวงมหาดไทยให้มาดูแลโครงการจัดทำเลขบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมทำบัตรประชาชนรวมไปถึงการเก็บข้อมูลพื้นฐานของประชากรไทยเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
รวมไปถึงการให้บริการระบบหนังสือผ่านแดน (E-Border Pass) เชื่อมโยงข้อมูลบุคคลจากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการสัญจรข้ามแดนหรือต่ออายุหนังสือผ่านแดนให้แก่ประชาชนไทยที่เดินทางเข้าออกบริเวณพื้นที่ชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ เมียนมา ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย
และ CDG ยังเป็นบริษัทที่จำหน่ายและติดตั้งเครื่องกดเงินสด (ATM) ให้กับธนาคารชั้นนำขอประเทศไทย มากกว่า 10,000 เครื่องทั่วประเทศ เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พร้อมทั้งเป็นผู้ดูแลและพัฒนาระบบของเครื่อง ATM ให้มีความสะดวก ครอบคลุม และตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้ง การเบิก-ถอน โอนเงิน และชำระค่าบริการต่างๆ
นอกจากนี้ CDG ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ (Geographic Information System: GIS) ที่ให้บริการด้านแผนที่ที่แม่นยำ ด้วยการรวบรวมข้อมูลแผนที่ดิจิทัลความเร็วสูง ในชื่อ NOSTRA Map ซึ่งเป็นแผนที่นำทาง GPS ที่ได้รับการยอมรับในตลาดนำทาง GPS ของรถยนต์มากว่า 10 ปี และยังทำงานร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ GPS ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Garmin, SpeedNavi และ Kamaz นอกจากนี้ยังได้รับการยอมรับจากค่ายรถยนต์ชั้นนำ ทั้ง Honda, Toyota และ Mitsubishi รวมไปถึงแอปพลิเคชันนำทางบนสมาร์ทโฟน เช่น AIS Guide&Go
อีกทั้งผู้ประกอบธุรกิจด้านโลจิสติกส์รายใหญ่อย่าง DHL ก็ได้นำระบบบริหารและติดตามยานพาหนะ GIS Logistics จาก CDG เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งให้กับลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง-กระจายสินค้าด้วยการติดตั้งระบบติดตามยานพาหนะ (GPS Tracking) เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการคลังสินค้าระบบอัตโนมัติ เพื่อทำให้การจัดส่งสินค้ารวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยลดและควบคุมต้นทุนในการขนส่ง
รวมไปถึงเว็บไซต์ Wongnai.com ก็ได้ใช้บริการข้อมูลแผนที่ประเทศไทย NOSTRA Map ซึ่งมีความละเอียดและทันสมัย ครอบคลุมร้านอาหารมากกว่า 200,000 ร้าน คิดเป็น 95% ของร้านอาหารในประเทศ โดย CDG ได้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแผนที่ด้วยการประยุกต์เอาข้อมูลการรีวิวร้านอาหารจากผู้ใช้เข้ากับตัวแผนที่เพื่อกำหนดพิกัดที่แม่นยำของร้านอาหารให้มากที่สุด
นับได้ว่า NOSTRA Map เป็นระบบแผนที่ดิจิทัลที่มีความละเอียด แม่นยำสูง และได้รับความไว้วางใจจากองค์กรใหญ่ๆ ของประเทศ จนเรียกได้ว่า CDG เป็นบริษัทที่ให้บริการแผนที่ดิจิทัลอันดับ 1 ของประเทศไทย
CDG จึงถือเป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่มุ่งพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อทำให้ชีวิตของคนไทยง่ายขึ้นมายาวนานถึง 50 ปี
ทำความรู้จัก CDG ได้ที่ 103.58.148.48/cdg และ Official Website www.cdg.co.th
CDG มุ่งสร้างอนาคตทุกรูปแบบ เพราะเราเชื่อว่ามันจะมาพร้อมความสุขเสมอ