วันนี้ (5 ธันวาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการปราบปรามสแกมเมอร์ของรัฐบาล โดยถามกลับสื่อมวลชนว่า เคยมีใครยึดทรัพย์และเงินทีเดียวหมื่นล้านบาท เคยมีใครประกาศชื่อ คนที่อยู่ไทยมานานและมีเครือข่าย ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนเงียบกันหมด และมีรัฐบาลไหนที่ทำได้แบบนี้
“ผมประกาศรายชื่อสแกมเมอร์และเส้นทางการเงิน ยึดอายัดทรัพย์ บ้าน ที่ดิน เรือยอร์ช หุ้น รถ 386 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่ออายัดเสร็จแล้วก็มาถามว่า ทำไมไม่ดำเนินคดี เพราะคนถามไม่รู้เรื่อง เพราะการอายัดต้องไปดำเนินคดีต่อตามขั้นตอน”
ขณะเดียวกัน ก็ยังมีการจับเครื่องขุดบิตคอยน์ มูลค่า 3-4 พันล้านบาท ซึ่งคนเหล่านี้นอกจากจะทำความชั่ว ก่อให้เกิดความเสียหาย ก่ออาชญากรรมในประเทศ และยังมีการลักไฟฟ้าใช้ เสียหายไปแล้วประมาณ 2 พันล้านบาท ไม่เคยมีรัฐบาลไหนไปดูแล โดยเมื่อวานนี้ (4 ธันวาคม) ตนได้เชิญผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เข้ามาพูดคุยและให้ไปดำเนินการ ซึ่งก็จะได้เห็นอีกว่ามีขาใหญ่อะไรอีกหรือไม่ที่ลักไฟฟ้าใช้
“ขนาดพวกจีนเทา จีนสัปปะรังเคพวกนี้ยังใช้ ขนาดเป็นคนต่างชาติ ยังแอบใช้ไฟของคนไทยได้ แล้วขาใหญ่ประเทศไทยมีหรือเปล่าก็ต้องดู จะเกิดการขยายผลมากมาย นี่แหละครับ 2 เดือน ทำงานกันหมดทุกคน” อนุทินกล่าว
ส่วนมาตรการเดินหน้าเชิงรุกในการปราบสแกมเมอร์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็จะดำเนินการไปเรื่อยๆ พร้อมยกตัวอย่าง สแกมเมอร์ที่ข้ามฝั่งเข้ามาในประเทศไทยหลังจากถูกทรมาน และเหยียบกับระเบิดไปแล้ว ก็ถูกจับไปได้อีก 1 คน
▪️โต้ไม่ได้ทำงานห่วยเป็นเหตุถูกปลดมหาดไทย
สำหรับเรื่องการเมือง อนุทินกล่าวว่า ก็ไม่มีอะไร การที่มาบอกว่าตนเองถูกปรับออกจากกระทรวงมหาดไทยเพราะทำงานช้า เขาคงลืมอ่านโพลไป ในยุครัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน และ แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นอกจาก 2 คนนี้ ตนเองก็เป็นลำดับ 2 พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ลำดับ 2 เลย และตนเองได้ลำดับที่ 2 ก็ทิ้งลำดับที่ 3 ห่างด้วย
“เวลาพูดก็พูดไปเรื่อย คนไม่รู้เรื่อง คิดอะไรไม่ได้ ก็โทษโน่นโทษนี่ไปก่อน แต่ของผมชัดเจน และหากห่วยจริง การที่ขอกระทรวงมหาดไทยคืนและย้ายผมไปอยู่กระทรวงสาธารณสุข ถ้าห่วยจริง ไม่มีประสิทธิภาพจริง คนที่ขอให้ออกจากมหาดไทย ที่รับผิดชอบความมั่นคง จะเอาคนห่วยๆ ไปดูแลชีวิตประชาชน จะไม่ยิ่งหนักไปกว่าเดิมหรือ ฉะนั้นไม่ได้ห่วย เพราะท่านก็บอกว่าทำงานได้ดี ทุกคนก็ชม” อนุทินกล่าว
เมื่อถามว่าคะแนนเต็ม 10 ให้ตัวเองเท่าไหร่ นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบ เพียงแต่หัวเราะ แล้วบอกว่า “เดี๋ยวหาว่าคุย”
ส่วนกรณีที่แพทองธารแชร์โพสต์ไอจีสตอรีข่าว พร้อมข้อความ “เอ๊า” หลังมีการเสนอข่าวที่อนุทินเปิดเผยว่า ต้องออกจากมหาดไทยเพราะไม่ให้สัญชาติ เบน สมิธ อนุทินกล่าวว่า ท่านรู้เรื่องดีหมด เวลาที่คุยกันก็มีแพทองธารทุกครั้ง และมี นพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นด้วย ก็อย่าลืมว่าไม่ได้ถูกปลด และพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
“การที่มาบอกว่าผมทำงานช้า มันจับโกหกได้หลายอย่าง เพราะคะแนนโพลผมก็มาที่ 2 ซึ่งดีแล้ว โชคดีที่ไม่มาที่ 1 ถ้าทำงานไม่ดีจริง ก็คงไม่ปรับไปอยู่กับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งดูแลชีวิตของประชาชน การเอาคนไม่ได้เรื่องไปดูแลชีวิตประชาชนเท่ากับคนแต่งตั้งแย่ ผมจึงคิดว่าคนที่ออกมาให้สัมภาษณ์แบบนั้น รอให้คนที่อยู่ในการพูดคุยมาให้ข้อมูล ให้คนที่รู้เรื่องออกมาให้ข้อมูลดีกว่า ส่วนคนที่ไม่รู้เรื่องอย่าไปฟัง เพราะเขามาไม่ถึง” อนุทินระบุ


