วันนี้ (1 ธันวาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการยุบสภาในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ว่า เรื่องยุบสภาก็อยู่ที่สถานการณ์การเมือง จริงๆ ทุกท่านก็ทราบอยู่แล้วว่า สภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ อยู่ไม่เกินวันที่ 31 มกราคม 2569
ส่วนที่มีข่าวว่าพรรครัฐบาลประสานกับพรรคเพื่อไทยว่าจะให้เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญจบไปก่อน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มี ตนยังไม่ได้คุยกับผู้บริหารพรรคไหนเลย อย่าว่าแต่พรรคเพื่อไทย พรรคไหนก็ไม่ได้คุย เราก็ดำเนินการบริหารราชการแผ่นดินไป เราก็มีไทม์ไลน์ของเรา ยังไงก็รักษาคำพูด เรามี MOA ตนเชื่อว่าตั้งแต่ตนเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ได้ทำทุกอย่างตามเงื่อนไขตาม MOA ระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับพรรคประชาชน
พอวันนี้เราเป็นรัฐบาลแล้ว เราก็ไม่อยากพูดถึง MOA เยอะ เพราะไม่ใช่เรื่องของสองพรรค แต่วันนี้เป็นเรื่องของรัฐบาล เป็นเรื่องของประเทศ และในการแถลงนโยบายที่เราแถลงต่อรัฐสภา ก็บอกแล้วว่าวันที่ 31 มกราคม เราจะยุบสภา ทุกคนได้ทราบหมดแล้ว และตอนนี้มีสถานการณ์ต่างๆ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะขอ ให้พวกเราทุกคนไปช่วยพี่น้องประชาชน ให้ได้แก้ปัญหาให้ได้บรรเทาทุกข์ พาเขากลับบ้าน ฟื้นฟูบ้านเมืองให้เขา หายใจอีกแป๊บ ก็ยุบสภาแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจะไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้ายุบสภาแล้วในช่วงที่มีภัยพิบัติ มีเรื่องฉุกเฉิน เพราะรัฐบาลจะทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชนก็ช่วยลำบาก แต่ถ้ามีความจำเป็นไม่มีทางเลือก มันก็ไม่มีทางเลือก เราก็ต้องมีความพร้อม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้กำลังใจเป็นอย่างไรบ้าง เนื่องจากเจอดราม่าเยอะในช่วงน้ำท่วม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่มีปัญหากับกระแสดราม่าเลยแม้แต่น้อย เพราะตน และคณะรัฐมนตรี ยึดถือความทุกข์ของพี่น้องประชาชน ประชาชนทุกข์ 1 เท่าพวกตนทุกข์ 10 เท่า เพราะเราต้องดูแลเขา ต้องแสวงหาความร่วมมือในการช่วยเหลือพวกเขา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ประเมินกระแสนิยมของพรรคอย่างไรบ้างนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ประเมิน ตนก็ทำงานของตน ตั้งแต่การเมืองมา 20 ปีแล้ว ไม่เคยประเมิน เวลาที่ผู้สื่อข่าว ถามว่าประเมินให้คะแนนตัวเองเท่าไร ตนก็พูดเล่นๆ ว่าให้ 10 เต็ม 10 เพราะตนทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด จริงๆ คนที่ประเมินตนก็คือประชาชน ไปให้คนอื่นประเมินมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนมองว่าเป็นการบริหารงานของรัฐบาลติดลบ จะเป็นการบั่นทอนจิตใจหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้สึก คนพูดเช่นนี้อาจจะติดตามข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง อย่างที่พวกตนเจอน้ำก็เท่าอก กระทบเรื่องผิวหนัง แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรลงไป เราลงไปก็รู้งาน ใครพูดมาเราก็ตอบได้ แต่ไม่ต้องการไปเถียง เพราะทุกคนมีสิทธิ์พูด แต่หากจะพูดเรื่องการช่วยเหลือประชาชนที่หาดใหญ่ รัฐบาลก็มั่นใจว่าถูกทาง และทำทุกอย่างที่ต้องทำ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า กระแสดังกล่าวจะไม่กระทบต่อฐานเสียงในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ พอพรรคภูมิใจไทยดึงบ้านใหญ่ภาคใต้มาร่วมงานเยอะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้คิดตรงนั้นเลย ไม่เช่นนั้นจะต้องไปถามว่าจะกาพรรคอะไรแล้วตนจะช่วยหรือ ซึ่งไม่ใช่ เราไปก็ต้องช่วยทั้งหมด การที่ไปเพื่อเอาเขาออกจากความทุกข์ ตนพูดได้แค่นี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ผลโพลล่าสุด คะแนนในพื้นที่ภาคใต้ต่ำลงนั้น อนุทิน ถามกลับว่า ตนได้เท่าไหร่ 15 เปอร์เซ็นต์ใช่หรือไม่ พร้อมร้องโห่ และกล่าวว่า ตนมาจาก 0.2 เปอร์เซ็นต์ ได้ 15 เปอร์เซ็นต์ตนก็สาธุ พร้อมยกมือไหว้เหนือหัว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าถึงคะแนนของพรรคภูมิใจไทยที่ตกลงอย่างต่อเนื่องนั้น อนุทิน กล่าวว่า ตกลงมาจาก 20 เหลือ 15 แต่ที่ผ่านมา เคยอยู่ที่ 0.21 หรือ 1.5 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ก็ขอบพระคุณมากแล้ว ได้แค่นี้ก็ดีใจตายแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การลงพื้นที่หาดใหญ่ของนายกรัฐมนตรี จะทำให้เกิดภาพให้กำลังใจมากกว่าดราม่าใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พวกเราก็ไปทำงาน โดยที่ไม่คิดว่าจะได้คะแนนเสียง ถ้าลงไปแล้วช่วยให้คนไม่เสียชีวิต ไม่มีคนเสียหาย ไม่ต้องเลือกก็ได้ มีใครจะดีใจเท่ากับได้ช่วยชีวิตคน
“สงขลามี สส.คนเดียวคือ ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ตราบใดที่เราไม่เสียเขาไป ก็ไม่ขาดอะไร ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว อย่างอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และมาลงพื้นที่ ก็ทำให้เกิดการตื่นตัวมีสีสันขึ้น แต่ผมไม่ได้มองท่านเป็นคู่แข่ง เรามาทำงานให้บ้านเมือง อย่างไรก็ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้าย
