ย้อนกลับไปในเดือนมกราคมปี 2012 นิตยสาร Forbes ได้เปิดตัวรายชื่อ ‘30 Under 30’ เป็นครั้งแรก เพื่อเชิดชูเหล่าผู้ก่อตั้งและผู้นำรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ผู้กำลังสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในโลกธุรกิจ นับตั้งแต่นั้นมา 30 Under 30 ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จของคนรุ่นใหม่ในหลากหลายวงการ
ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา มีศิษย์เก่าจากทำเนียบ 30 Under 30 จำนวนมากที่ประสบความสำเร็จ แต่มีเพียง 46 คน เท่านั้นที่สามารถก้าวกระโดดจาก ‘ดาวรุ่ง’ สู่การเป็น ‘มหาเศรษฐีระดับโลก’ ที่มีความมั่งคั่งแตะระดับ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3.2 หมื่นล้านบาท ได้สำเร็จ
แม้ความมั่งคั่งเหล่านี้จะมาจากหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่โซเชียลมีเดีย ฟินเทค ไปจนถึงวงการบันเทิงระดับโลกอย่าง Taylor Swift แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘กระแสความร้อนแรงของ AI’ คือตัวเร่งปฏิกิริยาที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ โดยในปีนี้ปีเดียว มีศิษย์เก่าถึง 19 คนที่ก้าวเข้าสู่สถานะมหาเศรษฐีพันล้าน
THE STANDARD WEALTH พาสำรวจไฮไลต์ที่น่าสนใจของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไอเดียสตาร์ทอัพให้กลายเป็นอาณาจักรธุรกิจระดับโลก
กระแส AI สร้างมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลก
เทรนด์ที่โดดเด่นที่สุดในปีนี้คือการผงาดขึ้นของธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในบรรดาศิษย์เก่าที่เป็นมหาเศรษฐีหน้าใหม่ มี 8 คนที่เพิ่งเข้าทำเนียบในปีที่ผ่านมาและอายุยังไม่ถึง 30 ปี
ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ 3 ผู้ก่อตั้ง Mercor แพลตฟอร์มจัดหางานด้วย AI ระดับยูนิคอร์น ได้แก่ Brendan Foody, Adarsh Hiremath และ Surya Midha ทั้งหมดมีอายุเพียง 22 ปี การระดมทุนรอบล่าสุดดันมูลค่าบริษัทไปแตะ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้พวกเขากลายเป็น ‘มหาเศรษฐีที่สร้างฐานะด้วยตัวเอง (Self-made) ที่อายุน้อยที่สุดในโลก’ ทำลายสถิติเดิมของ Mark Zuckerberg ที่เคยทำไว้ตอนอายุ 23 ปี
นอกจากนี้ ยังมี Alexandr Wang (วัย 28 ปี) แห่ง ScaleAI ที่ความมั่งคั่งพุ่งสู่ 3.2 พันล้านดอลลาร์ หลัง Meta เข้าลงทุน และ Lucy Guo ผู้ร่วมก่อตั้งของเขา ที่กลายเป็นมหาเศรษฐีหญิงที่สร้างฐานะด้วยตัวเองที่อายุน้อยที่สุดในโลก ด้วยสินทรัพย์ 1.4 พันล้านดอลลาร์
10 บุคคลเด่นจากทำเนียบ Under 30 สู่ Billionaire
จากรายชื่อทั้งหมด นี่คือ 10 กรณีศึกษาที่น่าสนใจของศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จสูงสุด:
1. Zhang Yiming (อายุ 42 ปี) ความมั่งคั่ง 63,900 ล้านดอลลาร์ ศิษย์เก่าที่รวยที่สุดในกลุ่ม เขาติดรายชื่อ Forbes Under 30 China ในปี 2013 ก่อนที่จะปล่อยแอปพลิเคชัน TikTok สู่ตลาดโลกในปี 2017 ปัจจุบัน ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok มีมูลค่าประเมินสูงถึง 4.8 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้ Zhang เป็นบุคคลที่รวยที่สุดอันดับ 26 ของโลก
2. Patrick Collison (อายุ 37 ปี) ความมั่งคั่ง 10,100 ล้านดอลลาร์ ผู้ก่อตั้ง Stripe แพลตฟอร์มชำระเงินออนไลน์ที่เริ่มจากโปรเจกต์สมัยเรียนที่ MIT กับน้องชาย (John Collison) เพื่อแก้ปัญหาการรับเงินออนไลน์ให้ง่ายขึ้น ปัจจุบัน Stripe เป็นฟินเทคยักษ์ใหญ่ที่มีมูลค่ากิจการกว่า 9.15 หมื่นล้านดอลลาร์
3. Daniel Ek (อายุ 42 ปี) ความมั่งคั่ง 8,600 ล้านดอลลาร์ ชายผู้ปรากฏตัวบนหน้าปกนิตยสาร Forbes Under 30 ฉบับแรกสุด ผู้ก่อตั้ง Spotify ที่เข้ามาปฏิวัติวงการเพลงและแก้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยการสตรีมมิง รายได้บริษัทแตะ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2024
4. Melanie Perkins (อายุ 38 ปี) ความมั่งคั่ง 7,600 ล้านดอลลาร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Canva แพลตฟอร์มดีไซน์ยอดฮิตที่ทำให้ใครๆ ก็เป็นศิลปินได้ เธอเปลี่ยนจากสตาร์ทอัพที่มีมูลค่า 165 ล้านดอลลาร์ในปี 2015 ให้กลายเป็นยักษ์ใหญ่ที่มีมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีการนำ AI มาใช้ในฟีเจอร์ต่างๆ อย่างเข้มข้น
5. Vlad Tenev (อายุ 38 ปี) ความมั่งคั่ง 6,200 ล้านดอลลาร์ ผู้ก่อตั้ง Robinhood แอปเทรดหุ้นแบบไม่มีค่าธรรมเนียมที่ปฏิวัติวงการโบรกเกอร์ แม้จะผ่านมรสุมช่วงหุ้น Meme มาได้ แต่ปัจจุบันความมั่งคั่งของเขาพุ่งขึ้นถึง 6 เท่าในปีที่ผ่านมาจากการรุกเข้าสู่ AI และสินทรัพย์ดิจิทัล
6. Sam Altman (อายุ 40 ปี) ความมั่งคั่ง 2,000 ล้านดอลลาร์ CEO ของ OpenAI ผู้เป็นใบหน้าของยุคสมัยแห่ง AI สิ่งที่น่าสนใจคือ เขาไม่ได้ถือหุ้นใน OpenAI แต่ความมั่งคั่งของเขามาจากการลงทุนในสตาร์ทอัพอื่นๆ ตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น Stripe, Reddit และ Oklo สมัยที่เขาเป็นพาร์ทเนอร์อยู่ที่ Y Combinator
7. Taylor Swift (อายุ 35 ปี) ความมั่งคั่ง 1,600 ล้านดอลลาร์ หนึ่งใน 3 คนจากลิสต์ที่ไม่ได้มาจากสายเทคฯ (อีกสองคนคือ Rihanna และ LeBron James) Taylor สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นมหาเศรษฐีที่มาจาก รายได้ด้านดนตรีและการแสดงล้วนๆ โดยเฉพาะทัวร์คอนเสิร์ต The Eras Tour ที่ทำรายได้ถล่มทลาย
8. Kevin Systrom (อายุ 41 ปี) ความมั่งคั่ง 2,300 ล้านดอลลาร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Instagram ที่ติดโผ Under 30 ในปี 2012 เพียง 4 เดือนก่อนขายกิจการให้ Facebook ในดีลประวัติศาสตร์ 1 พันล้านดอลลาร์ ปัจจุบันเขายังคงเป็นนักลงทุนและผู้ประกอบการต่อเนื่อง
9. Palmer Luckey (อายุ 33 ปี) ความมั่งคั่ง 3,500 ล้านดอลลาร์ อดีตเด็กสร้างแว่น VR Oculus ที่ขายให้ Facebook ตั้งแต่อายุยังน้อย ปัจจุบันเขากลับมาอย่างยิ่งใหญ่ในฐานะผู้ก่อตั้ง Anduril สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการป้องกันประเทศ (Defense Tech) ที่ใช้ AI มาช่วยปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย
10. Shayne Coplan (อายุ 27 ปี) ความมั่งคั่ง 1,000 ล้านดอลลาร์ ผู้ก่อตั้ง Polymarket แพลตฟอร์มทายผลด้วยคริปโตฯ ที่มาแรงที่สุดในปีนี้จากการทำนายผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ได้อย่างแม่นยำ ล่าสุดระดมทุนจนบริษัทมีมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ แม้จะยังเผชิญความท้าทายด้านกฎหมายในสหรัฐฯ ก็ตาม
จากรายชื่อทั้ง 46 คน เห็นได้ชัดว่า ‘เทคโนโลยี’ ยังคงเป็นเครื่องจักรผลิตความมั่งคั่งที่ทรงพลังที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มที่สามารถปรับตัวเข้ากับคลื่นลูกใหม่อย่าง AI ได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง AI โดยตรง หรือการนำ AI มายกระดับธุรกิจดั้งเดิม
สิ่งที่น่าจับตามองคือ แม้การแข่งขันจะสูงขึ้น แต่โอกาสในการสร้างธุรกิจระดับพันล้านเหรียญด้วยอายุที่น้อยลงเรื่อยๆ เช่นกรณีของกลุ่ม Mercor วัย 22 ปี กำลังพิสูจน์ว่า ในโลกยุคใหม่ ประสบการณ์อาจไม่สำคัญเท่ากับ ‘วิสัยทัศน์’ และความสามารถในการคว้าโอกาสจากเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก
ภาพ: Drew Angerer/Getty Images, Matt Winkelmeyer/Getty Images for WIRED, VCG/VCG via Getty Images
อ้างอิง:


