เปิดสถิติการดำเนินการทางวินัยข้าราชการตำรวจย้อนหลัง 3 ปีงบประมาณ (2566 – 2568) พบมียอดการลงโทษรวมทั้งสิ้น 5,683 ราย โดยสถิติส่วนใหญ่เป็นการลงโทษสถานเบาเพื่อปรับปรุงความประพฤติอย่างภาคทัณฑ์ (2,327 ราย)
ตัวเลขที่น่าจับตามองคือกลุ่มโทษวินัยร้ายแรงถึงขั้นพ้นสภาพข้าราชการ (ปลดออกและไล่ออก) ซึ่งมีรวมกันเกือบ 1,000 นาย
สำหรับรายละเอียด 7 ประเภทการลงโทษ มีดังนี้
1. ภาคทัณฑ์
- ระดับ: เบาที่สุด
- ความหมาย: ใช้สำหรับผู้ที่กระทำผิดเล็กน้อย หรือทำผิดครั้งแรกที่ยังพอให้อภัยได้
- ผล: ไม่มีการลงโทษทางร่างกายหรือกักตัว แต่จะถูกตำหนิโทษ อย่างเป็นทางการ (อาจเป็นลายลักษณ์อักษร) และถ้าทำผิดซ้ำอีกจะถูกลงโทษหนักขึ้น
2. ทัณฑ์กรรม
- ระดับ: เบา – ปานกลาง
- ความหมาย: การให้กระทำกิจกรรมบางอย่างเพื่อเป็นการดัดนิสัย
- ผล: ผู้ถูกลงโทษต้องไปทำงานสุขาภิบาล ตามที่ผู้บังคับบัญชากำหนด นอกเหนือจากหน้าที่ปกติ หรือต้องอยู่เวรยามเพิ่ม
3. กักยาม
- ระดับ: ปานกลาง
- ความหมาย: การจำกัดบริเวณ
- ผล: ผู้ถูกลงโทษจะถูกกักตัวไว้ในเขตที่กำหนด ห้ามออกไปไหน แต่ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการตามปกติ
4. กักขัง
- ระดับ: ปานกลาง – หนัก
- ความหมาย: การจำกัดอิสรภาพอย่างชัดเจน
- ผล: ผู้ถูกลงโทษจะถูกนำไปขังไว้ในที่ควบคุม หรือห้องขัง ม่สามารถออกมาปฏิบัติหน้าที่หรือกลับบ้านได้ตามปกติ จนกว่าจะครบกำหนดเวลา
5. ตัดเงินเดือน
- ระดับ: หนัก
- ความหมาย: การหักเงินเดือนตามจำนวนที่กำหนด
- ผล: เงินเดือนในเดือนนั้นๆ จะถูกหักออกไปตามสัดส่วนความผิด มักใช้ควบคู่กับโทษสถานอื่น หรือใช้เมื่อการลงโทษทางกายไม่เหมาะสม
6. ปลดออก
- ระดับ: หนักมาก (พ้นสภาพ)
- ความหมาย: ให้ออกจากราชการเพราะความผิด
- ผล: เป็นการให้ออกที่ดูเบากว่าไล่ออกเล็กน้อย โดยผู้ถูกปลดออกยังมีสิทธิ ได้รับบำเหน็จหรือบำนาญตามอายุราชการที่ทำมา (เหมือนถูกเลิกจ้างแต่ยังได้เงินชดเชย)
7. ไล่ออก
- ระดับ: รุนแรงที่สุด
- ความหมาย: ขับพ้นจากราชการทันที
- ผล: เป็นโทษสูงสุดสำหรับความผิดวินัยร้ายแรง ผู้ถูกไล่ออกจะไม่มีสิทธิ ได้รับบำเหน็จหรือบำนาญใดๆ ทั้งสิ้น

ภาพประกอบ: ณัฏฐ์กานต์ ดวงมาตย์พล
อ้างอิง: THE STANDARD รวบรวม ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568


