วันที่ 5 พ.ย.2568 ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวบนเวที Energy Security: The Imperative for Sustainable Thailand ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 ว่า
ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับความผันผวนหนัก ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความมั่นคงด้านพลังงาน ทั้งจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์และภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้น ความมั่นคงทางพลังงาน การเข้าถึงพลังงานในราคาที่เหมาะสม และความยั่งยืน จำเป็นต้องดำเนินไปพร้อมกัน เพื่อให้เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมสามารถพัฒนาได้อย่างสมดุล เศรษฐกิจจะเติบโตต่อได้ ต้องมีพลังงานที่มั่นคง ขณะเดียวกันต้องไม่ละเลยการลดภาวะโลกร้อน เพราะความเสี่ยงของโลกทั้งในระยะสั้นและระยะยาวส่วนใหญ่มาจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
โดยประเทศไทยเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีความเสี่ยงจากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลสูง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน เราจึงต้องให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง
ดร.คงกระพัน อธิบายว่า ทั่วโลกเห็นพ้องกันว่า ก๊าซธรรมชาติยังคงเป็นพลังงานสำคัญในช่วงเปลี่ยนผ่านก่อนจะเข้าสู่ยุคพลังงานสะอาด
สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติใช้เองได้ถึง 2 ใน 3 ของปริมาณทั้งหมด ซึ่งช่วยตอบโจทย์ความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะในภาวะสงครามและความผันผวนทางเศรษฐกิจ
ถึงอย่างนั้น ประเทศในอาเซียนเห็นตรงกันว่า จำเป็นต้องสร้างเครือข่ายการผลิตและการใช้ก๊าซธรรมชาติให้เพียงพอในระดับภูมิภาค โดยขณะนี้มีเครือข่ายท่อส่งก๊าซที่เชื่อมโยงกันยาวกว่า 4,000 กิโลเมตร ซึ่งช่วยให้แต่ละประเทศสามารถผันก๊าซช่วยเหลือกันได้ และเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานของภูมิภาคให้สูงขึ้น
ดร.คงกระพัน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของ ปตท. บริษัทตั้งเป้าเติบโตอย่างแข็งแรงไปพร้อมกับสังคมไทย และขยายสู่ระดับโลกอย่างยั่งยืน นอกจากธุรกิจสำรวจ ผลิต และต่อยอดพลังงานแล้ว ปตท. ยังมีภารกิจโครงการ Carbon Capture and Storage (CCS) และจะทยอยนำก๊าซไฮโดรเจนมาใช้ในภาคอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ ปตท.ยังลงทุนในโครงการที่อาจให้ผลตอบแทนไม่สูง แต่มีบทบาทสำคัญในการเสริมความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ เช่น การสร้างท่อส่งก๊าซจากอ่าวไทยขึ้นฝั่ง เพื่อกระจายไปยังโรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ รวมถึงการพัฒนาโครงข่ายท่อน้ำมันที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
สำหรับเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อมุ่งสู่ Net Zero ปตท.ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 15% ภายในปี 2035 และบรรลุ Net Zero ภายในปี 2050 ผ่าน 3 แนวทางหลัก ได้แก่
1.ปรับตัวสู่ธุรกิจที่ปล่อยคาร์บอนน้อยลง
2.เพิ่มประสิทธิภาพของโรงงาน
3.เก็บกักคาร์บอนด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การปลูกต้นไม้ทดแทนและเทคโนโลยี CCS
ดร.คงกระพัน ย้ำทิ้งท้ายว่า ปตท.จะเป็นองค์กรหลักของประเทศไทยในการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน พร้อมเดินหน้าลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อย่างจริงจัง และหวังว่าประเทศไทยจะก้าวสู่เส้นทางพลังงานที่มั่นคงและยั่งยืนได้อย่างแท้จริง
THE STANDARD Economic Forum 2025
Rerun Ticket บัตรชมย้อนหลังออนไลน์ เปิดจำหน่ายวันที่ 7 พ.ย.68 คลิก ›
- ดูได้นานถึง 6 เดือนเต็ม! (เปิดให้รับชมตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 – 14 เมษายน 2569)
- รับชมย้อนหลังได้ทั้ง 4 เวที (Main Stage, Young Leaders Dialogue Stage, Tech Stage และ AI Showcase Stage)
- ราคาพิเศษเพียง 990 .-


