จับตากองทุนเปิด ‘PRINCIPAL MYRFIUH’ กองทุนตราสารหนี้มาเลเซีย

หากพูดถึงการลงทุนในตราสารหนี้ ‘ตลาดตราสารหนี้มาเลเซีย’ กลุ่มนักลงทุนไทยอาจมองข้ามเพราะไม่รู้จัก แต่ในมุมมองของนักลงทุนทั่วโลก ‘ตราสารหนี้ของมาเลเซีย’ คือม้านอกสายตาที่น่าจับตา

มาเลเซียถือเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน ด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง GDP ในไตรมาสที่ 3/2025 ของมาเลเซียเพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์สูงสุดของบลูมเบิร์ก และเร็วกว่าอัตราการเติบโตใน 3 ไตรมาสก่อนหน้า

อีกทั้งการเติบโตของการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรกปี 2568 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ 16.9 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและสูงกว่าช่วงก่อน COVID-19 ขณะที่การบริโภคในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ

ประกอบกับนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายและนโยบายการคลังที่มุ่งลดการขาดดุลของรัฐบาล ยิ่งช่วยสนับสนุนเสถียรภาพของตลาดตราสารหนี้ ส่งผลให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลในตลาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปริมาณพันธบัตรออกใหม่ลดลง

เจาะลึกโอกาสสร้างผลตอบแทนเติบโตกับ ‘ตราสารหนี้มาเลเซีย’

เหตุผลที่ตราสารหนี้มาเลเซียได้รับความสนใจในกลุ่มนักลงทุนทั่วโลก ประการแรกหนีไม่พ้นความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจมาเลเซีย และการมีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ชัดเจนจากแผนพัฒนาแห่งชาติเพื่อบรรลุเป้าหมาย GDP เฉลี่ย 4.5 – 5.5% ต่อปี โดยรัฐบาลตั้งเป้าปี 2030 เป็นผู้นำการผลิตและศูนย์กลางการผลิตชิปของโลก หนุนความต้องการลงทุนและการจ้างงานระยะกลาง-ยาว

หากมองที่อันดับ Credit Rating ของพันธบัตรรัฐบาลมาเลเซียอยู่ในระดับสูงที่ A3 จาก Moody’s rating และ A- จาก S&P Global rating (ที่มา: Bloomberg ณ เดือนสิงหาคม 2568) สะท้อนถึงเสถียรภาพทางการคลังและเสถียรภาพของตลาดตราสารหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือในระยะยาว

หากเทียบผลตอบแทนกับไทย พบว่าตราสารหนี้มาเลเซียให้ผลตอบแทนสูงกว่าตราสารหนี้ไทยประมาณ 2% ต่อปี เกือบทุกช่วงอายุ เช่น พันธบัตรรัฐบาลมาเลเซียอายุ 5 ปี ให้ผลตอบแทนจนถึงวันที่ครบกำหนด (YTM) 3.06% เทียบกับพันธบัตรรัฐบาลไทยอยู่ที่ 1.16% อีกทั้ง ประวัติการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ สะท้อนถึงเสถียรภาพของตลาดตราสารหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือในระยะยาว

จุดเด่นของกองทุน PRINCIPAL MYRFIUH และกลยุทธ์การลงทุน

เพื่อก้าวสู่โอกาสเติบโตในตลาดตราสารหนี้มาเลเซีย บลจ.พรินซิเพิล มองโอกาสการลงทุนในกองทุนเปิด Principal Malaysian Fixed Income Fund Unhedged (พรินซิเพิล มาเลเซียน ฟิกซ์ อินคัม อันเฮดจ์ ) หรือ PRINCIPAL MYRFIUH กองทุนแรกในประเทศไทยที่เน้นลงทุนตราสารหนี้มาเลเซีย ลงทุนในกองทุนหลัก Principal Lifetime Bond Fund ภายใต้การบริหารจัดการโดย Principal Asset Management Berhad เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Principal Financial Group สถาบันการเงินระดับโลกที่ได้รับการจัดอันดับใน FORTUNE 500®

กองทุน Principal Lifetime Bond Fund ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1995 จนถึงปัจจุบัน หรือกล่าวได้ว่าตลอดการบริหารพอร์ต 30 ปี ตราสารที่ลงทุนไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ และสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอด้วยกระบวนการลงทุนที่เข้มข้นและทีมงานมืออาชีพ สร้างผลตอบแทนบวกสม่ำเสมอถึง 18 ปี จาก 20 ปีที่ผ่านมา และได้รับรางวัล Morningstar 4 ดาว

จุดเด่นที่น่าสนใจของกองทุน Principal Lifetime Bond Fund

เน้นลงทุนในตราสารหนี้มาเลเซีย ทั้งพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้เอกชนคุณภาพดีระดับ Investment Grade อันดับเครดิต เฉลี่ยอยู่ที่ AAA ถึง AA1 ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม เช่น บริโภค, สาธารณูปโภค, การก่อสร้าง และสถาบันการเงิน กว่า 58 ตราสาร ช่วยกระจายการลงทุนและสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน

อัตราผลตอบแทนจนถึงวันครบกำหนด (Yield to Maturity) อยู่ที่ 3.84% สะท้อนศักยภาพผลตอบแทนระดับมั่นคง สำหรับตราสารหนี้คุณภาพสูง โดยมีอายุเฉลี่ยตราสารหนี้ (Duration) อยู่ที่ 4.41 ปี ซึ่งเป็นระดับกลาง–ยาว เหมาะกับสภาวะดอกเบี้ยมีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลง

คัดเลือกลงทุนในธุรกิจที่มีกระแสเงินสดสม่ำเสมอ และมีความมั่นคงในระยะยาว ภายใต้กระบวนการลงทุนที่แข็งแกร่ง วิเคราะห์ทั้งแบบ Top down จากภาพรวมเศรษฐกิจสู่ปัจจัยพื้นฐานของสินทรัพย์ และแบบ Bottom up จากปัจจัยพื้นฐานของสินทรัพย์ไปสู่ภาพรวมเศรษฐกิจ ผสานกระบวนการ ESG Overlay เพื่อคัดกรองผู้ออกตราสารที่มีธรรมาภิบาลดีและมีแนวโน้มเติบโตยั่งยืน

ผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ พร้อมทีมวิเคราะห์เครดิตเชิงลึก โดยทีม Credit Analyst ของพรินซิเพิล ด้วยกระบวนการคัดกรองที่เข้มงวด การวิเคราะห์ครบทุกมิติ และติดตามสถานะอย่างต่อเนื่อง

กองทุนไทยมีนโยบายเปิดรับความเสี่ยงค่าเงิน MYR/THB (Unhedged) ทำให้นักลงทุนไม่ต้องเสียต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (MYR/THB) ที่อยู่ระดับสูง 2-2.5% ต่อปี และอาจได้รับผลตอบแทนส่วนเพิ่มเมื่อบาทอ่อนค่าเทียบริงกิต

กองทุนไทยมีสภาพคล่องสูง ซื้อขายได้ทุกวันทำการ

ตัวอย่างบริษัทที่กองทุน Principal Lifetime Bond Fund ลงทุนในตราสารหนี้

Genting Malaysia บริษัทที่ดำเนินธุรกิจหลักในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โรงแรม และความบันเทิง รวมถึงลงทุนและพัฒนาโครงการท่องเที่ยวและสถานบันเทิงระดับโลก ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือบริษัทที่ AA1 โดย RAM Agency และถูกยกย่องให้เป็น Resorts World Genting หรือ รีสอร์ทชั้นนำของมาเลเซีย 3 ปีซ้อนจาก World Travel Awards 2024 ด้านผลตอบแทนไตรมาส 2 ปี 2025 รายได้เพิ่มขึ้น 9% YoY จากธุรกิจ Leisure & Hospitality ทั่วโลก

Mah Sing Group บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงในมาเลเซีย ดำเนินธุรกิจหลักในด้านการพัฒนาและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และและผลิตภัณฑ์พลาสติก ติดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 บริษัทที่มีรายได้สูงสุดในภูมิภาคที่เติบโตเร็ว มีสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง โดยมีเงินสดและการลงทุนในกองทุนระยะสั้นรวมประมาณ 979.3 ล้านริงกิต (ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2025) และยังเป็นผู้ผลิตพาเลทพลาสติกรายใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย ให้กับลูกค้าชั้นนำระดับโลก เช่น Dyson, Toyota, Pfizer, Samsung, Panasonic, Mercedes-Benz, Sony เป็นต้น

Pengurusan Air SPV Bhd บริษัทลูกที่ PAAB ถือหุ้น 100% ก่อตั้งขึ้นเพื่อระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้ (Sukuk/Bonds) โดยนำเงินทุนที่ได้ไปสนับสนุนการพัฒนาและลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระบบน้ำของ PAAB ซึ่งเป็นองค์กรเดียวในมาเลเซียที่รับผิดชอบดูแลและบริหารจัดการระบบน้ำของประเทศ รายได้หลักของบริษัทมาจากสัญญาเช่าโครงสร้างพื้นฐานน้ำ กับหน่วยงานรัฐ ซึ่งมีสัญญาเช่าระยะยาว (30-40 ปี) ทำให้รายได้มีความมั่นคงและต่อเนื่อง ทั้งนี้ PAAB ยังเป็นบริษัทที่กระทรวงการคลังถือหุ้นทั้งหมด 100% มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ

ผลตอบแทนกองทุน

กองทุน Principal Lifetime Bond Fund มีผลตอบแทนโดดเด่นจากการลงทุน สร้างผลตอบแทนบวกสม่ำเสมอถึง 18 ปี จาก 20 ปีที่ผ่านมา โดยในปีที่ตลาดผันผวนติดลบไม่เกิน 0.3% (ปี 2008) นอกจากนี้ ได้รับการจัดอันดับผลตอบแทนอยู่ในควอร์ไทล์ 1 หรือ 2 หรือ 50% แรกของกลุ่มกองทุนประเภทเดียวกันอย่างต่อเนื่องทุกช่วงเวลา

โดยผลตอบแทนตั้งแต่ มกราคม-ตุลาคม 2568 อยู่ที่ 4.6% และ 1 ปีที่ 5.3% ต่อปี และ 3 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ 5.8% ต่อปี (ที่มา: Morningstar ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2025)

ตราสารหนี้มาเลเซีย จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ และกำลังมองหาเครื่องมือกระจายความเสี่ยงลงทุนตราสารหนี้ในตลาดอาเซียนที่ให้ผลตอบแทนที่สูง พร้อมกับเสถียรภาพและการเติบโตที่มั่นคงจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและการเงินที่แข็งแกร่ง

ดูข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.principal.th/th/principal/MYRFIUH-A

ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถซื้อได้ที่

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
ธนาคารทิสโก้
แอปพลิเคชัน KPLUS
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด

หรือลงทุนผ่านแอป Principal TH และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อหน่วยลงทุนที่บริษัทจัดการแต่งตั้ง

ติดต่อได้ที่เว็บไซต์ https://www.principal.th/ หรือโทร 02-686-9500 และ Line @PrincipalThailand

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า(กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนหลักลงทุนลงทุนกระจุกตัวในประเทศมาเลเซีย ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินทุนเริ่มแรกได้ / กองทุนจะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (unhedged) ดังนั้น กองทุนจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / Morning Star Copyright @ 2025 บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสริช์ ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่ประกอบในเอกสารนี้ : (1) เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ และ/หรือ ผู้ให้บริการข้อมูล (2) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการทำซ้ำ หรือเผยแพร่ (3) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความถูกต้อง ครบถ้วน และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกกรณีจากการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

*บทความ(สื่อโฆษณา)นี้ได้รับการสนับสนุน โดยบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด

อ้างอิง