กีฬามีแพ้มีชนะ แต่เมื่อแพ้บ่อย ๆ เข้า เชื่อว่าหลายคนคงถอดใจยอมแพ้ไปแล้ว แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ บีม-ฑิฆัมพร สุรินทรทะ นักกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทย ชุดเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคมนี้
THE STANDARD SPORT มีโอกาสได้พูดคุยกับ บีม-ฑิฆัมพร สุรินทรทะ ในหลากหลายเรื่องราว โดยเฉพาะเส้นทางการเป็นนักกีฬาของเขา ต้องฝ่าฟันความยากลำบากตลอดเส้นทาง เคยเกือบจะเลิกเป็นนักกีฬาแล้วจากอาการบาดเจ็บต่าง ๆ รวมถึงความผิดหวังจากผลการแข่งขัน รวมถึงเผชิญหน้ากับคู่แข่งระดับแชมป์โลกบนเวทีซีเกมส์มาโดยตลอด
“ซีเกมส์ที่ผ่านมา ผมเป็นพระรองมาตลอด หวังว่าครั้งนี้จะมีบทพระเอกให้ผมบ้าง” เจ้าของ 4 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง จากซีเกมส์ 4 สมัย เริ่มต้นสนทนากับเราถึงผลงานที่ผ่านมา
บีมเล่าต่อว่า “ซีเกมส์ของผมแทบไม่ต่างอะไรกับรายการเวทีชิงแชมป์โลกหรือโอลิมปิกเกมส์เลย เพราะในอีเวนต์ที่ผมลงแข่ง คู่แข่งของผมเขาเป็นถึงแชมป์โลกและแชมป์โอลิมปิก ถ้าอยากจะคว้าเหรียญทองก็ต้องเอาชนะเขาให้ได้”
เป็นอย่างที่บีมเล่า เพราะคู่แข่งของเขาในมหกรรมซีเกมส์ที่ผ่านมา มี 2 จาก 4 ครั้งที่ลงแข่งขันอีเวนต์เดียวกับ คาร์ลอส ยูโล นักกีฬาฟิลิปปินส์ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์และแชมป์โลกประเภทฟลอร์ เอ็กเซอร์ไซส์กับม้ากระโดด โดย 2 จาก 4 เหรียญเงินที่บีมทำได้ในซีเกมส์ ก็มาจากการพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งรายนี้
“ผมไม่ได้กลัวเขานะ อายุเราไล่เลี่ยกัน ดวลกันมาตลอดตั้งแต่ในระดับเยาวชนแล้ว ผมเคยเอาชนะเขาได้ครั้งหนึ่งในรายการนักเรียนอาเซียนที่จังหวัดเชียงใหม่ (ปี 2016) ผมได้เหรียญทอง แต่หลังจากนั้นก็เป็นเขาที่ชนะผมตลอด”
“ปกติผมเป็นคนไม่ตั้งเป้าหมายไกล ไม่เคยมีเป้าหมายใหญ่ ๆ หรืออยากจะได้เหรียญทองเอเชียนเกมส์ โอลิมปิกเกมส์เลย แต่จะมองไปทีละรายการ ทำให้ดีที่สุดทุกครั้งที่ลงสนาม แต่ทุกวันนี้เขา (คาร์ลอส ยูโล) กลายเป็นคนที่ผมอยากจะชนะให้ได้อีกสักครั้ง ก็ไม่รู้ซีเกมส์ครั้งนี้เขาจะลงแข่งหรือเปล่า”
ปัจจุบันฑิฆัมพรก้าวขึ้นมาเป็นมือ 1 ของยิมนาสติกศิลป์ทีมชาติไทย เป็นความหวังในการคว้าเหรียญรางวัลบนเวทีนานาชาติทุกรายการที่ลงแข่ง อย่างไรก็ตามเจ้าบีมบอกว่าเขาเกือบไม่ได้มายืนในจุดนี้แล้ว ถ้าหากตัดสินใจยอมแพ้ให้กับความผิดหวัง
“ผมเคยเกือบเลิกเล่นมา 2-3 ครั้งแล้วพี่”
“ตั้งแต่ลงแข่งรายการแรกของผมเลย เป็นตัวแทนวิทยาลัยพลศึกษา สมุทรสาคร ไปแข่งทำได้ 0 คะแนน ผิดหวังสุด ๆ เสียใจ ร้องไห้หนักมาก โทรไปบอกพ่อกับแม่ว่าไม่อยากเล่นแล้ว จะเลิกเล่นแล้ว แต่ท่านกล่อมให้ลองสู้ต่อ ก็เลยยอมกลับมาซ้อม”
หลังจากนั้นบีมทุ่มเทฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก แต่ยิมนาสติกเป็นกีฬาที่ใช้ความแข็งแรงของร่างกายสูงมาก และกว่าจะฝึกฝนท่ายาก ๆ จนชำนาญได้ ย่อมมีความเสี่ยงเกิดอาการบาดเจ็บด้วยเช่นกัน
“ทุกวันนี้ร่างกายผมแทบจะไม่ไหวแล้ว ข้อมือซ้ายกระดูกหัก ผ่าตัดใส่น็อตยึดกระดูกข้อมือเอาไว้มา 5-6 ปีแล้วครับ หลังจากนั้นก็มีผ่าตัดข้อมืออีก ไปเจียกระดูกส่วนเกินออก ซึ่งก็เกิดจากการฝึกซ้อม ใช้พักฟื้นนานมาก ล่าสุดไม่กี่เดือนก่อนเพิ่งพบว่าเอ็นหัวไหล่ข้างซ้ายฉีกขาดไปครึ่งหนึ่งแล้ว เหลืออีกครึ่งคอยพยุงไว้อยู่ อาจจะไม่มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากเท่าไหร่ แต่มันรู้สึกเจ็บมากในตอนซ้อม แต่ผมเป็นคนเล่นอุปกรณ์ขาดี ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนประเภทแข่ง หันมาแข่งอุปกรณ์ที่ใช้กำลังขาดีกว่า ก็ทำให้เราไปต่อได้”
ถึงตรงนี้เราถามเขากลับไปว่ามันคุ้มค่าหรือไม่กับการเสียสละร่างกายขนาดนี้ บีมตอบแบบไม่ต้องใช้เวลาคิดเลยว่า “คุ้มครับ”
“เพราะทุกครั้งที่ผมลงแข่ง ผมทำผลงานได้ดีกว่าเดิมตลอด จากเหรียญทองแดงเป็นเหรียญเงิน จากเหรียญเงินในปีนี้ผมก็มีเหรียญทองในระดับนานาชาติแล้ว”
“ไม่ใช่แค่นั้นนะครับพี่ ยิมนาสติกได้ให้ผมทุกอย่างเลย อาชีพ เงินทอง ชื่อเสียง ตอนนี้เป็นทหารติดยศเรียบร้อยแล้ว สามารถดูแลพ่อแม่ได้แล้ว ดีใจมาก ๆ ที่อย่างน้อยความพยายามมาตั้งแต่เด็กมันให้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาด”
เจ้าบีมทิ้งท้ายว่าซีเกมส์ครั้งนี้มีความพิเศษมาก ๆ เพราะเป็นแมตช์ใหญ่ครั้งแรกที่จะได้เล่นต่อหน้าคนไทยจำนวนมาก และจะเป็นครั้งแรกด้วยที่พ่อกับแม่จะได้เข้ามาดูผมแข่งในสนาม ก็จะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด
ฟิลิปปินส์-มาเลเซีย คู่แข่งสำคัญ
การประกาศไม่เข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ของคาลอส ยูโล ตัวเก่งจากฟิลิปปินส์เจ้าของ 2 เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2024 ทั้งในประเภทฟลอร์ เอ็กเซอร์ไซส์กับม้ากระโดด ถือเป็นข่าวดีของเจ้าบีม อย่างไรก็ตามการจะไปให้ถึงเหรียญทองก็ยังไม่ใช่งานง่ายเพราะทั้ง 2 อีเวนต์มีแชมป์เก่าขวางทางอยู่
ประเภทฟลอร์ เอ็กเซอร์ไซส์ John Ivan Cruz แชมป์เก่าวัย 24 ปี จากฟิลิปปินส์ เป็นคนที่เบียดเอาชนะ “บีม” มาได้ด้วยคะแนนที่ดีกว่าเพียง 0.05 คะแนน และคว้าเหรียญทองไปในซีเกมส์ที่ประเทศกัมพูชา แต่หากเทียบฟอร์มในปี 2025 แล้ว ผลงานของนักยิมจากแดนตากาล็อกดูจะเป็นรองเจ้าบีมอยู่พอสมควร โดยเฉพาะในศึกชิงแชมป์โลก 2025 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จบอันดับ 80 ของโลก ส่วนเจ้าบีมสร้างประวัติศาสตร์ได้อันดับ 5 ของโลก
ส่วนประเภทม้ากระโดด มีคู่แข่ง 2 คน คนแรก Muhammad Sharul Aimy ตัวเก่งจากมาเลเซียวัย 24 ปี ดีกรีไม่ธรรมดา เป็นเจ้าของเหรียญทองแดงประเภทม้ากระโดด 2 รายการใหญ่อย่าง เอเชียนเกมส์ 2022 และอันดับ 3 ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ส่วนอีกคนคือ Juancho Miguel Besana แชมป์เก่าจากฟิลิปปินส์ เป็นคู่แข่งที่ผลัดกันแพ้ชนะกับบีมมาตั้งแต่ซีเกมส์ 2021
เมื่อเทียบฟอร์มเฉพาะในปี 2025 ปรากฏว่า บีม มีผลงานดีสุดจากศึกชิงแชมป์โลก 2025 ทำผลงานได้อันดับ 16 ส่วน Juancho Miguel Besana อันดับ 36 และ Muhammad Sharul Aimy อันดับ 41
ภาพรวมทั้ง 2 อีเวนต์ที่กล่าวมา ถือว่าบีมมีโอกาสดีไม่น้อยที่เจ้าตัวจะได้พลิกบทบาทจากพระรองมาเป็นพระเอกกับเขาเสียที
ยิมนาสติกแข่งที่ไหน ชิงกี่เหรียญทอง
กีฬายิมนาสติกซีเกมส์ปีนี้ชิงชัยทั้งหมด 16 เหรียญทอง แบ่งเป็น ยิมนาสติกศิลป์ 10 เหรียญทอง, ยิมนาสติกแอโรบิก ชิง 2 เหรียญทอง และยิมนาสติกลีลา ชิง 4 เหรียญทอง ทั้ง 3 ประเภทแข่งขันกันที่ยิมเนเซียม 6 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระหว่างวันที่ 10-19 ธันวาคมนี้
สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ส่งนักกีฬาเข้าร่วมทั้งสิ้น 20 คน ประกอบด้วย นักกีฬายิมนาสติกศิลป์ 7 คน แบ่งเป็นนักกีฬาชาย 4 คน ทิฆัมพร สุรินทรทะ, สุภชีพ บ่าวเบ็ญหมัด, วีรภัทร์ ช่วยโสม, ฟุกะ โนมุระ และนักกีฬาหญิง 3 คน ศศิวิมล เมืองพวน, ธารธิดา โซเฟีย รีคแคร์, ปิยธิดา นนลือชา,
ยิมนาสติกแอโรบิก 5 คน แบ่งเป็น นักกีฬาชาย 2 คน ชนกพล เจียมสุขใจ, ณัทกฤป ธีรสาธร นักกีฬาหญิง 3 คน สุภัสสร วัชราภรณ์, ชวิศา อินทกุล, ปัญรส วัดทอง
ยิมนาสติกลีลา ส่งแข่งเฉพาะนักกีฬาหญิง 8 คน พิยดา พีรมธุกร, สิขรี สุทธิรักษ์, ปัณฑิตา ทองสอง, ภรณ์นัชชา เจตธำรง, ชลธิชากร จรรย์โกมล, สุพิชญา ปิ่นฝั้น, พิชญธิดา เกตสกุล, รักต์กันท์ ชัยโชณิชย์
สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทยได้ประกาศตั้งเป้าหมาย 4-5 เหรียญทอง โดยความหวังอยู่ที่ ทิฆัมพร สุรินทรทะ, ศศิวิมล เมืองพวน และทีมยิมนาสติกลีลาหญิง
สำหรับ บีม-ฑิฆัมพร สุรินทรทะ ผ่านประสบการณ์ซีเกมส์มาแล้ว 4 สมัยตั้งแต่ปี 2017-2023 ทำผลงานรวม 4 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ส่วนซีเกมส์ 2025 เจ้าตัวจะลงแข่งขัน 2 อีเวนต์ ฟลอร์ เอกเซอร์ไซส์ กับม้ากระโดด ติดตามเชียร์กันได้ 10-12 ธันวาคมนี้
