วันนี้ (30 ตุลาคม) ที่อาคารรัฐสภา ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการแก้รัฐธรรมนูญ กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การประชุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด หรือจำเป็นต้องเปิดสมัยประชุมรัฐสภาวิสามัญหรือไม่ โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภาได้แจ้งให้สมาชิกเตรียมความพร้อมไว้แล้ว หากมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ
ณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ขณะนี้มีหลายประเด็นที่ยังเห็นต่างกัน เช่น การได้มาซึ่งผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง ซึ่งบางฝ่ายเห็นว่ายังสามารถพิจารณาในรูปแบบทางอ้อมได้ รวมถึงรูปแบบของกรรมาธิการยกร่างว่าจะมีลักษณะอย่างไร หรือจำเป็นต้องมีสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทั้งนี้อยากให้กระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นกระบวนการที่ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด
สำหรับประเด็นสำคัญ คณะกรรมาธิการได้ตั้งคณะทำงานจากทุกภาคส่วนเข้ามาศึกษาและพิจารณา โดยมีชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย), เชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงศ์ (พรรคภูมิใจไทย), พริษฐ์ วัชรสินธุ (พรรคประชาชน), พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงษ์ และนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา ร่วมเป็นคณะทำงาน เพื่อหาฉันทามติในประเด็นที่ยังมีความเห็นแตกต่าง หากได้ข้อสรุปแล้ว คาดว่าสัปดาห์หน้าจะเริ่มพิจารณารายมาตรา โดยหากมีฉันทามติร่วมกันก็อาจไม่จำเป็นต้องลงมติ แต่หากไม่สามารถตกลงกันได้จะต้องมีการลงมติในแต่ละประเด็น
ณัฐวุฒิกล่าวย้ำว่า สัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้าจะเดินหน้าการพิจารณาอย่างเต็มที่ โดยคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาอย่างน้อย 10 ครั้ง และจะเร่งให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ตอบโจทย์ประชาชน หากดำเนินการได้ครบถ้วนแล้ว จึงจะพิจารณาว่าจำเป็นต้องเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญหรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คาดว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องเตรียมการจัดทำประชามติ ณัฐวุฒิกล่าวว่า กกต.พร้อมดำเนินการทั้งในส่วนของการทำประชามติและการเลือกตั้ง รวมถึงการสอบถามความคิดเห็นประชาชนในประเด็นอื่นๆ เช่น ข้อเสนอ MOU 43-44 ทั้งนี้จากการประชุมมาแล้ว 4 ครั้ง เห็นว่าหลายประเด็นเริ่มได้ข้อสรุปและคาดว่าการพิจารณารายมาตราจะดำเนินไปได้รวดเร็วขึ้น โดยคาดว่าในเดือนพฤศจิกายนนี้ คณะกรรมาธิการจะสามารถพิจารณาได้แล้วเสร็จ
