วันนี้ (25 ตุลาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ เพื่อหารือมอบหมายภารกิจถวายงานพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ว่า การประชุม ครม. ครั้งนี้เพื่อดำเนินการเตรียมความพร้อมทุกอย่างสำหรับงานพระราชพิธีฯ ให้ได้รับทราบและสั่งการต่างๆ เพื่อให้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติสูงสุด
ส่วนสถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ และสถานศึกษาทุกแห่งให้มีการให้ลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันนี้ (25 ตุลาคม) เป็นต้นไป
ขณะที่ส่วนของข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ขอความร่วมมือแต่งกายชุดดำเป็นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนประชาชนทั่วไปขอให้พิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสม เบื้องต้นขอความกรุณาในฐานะที่เราเป็นพสกนิกรของพระองค์ท่าน ขอให้ช่วยความร่วมมือ แต่งกายด้วยชุดดำ หรือโทนสีสุภาพ ถ้าทำได้ก็ขอให้ทำถวายท่านเป็นระยะเวลา 90 วัน นี่คือคำขอของนายกรัฐมนตรีต่อพี่น้องประชาชน เพราะพระองค์ท่านมีพระมหากรุณาธิคุณ ต่อประเทศของเรา มาตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่ทรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ จึงต้องควรต้องทำเต็มที่เป็นการตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ
ส่วนงานรื่นเริงหรือคอนเสิร์ตที่มีกำหนดการในช่วงนี้นั้น อนุทินกล่าวว่า คอนเสิร์ตก็ต้องขอความร่วมมือ และจะพยายามหาช่องทาง ไม่ให้มีผลกระทบ ซึ่งต้องดูในเรื่องของวัฒนธรรมประเพณีของพวกเราด้วย
ย้ำลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา เพื่อความปลอดภัย รักษาอธิปไตย
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกำหนดการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ประเทศมาเลเซีย ว่า วันนี้มีพิธีเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ซึ่งตนก็ได้ขอยกเลิก แต่ในวันพรุ่งนี้ (26 ตุลาคม) จะมีการลงนามถ้อยแถลง การเสนอแนวทางที่จะนำไปสู่การสร้างสันติภาพไทย-กัมพูชา มีสักขีพยาน คือ ทางมาเลเซียและสหรัฐ ตนได้ขอให้เลื่อนระยะเวลาการลงนามมาเป็นช่วงเช้า เพื่อให้ได้เดินทางกลับมาทันพระราชพิธี ในช่วงบ่าย
ทั้งนี้ ได้ขอมติ ครม. หากไม่มีประเด็นที่สำคัญยิ่งยวดที่จะต้องใช้ผู้นำประเทศไปหารือ ก็จะมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทำหน้าที่แทน เพราะตนมีความตั้งใจว่าจะต้องอยู่ในประเทศ
“ขอยืนยันกับประชาชนคนไทยได้ทราบว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันเจรจากันทั้งการประชุม JBC และ GBC แล้วนำมา ซึ่งบทสรุปที่เป็นข้อกำหนดที่เราได้ขอให้ทำกัมพูชาปฏิบัติ เมื่อเขาปฏิบัติแล้ว เราก็จะพิจารณาว่า ความเป็นภัยของความมั่นคงของประเทศ ถ้าหมดไปแล้ว ค่อยดำเนินการตามธรรมเนียมทางการทูตต่อไป ฉะนั้น จึงยังไม่มีสิ่งใดที่กังวล หรือการลงนามจะทำให้ เกิดการสูญเสียอธิปไตย หรือดินแดน ไม่มีทั้งสิ้น เป็นการทำเพื่อทำให้เกิดความปลอดภัยของประชาชน ลดความสูญเสีย และรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย” อนุทินกล่าว
