วันนี้ (19 ตุลาคม) พล.อ. สวัสดิ์ ทัศนา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนรักเครื่องเสียงนำเครื่องขยายเสียงไปแสดงออกที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว โดยยืนยันว่าเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของประชาชนที่รักชาติ
พล.อ.สวัสดิ์ กล่าวย้ำว่า พื้นที่บ้านหนองจานและหนองหญ้าแก้วเป็นผืนแผ่นดินไทย ที่เคยอนุญาตให้ชาวกัมพูชาที่อพยพหนีสงครามกลางเมืองเข้ามาอยู่อาศัย แต่การที่ประชาชนไทยไปแสดงออกนั้น เป็นความชอบธรรมที่ประชาชนรักชาติสามารถทำได้
“การที่ประชาชนจะไปแสดงออกก็เป็นความชอบธรรมของประชาชนที่เขารักชาติบ้านเมืองเขาคิดได้ ส่วนเหตุการณ์จะบานปลายหรือไม่ ผมคิดว่าฝั่งกัมพูชาเอาคนที่เป็นเด็ก ผู้หญิง พระ มายั่วยุมาทำร้ายเจ้าหน้าที่ของเรา ตนคิดว่ามันรุนแรงกว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้อีก” พล.อ.สวัสดิ์ กล่าว
ประธาน กมธ. ทหารฯ ระบุว่า การตอบโต้ของฝ่ายไทยเป็นการตอบโต้อย่างสงบ แม้การเปิดเครื่องเสียงอาจสร้างความรำคาญบ้าง แต่ความรุนแรงยังน้อยกว่าสิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาทำต่อเจ้าหน้าที่ไทย พร้อมแสดงความเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ที่สามารถรักษาพื้นที่ให้มีความสงบได้
ต่อกรณีที่ฝ่ายกัมพูชานำเรื่องการใช้เครื่องขยายเสียงไปร้องเรียนต่อข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติ โดยอ้างว่าผิดอนุสัญญาว่าด้วยการทรมาน (CAT) นั้น พล.อ.สวัสดิ์ ตอบโต้ว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ถึงขั้นผิดอนุสัญญาระหว่างประเทศ
“ดูที่เขาทำกับเราสิ เขายิงเข้ามาใช้อาวุธจรวด BM-21 คนไทยบาดเจ็บล้มตายแม้กระทั่งเด็กนักเรียนต่างๆ รุนแรงมากกว่าอีก… ไม่มีใครไปโวยวายอะไร แต่พอเราทำบ้าง ไม่ได้เจ็บขนาดที่เขาทำกับเราด้วยซ้ำ” พล.อ.สวัสดิ์ กล่าว
พล.อ.สวัสดิ์ ยังให้ความเห็นในแง่กฎหมายระหว่างประเทศว่า การกระทำทั้งสองฝ่าย (การยั่วยุของกัมพูชาและการเปิดเครื่องเสียงของไทย) ถือเป็นการกระทำของประชาชน ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้กระทำ และการกระทำของฝ่ายไทยยังอยู่ในพื้นที่ของตนเองด้วยซ้ำไป