‘ข้าวปลิดวิญญาณ’ ผมรู้สึกสะดุดใจกับชื่อของเมนูร้านสไตล์ฮ่องกงเล็กๆ แห่งนี้ขึ้นมา ก่อนจะทราบถึงที่มาที่ไปว่าจริงๆ มันคือข้าวหมูแดง (หรือชาชิว หมูแดงย่างที่หอมนุ่มชุ่มฉ่ำ) โปะด้วยไข่ดาวที่ไข่แดงยังเยิ้มๆ เหยาะซอสสักหน่อยด้านบน
เมนูชื่อกระชากใจนี้มีที่มาจากหนังจีนระดับตำนาน ‘คนเล็กกุ๊กเทวดา’ ที่นำแสดงโดยโจวซิงฉือ ซึ่งแน่ล่ะ มันทำให้ผมกำลังคิดถึงอาซิงและเรื่องราวของเขาและเพื่อนอีกแล้ว
แต่แล้วผมก็กลับคิดถึงใครอีกคนขึ้นมา
จูนินโญ แปร์นัมบูกาโน (และอีกเสี้ยวใจแบ่งความคิดถึงให้แก่ จูนินโญ เปาลิสตา พ่อมดลูกหนังมิดเดิลสโบรห์ด้วย)
นักฟุตบอลที่เล่นธรรมดาๆ ไม่ได้ดูมีความพิเศษหรือมหัศจรรย์อะไรเลย
จนกระทั่งทีมของเขาได้ลูกฟรีคิกเท่านั้นแหละ เราจะได้เห็นเงาของเพชฌฆาตในตัวของนักฟุตบอลคนนี้ ผู้สามารถยิงลูกฟรีคิกได้ทุกรูปแบบและทุกระยะ และได้รับการยกย่องจากโลกทั้งใบว่านี่แหละคือหนึ่งในสองของนักฟุตบอลที่ยิงฟรีคิกได้เก่งกาจที่สุดของโลก
ย้อนกลับไปในช่วงเข้าสู่ยุคมิลเลนเนียมใหม่ๆ ลีกฝรั่งเศสถูกปกครองโดยทีมฟุตบอลเพียงทีมเดียว
โอลิมปิก ลียง คือมหาอำนาจของวงการลูกหนังเมืองน้ำหอมในขณะนั้น โดยสามารถกวาดแชมป์ลีก เอิง มาครองได้ถึง 7 สมัยติดต่อกันเรียกว่า ‘ไร้เทียมทาน’ ด้วยขุมกำลังที่ยอดเยี่ยมระบือไกล ไม่เฉพาะในประเทศแต่เลื่องลือไปทั่วยุโรป
ท่ามกลางเหล่าสตาร์มากมาย หนึ่งในคนที่เป็นหัวใจของทีมคือจูนินโญ แปร์นัมบูกาโน – หรือที่พวกเขาก็เรียกกันสั้นๆ ว่าจูนินโญนั่นแหละ
จูนินโญ เป็นกองกลางในสไตล์ ‘ห้องเครื่อง’ ที่ลียงได้ตัวมาจากวาสโก ดากามา ในบราซิล แบบไม่มีค่าตัว (แม้ว่าสองสโมสรจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันนิดหน่อย) เพียงแต่การที่ได้มาฟรีไม่ได้แปลว่าไม่มีคุณค่า เพราะเขาใช้เวลาแค่ไม่นานก็ปักหลักในฐานะแกนของทีมทันที
นักเตะคนนี้ไม่ได้มีลีลาการเล่นที่พลิ้วไหวแบบ ‘Ginga’ ไม่ได้มีเทคนิคจัดจ้านมหัศจรรย์แบบ ‘Joga Bonito’ แต่เป็นกองกลางที่แข็งแกร่ง ฝากพักบอลได้ และเปิดบอลได้ดีไม่ว่าจะเป็นการเปิดบอลสั้นหรือยาวด้วยเทคนิคที่ยอดเยี่ยม บอลที่เปิดจากเขาแม่นยำได้น้ำหนักที่ถูกต้องเสมอ
แต่จุดเด่นที่ทำให้เขาแตกต่างจากทุกคนคือเรื่องของการยิงประตูที่ยอดเยี่ยม ด้วยเทคนิคการวางเท้าและพลังที่อัดแน่นและระเบิดออกมาในการหวดลูกหนัง
ใน 8 ปีที่อยู่ในถิ่นสตาด เดอ แชร์กลองด์ (2001-2009) จูนินโญทำประตูให้กับต้นสังกัดได้มากถึง 100 ลูกเลยทีเดียว
สิ่งที่น่าสนใจคือในจำนวน 100 ประตูนี้เป็นการยิงฟรีคิกถึง 44 ประตู หรือเกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
เป็นตัวเลขที่มหัศจรรย์พันลึกอย่างมาก
แต่เรื่องมันจะยิ่งเหลือเชื่อเข้าไปอีกหากได้เห็นตำแหน่งต่างๆ ของลูกฟรีคิกที่จูนินโญ สามารถส่งบอลเข้าประตูได้ เพราะไม่ว่าจะยิงใกล้ ยิงไกล ยิงไกลมาก ๆ จนถึงยิงจากริมเส้นนอกกรอบเขตโทษก็สามารถสั่งได้หมด
ความสนุกเพิ่มเติมคือเขาเป็นจอมยิงลูกตาย (Dead ball) ที่มีเทคนิคที่ใช้ในการยิงฟรีคิกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นปั่นบอล การยิงอัดเต็มแรง หรือการยิงลูกข้อ (Knuckleball) ก็สามารถเลือกใช้ได้หมดตามสถานการณ์
หรือในอีกทางคือตามใจของพี่เขา
โดยเฉพาะการยิงลูกข้อที่บางคนอาจจะคิดว่าเป็นเทคนิคที่คิดค้นขึ้นโดยคริสเตียโน โรนัลโด หรือแกเร็ธ เบล แต่ความจริงแล้วจูนินโญ เป็นคนเอาเทคนิคเก่าแก่นี้มาใช้ก่อนนานแล้วและใช้จนเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวเองด้วย
ลูกยิงลักษณะนี้ตามตำราบราซิลจะเรียกกันว่า ‘ลา โฟลญา เซกา’ (La Folha Seca) หรือที่แปลเป็นไทยง่ายๆ คือลูกยิง ‘ใบไม้ร่วง’ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ถูกคิดค้นขึ้นโดย ดีดี ซูเปอร์สตาร์แซมบ้าในยุคโบราณก่อนที่จะมีคนหัดยิงตามอีกมากมายไปทั่วทวีปอเมริกใต้
เทคนิคนี้กระจายตัวไปถึงยุโรป ในอิตาลีจะเรียกลูกยิงแบบนี้ว่า ‘มาเลเดตตา’ (Maledetta) ที่แปลเป็นภาษาบ้านเราว่าลูกยิงต้องสาป โดยคนที่ใช้ลูกยิงนี้ในแดนพาสต้าคือ จูเซปเป เมียสซา ตำนานแห่งสโมสรอินเตอร์ มิลาน (ผู้ถูกนำชื่อมาใช้เป็นสนามเหย้าของเนรัซซูรี)
อย่างไรก็ดีถึงจะเป็นเทคนิคที่คิดค้นกันนานแล้วตั้งแต่ยุค 1950 แต่เราพอจะบอกได้ว่าจูนินโญเป็นคนที่ขัดเกลาเทคนิคการยิงในแบบนี้ได้สมบูรณ์แบบที่สุด
แม้แต่หนึ่งในคนที่ยิงฟรีคิกได้ดีที่สุดของอิตาลีในรุ่นราวใกล้เคียงกันอย่างอันเดรีย ปีร์โล เองก็ยอมรับ
“ในช่วงเวลาของเขาที่ลียง นักเตะคนนี้ทำสิ่งพิเศษให้เกิดขึ้น เขาวางบอลลงกับพื้น บิดลำตัวในลักษณะท่าทางแปลกๆ วิ่งเข้าหาบอลแล้วก็ยิงได้ประตู เขาไม่เคยทำพลาดเลย ไม่เคย” ปีร์โลกล่าวอ้างอิงถึงจูนินโญในหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเอง
นั่นสิคนอะไรจะยิงแม่นยำทุกรูปแบบทุกระยะขนาดนี้?
เรื่องนี้ทำให้ช่อง YouTube ‘3CB Performance’ เคยชวนนักวิทยาศาสตร์มานั่งวิเคราะห์เทคนิคการยิงของจูนินโญเป็นการเฉพาะเลยทีเดียว (หลังจากที่เคยวิเคราะห์เทคนิคการยิงฟรีคิกของลิโอเนล เมสซี และคริสเตียโน โรนัลโดมาแล้ว)
ผลการศึกษาพบว่าในลูกฟรีคิกระยะใกล้ จูนินโญ จะใช้วิธีการยืนห่างจากลูกบอลแค่ 3 ก้าวและโฟกัสกับการหวดบอลให้เข้าเป้าจังๆ มากที่สุด
ทีนี้เคล็ดลับมันอยู่ที่การตั้งบอลที่จะกำหนดว่าเขาจะเข้าหาบอลอย่างไร เช่น ถ้าบอลเยื้องทางซ้ายมากหน่อย องศาการวิ่งเข้าหาบอลจะเป็นมุมตั้งฉากมากขึ้น ขณะที่สายตาจับจ้องที่ลูกบอลว่าจะหวดตรงจุดไหน ซึ่งจะผ่านการคำนวณมาแล้วจากหน้างานว่ากำแพงอยู่ประมาณนี้ ประตูยืนตรงนี้ มุมไหนเปิดกว้างและมีโอกาสมากที่สุด
ที่เหลือคือเทคนิคการยิงที่จะบรรจงยิงด้วยเทคนิค ซึ่งลูกยิงของจูนินโญจะไม่ได้เป็นการปั่นโค้งอ้อมกำแพงสวยๆเสมอไป แต่จะเป็นการยิงลักษณะ ‘นำวิถี’ ที่ให้ความสำคัญกับวิธีการซัลโวแล้วเข้าเป้าหมายมากกว่าเรื่องของความสวยงาม
ขณะที่ถ้าเป็นลูกยิงระยะไกล 30-40-50 หลา จูนินโญจะใช้การยิงลูกข้อ โดยจะเพิ่มระยะจาก 3 เป็น 4 ก้าวเพื่อเพิ่มพลังส่งในการยิง และการวิ่งเข้าหาบอลจะเป็นการวิ่งตรงๆเพื่อจัดระบบร่างกายให้ดีที่สุด ใช้พลังที่ส่งจากแกนกลาง (Torso) และลำตัวด้านบนไล่ส่งลงมาถึงปลายเท้า
จุดที่จะสัมผัสบอลคือบริเวณตรงกลางเยื้องลงมาด้านล่างของบอลที่หากยิงเข้าจุดนี้บอลจะพุ่งโค้งแหวกอากาศโดยที่ไม่หมุน วิถีของบอลจะส่ายโดยไม่สามารถคาดเดาทางได้ มีแต่คนที่ยิงอย่างจูนินโญเท่านั้นที่รู้ว่าเขาอยากจะให้บอลไปเข้าตรงไหน
แต่ความลับของลูกฟรีคิกจริงๆ แล้วคือจูนินโญ เคยเป็นคนที่ยิงฟรีคิกไม่เก่งมาก่อนแม้จะเป็นคนที่มีเทคนิคการยิงดีมาตั้งแต่เด็กก็ตาม ด้วยความเป็นเด็กที่หัดเล่นมาจากฟุตซอลเขาไม่มีพลังมากพอที่จะยิงฟรีคิกได้หนักและดีพอ ทำให้แม้จะได้รับมอบหมายให้เป็นคนยิงก็ไม่ได้ว่าจะทำได้ดีมาตั้งแต่แรก
สิ่งที่ทำให้จูนินโญสร้างตำนานของตัวเองได้คือการฝึกฝน โดยอาศัยแรงบันดาลใจจากรุ่นพี่ร่วมวงการอย่าง มาร์เซลินโญ อดีตนักเตะโครินเธียนส์ที่ทำให้เขาทึ่งกับเทคนิคการยิง ‘ลา โฟลญา เซกา’ ส่งบอลเต้นระบำกลางอากาศก่อนจะแหวกผ่านทุกคนเข้าประตู
“ผมเริ่มฝึกเลียนแบบการยิงของมาร์เซลินโญ เขาเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของผมและเป็นคนแรกที่ผมเคยเห็นการยิงแบบนั้น นั่นแปลว่าเทคนิคนี้ผมไม่ได้คิดขึ้น ดีดี้ ผู้คว้าแชมป์โลกให้บราซิลในปี 1958 และ 1962 เป็นคนคิดค้นมันตั้งแต่นั้น ก่อนที่ทุกคนจะพยายามบิดเปลี่ยนหาสูตรของตัวเอง”
โจวานนี เอลแบร์ เพื่อนร่วมทีมชาติบราซิลในยามนั้นบอกว่าความลับของจูนินโญไม่มีอะไรมากกว่าการฝึกทุกวัน บางวันฝึกประจำวันจบแล้วก็ฝึกซ้อมยิงต่ออีกหลายชั่วโมง จะฝนตก แดดออก หิมะลง เขาจะซ้อมยิงฟรีคิกแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพอใจ
สถิติตลอดชีวิตการเล่น จูนินโญยิงฟรีคิกไปทั้งหมด 77 ลูก (หรือบางแหล่งอ้างอิงบอก 74 ลูก) เป็นมนุษย์ผู้ยิงฟรีคิกเข้ามากที่สุดในโลก มากยิ่งกว่าเปเล่, โรนัลดินโญ, เดวิด เบ็คแฮม, เมสซี, ดีเอโก มาราโดนา หรือคริสเตียโน โรนัลโด
แต่เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นคนเก่งที่สุดตลอดกาล อย่างมากก็อาจจะเป็นแค่คนที่เก่งที่สุดในช่วงเวลาหนึ่ง
“ผมจะอ้างว่าผมเก่งกว่าเดวิด เบ็คแฮม หรือซินิซา มิไฮโลวิชได้อย่างไร?”
เรื่องนี้ก็ใช่ แต่อย่างน้อยที่สุดสำหรับแฟนฟุตบอลแล้ว หากเอ่ยชื่อของจูนินโญ แปร์นัมบูกาโนแล้ว
ทุกคนจะนึกออกทันทีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น
และนั่นแหละคือสิ่งที่สวยงามที่สุดแล้วสำหรับเรื่องวันนี้