วันนี้ (11 ตุลาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดปัตตานีและจังหวัดสงขลา ว่า การลงพื้นที่ในวันนี้จะเป็นการตรวจเยี่ยมความพร้อม โดยในวันนี้ พล.อ. สมศักดิ์ รุ่งสิตา อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะร่วมคณะ เพื่อรับฟังสถานการณ์ และดูความพร้อมของฝ่ายความมั่นคง รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความปลอดภัย
ขณะเดียวกัน ก็จะมีการประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย ซึ่งปลัดกระทรวงมหาดไทยได้เชิญผู้ว่าราชการจากเขตจังหวัดในพื้นที่มาหารือร่วมกัน พร้อมยอมรับว่าสถานการณ์ในพื้นที่มีความน่าเป็นห่วง
ขณะที่ การลงพื้นที่ในวันนี้ อนุทินกล่าวว่า จะไปดูสถานการณ์ เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดเหตุขึ้น 2-3 ครั้ง รวมไปถึงมีเหตุการณ์ปล้นร้านทองที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ที่ได้รับรายงานมาโดยตลอดทั้งจากฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ฉะนั้น ตนจะสั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้มงวดในการดูแลประชาชน และจะไปเยี่ยมเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการเข้าไปช่วยเหลือเหตุปล้นร้านทองด้วย
สำหรับการแต่งตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ ในครั้งนี้จะทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้นหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ทุกคนก็พยายามทำให้ดีขึ้นทุกอย่าง ขณะเดียวกันก็มีการเจรจาในกรอบของคณะพูดคุยคู่ขนานไปกับรัฐบาล ซึ่งในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศมีการประสานงานอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว และเมื่อ สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทราบว่าตนจะเดินทางไปพร้อม พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ขอลงพื้นที่ไปดูด้วยตัวเอง
อนุทินยังกล่าวถึงกรณี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่าเหตุใดจึงใช้กลไกของรัฐสภาไม่ได้ในการยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 ว่า ขณะนี้รัฐสภากำลังศึกษาอยู่ ทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร
ส่วนจะสามารถใช้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการยกเลิกได้เลยใช่หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ทุกอย่างต้องมีขั้นตอน ซึ่งต้องรอฟังผลการศึกษา แล้วค่อยมาพิจารณาร่วมกันว่าหากผลออกมาเป็นทางบวกกับประเทศไทยมีโอกาสไม่ต้องทำประชามติหรือไม่