วันนี้ (8 ตุลาคม) ที่อาคารรัฐสภา รังสิมันต์ โรม สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่กรรมาธิการฯ จะมีการเชิญ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้ามาชี้แจงในกรรมาธิการเกี่ยวกับ เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิธ
อย่างไรก็ตาม ร.อ. ธรรมนัส ได้ยืนยันว่าจะไม่มา โดยรังสิมันต์ระบุว่า ตอนนี้สับสนว่าตนควรจะเชื่อ ร.อ.ธรรมนัส เรื่องอะไรบ้าง เนื่องจากพูดหลายอย่าง และมองว่า ร.อ. ธรรมนัส น่าจะมีปัญหาด้านสุขภาพ และล่าสุดเล่นใหญ่บอกว่าจะฟ้อง ยืนยันว่าตนเองไม่ได้อยากถูกฟ้อง แต่หลังจากนั้นคนที่ตัดสินใจมาฟ้องจริงๆ โดยใช้ทีมงานของ ร.อ.ธรรมนัส กลับเป็นเบนจามิน ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา
โดยก่อนหน้านั้น ร.อ. ธรรมนัส ก็มีการระบุว่า พร้อมมาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการฯ เช่นเดียวกับทนายความของ ร.อ. ธรรมนัส เอง แต่ไปๆ มาๆ ทราบข่าวว่า ร.อ. ธรรมนัส ไม่มาแล้ว จะส่งทนายความมาเอง ตอนนี้จึงไม่ค่อยมั่นใจว่าจะเชื่อ ร.อ. ธรรมนัส อะไรได้บ้าง และไม่ค่อยมั่นใจว่า ร.อ. ธรรมนัส มีความน่าเชื่อถืออะไรในการที่จะให้ความเห็นหรือไม่ เพราะในเมื่อวันนี้พูดอย่าง วันถัดมาก็พูดอย่าง
“ต้องตั้งคำถามไปยัง ร.อ.ธรรมนัส ว่า ไหนบอกอย่าปากกล้าขาสั่นแล้วกัน แต่ตอนนี้ตกลงแล้ว ร.อ. ธรรมนัส ไม่กล้าที่จะมาเผชิญหน้ากับความจริง และในวันที่ 9 ตุลาคม ผมจัดเวลาสำหรับการสอบข้อเท็จจริงจาก ร.อ.ธรรมนัส ค่อนข้างน้อย แค่ 1 ชั่วโมง คือช่วงเวลา 11.30 น. ไม่เกิน 12.00 น. และเข้าใจว่าในฐานะที่เป็นรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี คงมีภารกิจจำนวนมาก แต่การที่มาชี้แจงกับกรรมาธิการฯ ไม่ได้เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ มีรัฐมนตรีหลายคนที่เคยมาชี้แจงกับกรรมาธิการฯ แต่ทำไม ร.อ. ธรรมนัส ไม่กล้ามาเผชิญกับความจริง” รังสิมันต์กล่าว
รังสิมันต์ระบุด้วยว่า พรุ่งนี้ (9 ตุลาคม) ได้เตรียมไว้หลายเรื่อง ทั้งเรื่องเบนจามิน เรื่องอาคารของกัมพูชาที่ล้ำเข้ามาในจังหวัดตราด โดยยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับเบนจามิน แต่ยืนยันว่า เราจะสอบเรื่องของเบนจามินแน่นอน
รังสิมันต์เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเรียกข้อมูลทั้งหมด และเห็นว่าการที่ทีมงานของ ร.อ.ธรรมนัส ในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ค่อนข้างดี เช่น เบนจามินซึ่งเป็นที่ปรึกษาของ สมเด็จ ฮุน เซน ที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคนแนะนำให้กับ ร.อ. ธรรมนัส รู้จัก กันมานานเป็นปี และมีการจัดที่ปรึกษาดูแลเบนจามินในเรื่องธุรกิจ
ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในลักษณะนอมินี ดังนั้นต้องสอบกันต่อไป เพราะธุรกิจหลายอย่างที่เชื่อมโยงไปถึงเบนจามิน ฟังดูแล้วคล้ายนอมินี พร้อมยืนยันที่จะให้ความเป็นธรรมมากที่สุด
”บางคนบอกว่าเรื่องนี้มีมูลหรือไม่ เรื่องนี้เต้าข่าวหรือไม่ เอาข่าวมาเล่นไม่มีข้อเท็จจริงหรือไม่ ไม่เป็นไร รอดู ผมค่อนข้างมั่นใจว่าข้อมูลที่ได้รับมาชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่ใช่แค่หยุดที่คุณธรรมนัส เรื่องนี้มันใหญ่มาก เป็นเรื่องที่อยากให้สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสำคัญ“ รังสิมันต์กล่าว
รังสิมันต์ย้ำว่า วันนี้สิ่งที่ประเทศไทยกำลังเผชิญคือทุนเทากำลังจะยึดชาติเรา นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าทุนสีเทาทั้งหลายกำลังจะยึดประเทศของเรา ผ่านธุรกิจ ผ่านบริษัทที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของชาติ ในเรื่องนี้แทนที่จะกล่าวหาคนที่เปิดโปง มากล่าวหาตน ย้อนถามว่าหากมองไปรอบตัวไม่รู้สึกถึงความผิดปกติเลยใช่หรือไม่ ว่าประเทศของเราเต็มไปด้วยเรื่องสีเทา เรื่องสีเรื่องของคนไม่สมควรอยู่ในประเทศนี้ แต่สามารถเข้ามาอยู่ในประเทศแล้วยึดธุรกิจของคนไทย
“ถ้าพวกคุณไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ ต้องส่องกระจก แล้วถามตัวเองว่า ยังมีจิตสำนึกกันหรือเปล่า แต่ถ้ารู้สึกว่าวันนี้ประเทศกำลังเผชิญกับภัยอันตรายขนาดนี้ แล้วผมในฐานะที่ออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ ผมคิดว่าเราควรสนับสนุนกันและกัน” รังสิมันต์กล่าว
ทั้งนี้ รังสิมันต์ยืนยันว่า ไม่มีความลำบากใจเรื่องคดีความ เพราะรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร การเอ่ยชื่อตรงๆ เป็นสิ่งที่ต้องทำ เพื่อให้ประชาชนรับรู้กันว่าสุดท้ายพวกทุนเทาจะมีเรื่องนิติสงครามเพื่อปิดปาก ก็ให้รู้กันไปว่า คนที่ออกมาพูดเรื่องแบบนี้สุดท้ายจะได้รับผลเสียหายเอง ย้ำว่าจะทำอย่างเต็มที่ ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ตนเองคนเดียว แต่อยู่ที่คนอยู่ในกระบวนการยุติธรรม คนที่อยู่ในรัฐบาล คนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐด้วย
