วันนี้ (7 ตุลาคม) แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการประเมินว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยจะได้ สส. ไม่เท่าเดิมนั้น โดยระบุว่า มีการประเมินในทุกๆ ช่วงของการเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ซึ่งขอรับความคิดเห็นทุกอย่างไว้ ถ้าการประเมินผลออกมาไม่ค่อยดี เราก็มีโอกาสที่จะปรับปรุงได้ แต่อะไรที่ดีแล้ว ก็จะทำให้ดีและดียิ่งขึ้นไป พรรคเพื่อไทยกำลังวางแนวทางการเลือกตั้งให้มั่นคง และแข็งแรง ให้รู้สึกว่าคนที่สนับสนุนพรรคก็มั่นใจ และคนที่เป็น สส. ในปัจจุบัน ก็มั่นใจ นั่นคือหน้าที่ที่เราทำอยู่
ส่วนตั้งเป้าหมายจำนวน สส. ไว้ที่เท่าไร แพทองธารกล่าวว่า เราทำอย่างสุดความสามารถ ถ้าพูดถึงตัวเลขตอนนี้ อาจจะยังเร็วไป เราพยายามให้ความมั่นใจกับทุกคน และคนที่ยังอยู่กับเราก็ยังอยู่กับเรา ฉะนั้น วันนี้ที่เปิดตัวแล้วในระยะเวลาที่ยังไม่ประกาศวันเลือกตั้งด้วยซ้ำ เป็นการแสดงความพร้อมของพรรคว่า สส. ยังพร้อมที่จะสู้ด้วยกันต่อไป
“บางทีเลือดที่ไหลออกไป ก็มีเลือดใหม่ไหลเข้ามาเหมือนกัน แต่เราต้องคงอุดมการณ์ และคงดีเอ็นเอของเราไว้ คือการทำนโยบายเพื่อให้ประชาชนกินดีอยู่ดี” แพทองธารกล่าว
ส่วนอุปสรรคคือนโยบายที่ผ่านมายังทำไม่เสร็จนั้น แพทองธารกล่าวว่า เราเป็นรัฐบาลมา 2 ปี รวมของ เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ตอนนี้เราเห็นแล้วว่าการทำนโยบายต่างๆ ติดขัดที่อะไรบ้าง เพราะฉะนั้น การที่เราเข้ามาเป็นรัฐบาล 2 ปี เราได้เห็นหมดแล้วว่า อะไรคือสิ่งที่จะทำให้นโยบายสำเร็จได้ ฉะนั้น การที่เราจะหาเสียงด้วยนโยบายต่อไป เรามั่นใจแน่นอนว่าต้องสำเร็จ ทันเวลา
ถอดบทเรียน ปรับตัว-รับฟังความเห็น
แพทองธารยอมรับว่า บทเรียนและความผิดพลาดที่ผ่านมา มีหลายอย่างที่เป็นบทเรียน ตลอดระยะเวลา 20 กว่าปีของพรรคเราที่ตั้งขึ้นมา เราต้องเปลี่ยนให้ทันสถานการณ์ ทันโลก ทันคน คนในพรรคตั้งแต่วันนั้น ด้วยตัวของคนเอง สถานการณ์เปลี่ยน เวลาเปลี่ยน คนเราก็เปลี่ยนเช่นกัน เพราะฉะนั้น การปรับตัวการรับฟังความคิดเห็นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าเหตุการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปกี่ร้อยครั้ง ถ้าเรารับฟังซึ่งกันและกัน ใช้ความคิดของกันและกัน ร่วมมือก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน คิดว่าพรรคเพื่อไทยจะแข็งแรง และพร้อมที่จะก้าวต่อ
ส่วนการให้ความหวัง สส. และผู้สมัครในฐานะหัวหน้าพรรคนั้น แพทองธารกล่าวว่า การเดินต่อไปข้างหน้าของเรา ไม่ได้ลำบากอย่างกระแสข่าวที่ออกมา การที่ตนเองเป็นคนได้คุยกับ สส. ในแต่ละพื้นที่เอง สิ่งไหนที่ไม่เข้าใจ ก็ได้ปรับความเข้าใจ หรือแนวทางไหนที่ตนเองอยากอธิบาย ก็ได้อธิบาย และเกิดความเข้าใจ พรรคเพื่อไทยไม่ใช่แค่พรรคการเมือง เหมือนเป็นบ้าน เป็นครอบครัว เพราะฉะนั้น เราเองได้สื่อสารซึ่งกันและกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาสื่อมวลชนอาจจะไม่ได้เห็น หรือไม่ได้ทราบว่ามีการพูดคุย แต่ที่ตนเองเข้าพรรคทุกวัน ได้คุยกับ สส. ทุกวัน ทุกพื้นที่ เพื่อที่จะได้รู้ความตั้งใจอย่างแท้จริง
ขณะที่วันนี้มีบางนามสกุลการเมือง ที่คนพ่อย้ายไปพรรคอื่น แต่ลูกยังอยู่พรรคเพื่อไทย จะบริหารจัดการอย่างไร แพทองธารกล่าวว่า ถ้าคนในครอบครัวย้ายไปพรรคอื่น เราก็จะขอคนที่อยู่พรรคเรา เชิญชวนให้เขากลับมา
“บ้านของเราอบอุ่น ยังแข็งแรงเหมือนเดิม ถึงตอนนี้จะพูดแทนผู้ก่อตั้งพรรคไม่ได้ แต่มั่นใจว่าจริงๆ แล้ว ดิฉันเชื่อในหัวใจของคนที่อยู่กันมานาน และมีความรู้สึกที่จะต้องย้ายออกไป บางทียังไม่ได้พูดคุยกัน ดิฉันยินดีที่จะพูดคุย และยินดีต้อนรับกลับบ้านเสมอ” แพทองธารกล่าว
เมื่อสื่อมวลชนถามถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยนั้น ได้ทาบทามไว้แล้วหรือไม่ แพทองธารระบุว่า ก็มีแล้ว แต่ยังไม่บอก ยังเป็นความลับ เพราะฉะนั้น สื่อมวลชนจะได้ตื่นเต้น เมื่อถามย้ำว่าใน 3 คน มีมาจากในตระกูลชินวัตรหรือไม่ แพทองธารระบุว่า “ไม่มี ยังไม่มี”
สุริยะฟันธงเพื่อไทยได้ สส. 200 ที่นั่ง สมัยหน้า
ด้าน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย กล่าว ในโอกาสที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ก่อนจะรับตำแหน่ง ตนเองอยู่กับพรรคไทยรักไทยมาตั้งแต่ 2544 จนปัจจุบันกลับมาที่นี่ ตนรู้จัก สส. ที่ร่วมเป็นร่วมตายกันเป็นจำนวนมาก
สุริยะกล่าวต่อไปว่า ยังได้ดูข้อมูลจากกระแสในโซเชียลมีเดียทั้งหลาย และเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนภายหลังพรรคประชาชนสนับสนุน อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ตัวเลขในโซเชียลมีเดียออกมาชัดว่า กระแสของพรรคประชาชนตกลงอย่างมาก และในการเลือกตั้งที่ผ่านมาแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเราเป็นการชนกับพรรคประชาชนโดยตรง ดังนั้น เมื่อกระแสของเขาตกลง เราก็จะได้ตัวผู้สมัครเพิ่มเติมเข้ามาชนะเขาที่แพ้กันเล็กน้อย
“ผมเชื่อมั่น ท่านรอดูการเลือกตั้ง ผมตั้งเป้าว่า 200 บวกลบ 10% แล้วคอยไปพิสูจน์กันในวันเลือกตั้ง” สุริยะกล่าว
สุริยะกล่าวต่อไปว่า สำหรับกระแสที่ออกไป หัวหน้าพรรคบอกให้ทุกคนสู้เต็มที่ แล้วเขามาถามตนเองว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ตนบอกไปว่า อยู่ 100% คอยพิสูจน์คำพูดของตนว่าเป็นจริงหรือไม่จริง
สุริยะยังประเมินตัวเลข สส. ในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า พรรคประชาชนจะได้ สส. ไม่เกิน 100 ที่นั่ง ส่วนพรรคภูมิใจไทยที่มีการดูด สส. เข้าไป ประมาณ 70 ที่นั่ง เมื่อรวมกับ สส. ที่ดึงมาจากพรรคอื่น รวมแล้วน่าจะประมาณ 120 คน
โดยแพทองธารได้กล่าวเสริมว่า “ดิฉันมีความภูมิใจที่ได้แต่งตั้งท่านสุริยะ” พร้อมได้ยกนิ้วโป้งให้กำลังใจสุริยะด้วย