×

ลุ้นผลประชุม กนง. ตุลาคมนี้ ‘นัดแรก’ วิทัย รัตนากร ศูนย์วิจัยฯ ‘เสียงแตก’

07.10.2025
  • LOADING...
ประชุม กนง

สำนักวิจัย 3 ธนาคารพาณิชย์ คาดการณ์ผลการประชุม กนง. แตกต่างกัน โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ที่ประชุม กนง. มีมติ ‘คง’ ดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50% ขณะที่ วิจัยกรุงศรีมอง กนง. มีแนวโน้ม ‘ปรับลด’ อัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนตุลาคมนี้ ส่วน SCB EIC มอง กนง. จะลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งภายในปีนี้ โดยให้น้ำหนักไปที่การประชุมเดือนตุลาคม

 

KResearch มอง กนง. มีมติคงดอกเบี้ย

 

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด (KResearch) คาดว่า ที่ประชุม กนง. จะมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ ในการประชุมกนง. วันที่ 8 ตุลาคมนี้ โดยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% หลังจากได้ปรับลดลง 0.25% ในการประชุมรอบก่อนหน้าเมื่อเดือน ส.ค. 

 

พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การประชุมดังกล่าว ถือเป็นการประชุมครั้งแรกภายใต้การกำกับของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ วิทัย รัตนากร พร้อมด้วยกรรมการใหม่อีก 2 ท่าน ได้แก่ สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ รองผู้ว่าการ ธปท. ด้านบริหาร และเชาว์ เก่งชน อดีตประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด

 

อย่างไรก็ตาม แม้กรรมการบางส่วนอาจสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม เนื่องจากเศรษฐกิจไทยเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง แต่ KResearch มองว่า กรรมการส่วนใหญ่อาจยังเห็นชอบให้คงดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อรอดูผลจากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงก่อนหน้า และเก็บกระสุนนโยบายการเงินไว้ใช้ในจังหวะเหมาะสม 

 

มองลดดอกเบี้ย กระทบค่าเงินบาทไม่มาก

 

นอกจากนี้ KResearch ยังประเมินว่า ธปท. อาจพิจารณาใช้มาตรการอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาท เนื่องจากประสิทธิผลของการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายต่อทิศทางค่าเงินบาทอาจมีไม่มากนัก 

 

โดยนับตั้งแต่ต้นปี ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจและการคลังของประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้เงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่เป็นหลัก 

 

จะเห็นได้ว่า แม้กนง. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา แต่ค่าเงินบาทก็ไม่ได้อ่อนค่าลงตาม ดังนั้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมจึงอาจไม่ส่งผลต่อค่าเงินบาทอย่างมีนัยสำคัญ 

 

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปี กนง. ได้ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายมาแล้ว 3 ครั้งรวม 0.75% 

 

มอง กนง. ลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคม

 

สำหรับแนวโน้มระยะถัดไป KResearch ประเมินว่า กนง. จะพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ในการประชุมเดือน ธ.ค. 68 เพื่อสอดประสานกับนโยบายทางการคลังในการประคองเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4/2568 

 

โดยคาดว่า เศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีจะได้รับแรงกดดันจากการส่งออกที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแรงลง และผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ การท่องเที่ยวที่คาดว่าจะอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ท่ามกลางแนวโน้มเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำใกล้ศูนย์ 

 

ขณะที่ เมื่อมองไปข้างหน้า KResearch คาดว่า กนง. อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมในช่วงครึ่งแรกของปี 2569 เพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินในระยะต่อไปมีทิศทางผ่อนคลายมากขึ้น 

 

โดยคณะกรรมการชุดใหม่มีแนวโน้มให้น้ำหนักกับความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมากขึ้น ควบคู่ไปกับการดูแลเสถียรภาพทางการเงิน ซึ่งต่างจากคณะกรรมการชุดก่อนที่มุ่งเน้นด้านเสถียรภาพทางการเงินเป็นหลัก

 

วิจัยกรุงศรี คาด กนง. หั่นดอกเบี้ย 0.25%

 

วิจัยกรุงศรี มองมาตรการทางการคลังและการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่ต่อเนื่อง อาจช่วยพยุงเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้าย หลังภาคส่งออกและอุปสงค์ในประเทศแผ่วลงในไตรมาส 3

 

โดยเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณอ่อนแอลงชัดเจนอาจหนุนให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดดอกเบี้ย ตามการรายงานของเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนสิงหาคม

 

สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 8 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นนัดแรกภายใต้การกำกับของผู้ว่าการ ธปท. ท่านใหม่ วิจัยกรุงศรีประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องจากปัจจุบันที่ 1.50% สู่ 1.25% 

 

SCB EIC มองดอกเบี้ยจะลดลงอีกเพียง 1 ครั้งปีนี้

 

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ประเมิน กนง. มีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง (ลงอีก 0.25%) ในปีนี้เหลือ 1.25% โดยให้น้ำหนักไปที่การประชุมเดือนตุลาคม มากกว่าเดือนธันวาคม และอีกครั้งในช่วงต้นปีหน้าเหลือ 1% เพื่อช่วยให้ภาวะการเงินผ่อนคลายมากขึ้น สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่จะเติบโตชะลอลงในปีหน้า อัตราเงินเฟ้อที่ยังต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายนโยบายการเงิน และคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงต่อเนื่อง 

 

ทั้งนี้ภาวะการเงินในช่วงที่ผ่านมายังตึงตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริงที่ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต สินเชื่อที่หดตัวต่อเนื่อง และดัชนีค่าเงินบาทแข็งค่านำ 

 

โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องจะมีส่วนช่วยประคองเศรษฐกิจ ลดภาระหนี้ และเอื้อต่อกระบวนการ Deleveraging ลดหนี้ของภาคธุรกิจและครัวเรือนได้ แต่อาจไม่ช่วยให้สินเชื่อใหม่ฟื้นตัวได้มากนัก จากความระมัดระวังของทั้งสถาบันการเงินและผู้กู้

 

สาเหตุที่ทำให้มีโอกาสน้อยลงที่จะเห็น กนง. ลดดอกเบี้ยต่อเนื่องอีก 2 ครั้งในปีนี้ เป็นเพราะการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ทำได้เร็ว ช่วยให้การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณมีความต่อเนื่อง และนโยบายการเงินยังรักษา Policy space ได้บ้าง

 

“เมื่อการเมืองไทยได้ข้อสรุปเร็ว และ พรบ. งบประมาณปี 2026 ผ่านวุฒิสภาได้ ตลาดมองว่าโอกาสที่ กนง. ต้องรีบลดดอกเบี้ยในเดือนตุลาคม มีน้อยลง เดิมมองโอกาส 90% ซึ่งปรับเหลือเป็น 70% และให้โอกาส 55% ดอกเบี้ยลดไปที่ 1% ณ สิ้นปี” SCB EIC ระบุ

 

สำหรับแนวโน้มถัดไป ตลาดมองว่า กนง. จะลดดอกเบี้ยไประดับ Terminal rate รอบนี้ที่ 1% ในเดือน มี.ค. 2026 และให้โอกาสเพียง 35% ที่ กนง. จะลดดอกเบี้ยไปที่ 0.75% ในปี 2026

 

โดยสาเหตุที่จะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับลดลงจนถึง 1% ในปี 2026 มาจากแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอลงและภาวะการเงินยังตึงตัว โดยเฉพาะเงินบาทแข็งค่าเร็ว อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า

 

ตลอดจนนโยบายการเงินที่ยังต้องผ่อนคลายต่อเนื่อง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริง (Real rate) ยังสูงกว่าในอดีต รวมถึงอัตราเงินเฟ้อไทยซึ่งจะต่ำต่อเนื่องนาน อาจทำให้ครัวเรือนเผชิญภาวะ ‘Debt Deflation’ นำไปสู่ความเสี่ยงภาวะเงินฝืด (Deflation) 

 

ส่อง กนง. นัดแรก ‘วิทัย’ ใครนั่งเป็นกรรมการบ้าง?

 

สำหรับการประชุมคณะ​กรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ครั้งที่ 5/2568 ที่จะถึงในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ ถือเป็นการประชุมนัดแรกภายใต้การนำของ ‘วิทัย รัตนากร’ ผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่ 

 

  1. วิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ประธานกรรมการ)
  2. ปิติ ดิษยทัต รองผู้ว่าการ ธปท. ด้านเสถียรภาพการเงิน (รองประธานกรรมการ)
  3. สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ รองผู้ว่าการ ธปท. ด้านบริหาร (กรรมการ)
  4. ไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน อดีตรองผู้ว่าการ ธปท. ด้านบริหาร (กรรมการ)
  5. รพี สุจริตกุล ประธานสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (กรรมการ) 
  6. สันติธาร เสถียรไทย ที่ปรึกษาด้าน Future Economy ของ TDRI (กรรมการ)
  7. เชาว์ เก่งชน อดีตประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด (กรรมการ)
  8. สักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. สายนโยบายการเงิน (เลขานุการ)

 

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ธปท. แต่งตั้งขึ้นภายใต้ พ.ร.บ. ธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2485 และได้รับการแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงของ ธปท. 3 คน และ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก 4 คน ดังนี้

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising