วันนี้ (5 ตุลาคม) สำนักนายกรัฐมนตรีเผยแพร่คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 311/2568 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ เพื่อให้การบริหารจัดการสถานการณ์ภัยพิบัติทั่วประเทศเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีเอกภาพ และเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ
คำสั่งดังกล่าวออกตามอำนาจมาตรา 11 (6) และ (9) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 เพื่อรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค และประชาชนในวงกว้าง
1. ตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (คอภ.) มี อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ และมีโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 1 และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 2
ส่วนคณะกรรมการประกอบด้วยรัฐมนตรี และผู้บริหารระดับสูงจากหลายหน่วยงาน เช่น ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, สำนักงบประมาณ, กรมชลประทาน, กรมอุตุนิยมวิทยา และอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทำหน้าที่เลขานุการด้วย
หน้าที่หลักของคณะกรรมการฯ คือ อำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมพร้อม ป้องกัน ช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู, สั่งการหน่วยงานของรัฐให้บูรณาการการทำงานร่วมกัน, ติดตามและประเมินผลการช่วยเหลือ เพื่อรายงานต่อคณะรัฐมนตรี และแต่งตั้งคณะทำงานหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านตามความจำเป็น
2. จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ (ศชภ.) มีโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์ มีพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นั่งรองประธานคนที่ 1 , พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั่งรองประธานคนที่ 2, ไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นั่งรองประธานคนที่ 3 ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นั่งรองประธานคนที่ 4 โดยมี สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นโฆษกศูนย์
ทั้งนี้ ศูนย์ดังกล่าวมีหน้าที่เป็นหน่วยบัญชาการกลางแบบเบ็ดเสร็จ (one stop service) เพื่อบูรณาการหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยมีภารกิจสำคัญ ได้แก่ บริหารและสั่งการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างรวดเร็ว, จัดหาอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค และที่พักพิงให้ผู้เดือดร้อนอย่างทั่วถึง, ประชาสัมพันธ์ข้อมูลและคำแนะนำให้ประชาชนรับรู้สถานการณ์ได้ทันเวลา และประสานการฟื้นฟูให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวมอบหมายให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานของ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ การจัดประชุม เบี้ยประชุมกรรมการ รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็น โดยให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบทางการเงินของทางราชการอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ กำหนดให้ คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (คอภ.) ใช้งบประมาณจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขณะที่ ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ (ศชภ.) ใช้งบประมาณจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การบริหารจัดการและประสานงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่องโดยลงนามโดย อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีผลตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2568
แฟ้มภาพ:
