×

สัดส่วนการใช้เงินสดในไทยจ่อลดเหลือ 10-20% ใน 3-5 ปีข้างหน้า แบงก์ชาติเปิดทิศทางยกระดับ Digital Payment รองรับบริบทที่เปลี่ยนไป

30.09.2025
  • LOADING...
Digital Payment

ธปท. เปิดตัว Payment Directional Paper ฉบับใหม่ ปี 2568 โดยเตรียม ยกระดับ Digital Payment มุ่งสู่ความสะดวก ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ประชาชน-ธุรกิจ หลังคาดว่า คาดว่า ในระยะ 3 ถึง 5 ปีข้างหน้า สัดส่วนการใช้เงินสดของไทยน่าจะลดลงเหลือประมาณ 10-20%  

 

วันนี้ (30 กันยายน) ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้เผยแพร่ ‘ทิศทางการพัฒนาระบบการชำระเงินภายใต้ภูมิทัศน์ใหม่ภาคการเงินไทยฉบับใหม่’ ปี 2568  เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า 

 

โดยมีเป้าหมายมุ่งเน้นการพัฒนาระบบการชำระเงินให้สอดคล้องกับพัฒนาการข้างต้นและบริบทไทยมากขึ้น โดยเฉพาะโจทย์และความท้าทายเชิงนโยบาย ได้แก่

  1. โครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่มีสัดส่วนของเศรษฐกิจนอกระบบสูง หลายกิจกรรมยังอาศัยเงินสดเป็นหลัก ทำให้ไม่ถูกบันทึกเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
  2. การปรับตัวกับเทคโนโลยีใหม่ อย่าง Distributed Ledger Technology (DLT) tokenization และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งอาจสร้างความเสี่ยงรูปแบบใหม่ขึ้นมา
  3. ภัยทุจริตและธุรกรรมผิดกฎหมาย จากการที่ระบบการชำระเงินอาจถูกใช้เป็นช่องทางในการกระทำความผิด รวมถึงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น 

 

 

เปิดสถานการณ์ Digital Payment ไทย

 

ดารณี ยังคาดว่า ในระยะ 3 ถึง 5 ปีข้างหน้า สัดส่วนการใช้เงินสดในไทยน่าจะลดลงเหลือประมาณ 10 ถึง 20%  หลังจาก ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา (ตั้งแต่ปี 2560-2567) การชำระเงินดิจิทัล (Digital Payment) ของประเทศไทยมีความก้าวหน้าและขยายตัวอย่างมากโดยตัวเลขการใช้ Digital Payment อยู่ที่ประมาณ 650 ครั้งต่อคนต่อปีในปี 2567 นอกจากนี้ ประเทศไทยมีสัดส่วนการใช้ Fast Payment หรือ PromptPay เป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับนานาชาติ

 

 

โดยปัจจุบัน ปริมาณการทำธุรกรรมผ่าน Mobile Banking เพิ่มขึ้นถึง 25 เท่า และ PromptPay มียอดทำธุรกรรมสูงสุดต่อวันประมาณ 95 ล้านรายการ (เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ประมาณ 70 ล้านรายการ) 

 

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ธปท. ได้ยกระดับมาตรฐาน Mobile Banking Security เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ส่งผลให้กรณี Unauthorized Payment Fraud (ที่ผู้ใช้ไม่ได้โอนเอง) เหลือศูนย์ 0 ตั้งแต่ต้นปีนี้ เป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้คนในการใช้ Digital Payment.

 

ท่ามกลางความก้าวหน้าของการชำระเงินดิจิทัล (Digital Payment) ซึ่งทำให้การใช้เงินสดในประเทศจะลดลงจริง โดยจากการสำรวจพบว่า คนไทยใช้เงินสดลดลงจากประมาณ 63% ในปี 2564 เหลือ 54% ในปี 2566 ตามข้อมูลจากธปท.

 

Screenshot

 

แต่สัดส่วนการใช้เงินสดของคนไทยในรายงาน The global payment report ของ Worldpay by FIS

ในปี 2567 ยังอยู่ที่  31% ซึ่งถือว่า ยังอยู่ในระดับที่สูง และใกล้เคียงกับประเทศญี่ปุ่น

 

ธปท. จึงตั้งเป้าให้ประชาชนใช้ Digital Payment เป็นทางเลือกหลักมากขึ้น ‘แบบมีคุณภาพ’ โดยเฉพาะ กลุ่มที่ได้รับประโยชน์ แต่ไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่ เช่น ธุรกิจ SME อย่างไรก็ตาม ธปท. ชี้ว่ามีบางกลุ่มที่ไม่ควรจะถูกกระตุ้นให้ใช้ Digital Payment เช่น กลุ่มผู้สูงวัยที่การใช้อาจมีความเสี่ยงมากกว่าประโยชน์

 

เปิด 3 กรอบทิศทางนโยบายหลัก

 

ดารณีระบุอีกว่า ภายใต้ทิศทางการพัฒนาระบบการชำระเงินไทย ฉบับใหม่นี้ มี กรอบการพัฒนาระบบการชำระเงิน 3 กรอบหลัก ดังนี้ 

 

  1. การต่อยอดจากระบบการชำระเงินปัจจุบัน โดยยกระดับระบบพร้อมเพย์ให้มีนวัตกรรมและบริการใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกกลุ่มมากขึ้น เช่น การพัฒนาบริการชำระเงินที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการซื้อสินค้าออนไลน์และบริการที่ทดแทนเช็ค การส่งเสริมการใช้ข้อมูลการชำระเงิน (digital footprint) เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงิน โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs การเพิ่มความยืดหยุ่นของหลักเกณฑ์การกำกับดูแลให้เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรม และการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินสดให้สอดรับกับบทบาทที่ลดลง
  2. การยกระดับระบบบาทเนต (BAHTNET) โดยวางรากฐานของระบบบาทเนตให้สามารถปรับตัว ยืดหยุ่น และเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความเสี่ยงในโลกอนาคต รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับนวัตกรรมด้านการชำระเงิน 
  3. การเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนวัตกรรมการชำระเงินในอนาคต ผ่านการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี DLT และ tokenization ควบคู่กับการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้ใช้งานและระบบการเงิน โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเป็นเอกภาพของเงิน การป้องกันการถูกใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงินหรือฉ้อโกง และการคุ้มครองผู้ใช้งาน โดยมีแนวทางกำกับดูแลเพื่อรองรับการพัฒนาบริการด้วย tokenized money ภายใต้กรอบการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรองรับการชำระเงินรูปแบบใหม่และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป 

 

Screenshot

 

ภาพ: Accogliente Design/Shutterstock

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising