สำนักข่าว BBC รายงานโดยอ้างอิงจากประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานที่เข้าไปช่วยเหลือในเหตุการณ์เขื่อนแตกที่ประเทศลาว โดยเชื่อว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจจะพุ่งสูงถึง 300 คน ต่างจากตัวเลขที่ทางการลาวประกาศตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่ามีผู้เสียชีวิต 27 คน ผู้สูญหาย 131 คน และมีประชาชนติดอยู่ตามบ้านเรือนในจุดที่น้ำท่วมสูงอีกประมาณ 3,000 คน
โดยน้ำจากเขื่อนได้ไหลทะลักเข้าท่วมอย่างน้อย 7 หมู่บ้าน โดยมี 2 หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งบริเวณนั้นมีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่ไม่น้อยกว่า 200 หลังคาเรือน แต่มีเพียง 10 หลังเท่านั้นที่ยังเหลือรอดอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ชาวลาวได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Reuters ว่าก่อนหน้านี้สามารถกู้ร่างได้ 1 ร่างจากบริเวณที่มีน้ำท่วมอยู่ และคิดว่าน่าจะมีมากกว่านี้หากน้ำเริ่มลดระดับลง และถนนสามารถสัญจรได้ตามปกติ
ด้านบริษัท โคเรีย เวสเทิร์น พาวเวอร์ จำกัด หนึ่งในบริษัทที่ร่วมทุนในการสร้างเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย รายงานต่อรัฐสภาเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมว่าคณะวิศวกรสังเกตเห็นการยุบตัวประมาณ 10 เซนติเมตรที่กลางเขื่อนช่วงหลายวันก่อนเกิดเขื่อนแตก จนเมื่อวันอาทิตย์ได้พบรอยแตก 10 รอยบริเวณด้านบนของเขื่อน จึงออกไปซ่อมแซม แต่ยังไม่ได้รับอุปกรณ์การซ่อมแซมที่จำเป็น ทำให้ซ่อมแซมไม่ได้ พร้อมย้ำว่าได้รายงานแก่ทางการลาวแล้วเมื่อพบความเสียหาย
จนวันจันทร์ที่ผ่านมา พบรอยยุบตัวที่เขื่อนลึกถึง 90 เซนติเมตร ทางบริษัทเซเปียน-เซน้ำน้อยจึงส่งประกาศเตือนไปยังทางการลาวว่าเขื่อนอยู่ในสภาพอันตรายอย่างยิ่ง ขอให้อพยพประชาชนในหมู่บ้านตามเส้นทางน้ำไปยังที่สูง จนเขื่อนเริ่มพังทลายตั้งแต่ช่วงบ่ายวันจันทร์เป็นต้นมา โดยบริษัทที่ร่วมทุนของเกาหลีใต้ระบุว่าสาเหตุของภัยพิบัติครั้งนี้เกิดจากฝนที่ตกหนัก
อ้างอิง: