×

ทรัมป์เปรย – ส.ว.รีพับลิกันขานรับ! เสนอนำรายได้จากภาษีนำเข้า จ่ายให้ประชาชนคนละ 600 ดอลลาร์

30.07.2025
  • LOADING...
us-tariff-rebate-check

 

แนวคิดการแจกเงินสดให้กับชาวอเมริกันกลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง เมื่อ จอช ฮอว์ลีย์ สมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน ได้เสนอร่างกฎหมายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (28 กรกฎาคม) เกี่ยวกับการจัดส่งเช็คเงินคืนจากภาษีนำเข้า (Tariff Rebate Checks) ให้กับครอบครัวชาวอเมริกัน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเช็คกระตุ้นเศรษฐกิจที่เคยใช้ในช่วงการระบาดของโควิด-19

 

สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ข้อเสนอดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ (25 กรกฎาคม) ว่ารัฐบาลกำลัง “คิดถึงเรื่องเงินคืนเล็กๆ น้อยๆ” ที่จะมอบให้ชาวอเมริกันจากรายได้ภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ได้ทำให้เกิดการถกเถียงในวงกว้าง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายและนักเศรษฐศาสตร์ต่างออกมาเตือนว่า อาจเป็นการซ้ำเติมปัญหาหนี้สาธารณะและกระตุ้นให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

 

รายละเอียดข้อเสนอ ‘American Worker Rebate Act of 2025’

 

ร่างกฎหมายของ ส.ว. ฮอว์ลีย์ ที่มีชื่อว่า ‘American Worker Rebate Act of 2025’ กำหนดให้มีการจ่ายเงินคืนแก่ประชาชนอย่างน้อย 600 ดอลลาร์ต่อผู้ใหญ่และบุตรหนึ่งคน หรือคิดเป็น 2,400 ดอลลาร์สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิก 4 คน โดยอาจมีการจ่ายเงินคืนในจำนวนที่สูงขึ้นได้หากรายได้จากภาษีนำเข้าสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

 

อย่างไรก็ตาม เงินช่วยเหลือนี้จะลดหลั่นลง 5% สำหรับผู้ที่ยื่นภาษีร่วมกันและมีรายได้รวมที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted Gross Income) เกิน 150,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือผู้ที่ยื่นภาษีคนเดียวและมีรายได้เกิน 75,000 ดอลลาร์ต่อปี

 

“เช่นเดียวกับที่ประธานาธิบดีทรัมป์เสนอ กฎหมายของผมจะช่วยให้ชาวอเมริกันที่ทำงานหนักได้รับประโยชน์จากความมั่งคั่งที่กำแพงภาษีของทรัมป์กำลังนำกลับคืนสู่ประเทศนี้” ฮอว์ลีย์กล่าว

 

แรงหนุนจากรายได้ภาษีที่ทำสถิติสูงสุด

 

ข้อเสนอนี้มีขึ้นหลังจากที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ รายงานตัวเลขงบประมาณเดือนมิถุนายนที่เกินดุลมากกว่าที่หลายฝ่ายประเมินไว้ โดยได้รับแรงหนุนสำคัญจากรายได้ภาษีนำเข้าที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ โดยในเดือนมิถุนายนเพียงเดือนเดียว รัฐบาลจัดเก็บอากรศุลกากรได้ถึงประมาณ 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม และเพิ่มขึ้นถึง 301% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2567

 

เสียงเตือนจากนักเศรษฐศาสตร์ เสี่ยงซ้ำเติมขาดดุล-กระตุ้นเงินเฟ้อ

 

แม้แนวคิดการคืนเงินให้ประชาชนจะดูน่าสนใจทางการเมือง แต่ก็เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลอย่างหนักเกี่ยวกับปัญหางบประมาณขาดดุลของรัฐบาลกลาง

 

อเล็กซ์ ดูรันเต นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Tax Foundation กล่าวกับ CNBC ว่า “ผมไม่คิดว่า (การให้เงินคืน) จะเป็นนโยบายที่ดีนัก ผมอยากให้รายได้ส่วนนี้ถูกนำไปใช้เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณมากกว่าที่จะนำมาแจกเป็นเช็คให้ผู้คน”

 

 ความกังวลนี้สอดคล้องกับรายงานล่าสุดของสำนักงานงบประมาณรัฐสภา (CBO) ที่ประเมินว่า มาตรการลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่าย One Big Beautiful ของทรัมป์ที่เพิ่งผ่านกฎหมายไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม อาจทำให้ยอดขาดดุลของประเทศเพิ่มขึ้นถึง 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2577

 

โจเซฟ โรเซนเบิร์ก นักวิชาการอาวุโสจาก Urban-Brookings Tax Policy Center ชี้ว่า แรงจูงใจในการแจกเงินครั้งนี้แตกต่างจากช่วงโควิด-19 ซึ่งในตอนนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อชดเชยรายได้ที่สูญเสียไป แต่ในปัจจุบัน รัฐบาลกำลังใช้มาตรการกำแพงภาษีซึ่งจะสร้างภาระค่าใช้จ่ายให้กับครัวเรือนสหรัฐฯ เอง ดังนั้น การให้เงินคืนจึงเป็นเหมือนการช่วยเหลือกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาลเอง

 

โรเซนเบิร์กเตือนว่า การให้เงินคืนในลักษณะนี้จะยิ่ง “ขยายผลกระทบด้านเงินเฟ้อ” ที่เกิดจากกำแพงภาษีอยู่แล้วให้รุนแรงขึ้นไปอีก “ผู้คนจะนำเงินส่วนหนึ่งออกไปใช้จ่าย ซึ่งจะยิ่งสร้างแรงกดดันต่อราคาสินค้าให้สูงขึ้น และน่าจะขยายผลกระทบด้านเงินเฟ้อให้มากขึ้น” โดยอ้างอิงงานวิจัยของธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาเซนต์หลุยส์ในปี 2566 ที่พบว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังในยุคโควิด-19 เป็นปัจจัยที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นประมาณ 2.6%

 

ภาพ: Andrew Harnik / Getty Images

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising