ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีของบราซิล ประณามการตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ประกาศยกเลิกวีซ่าเจ้าหน้าที่ตุลาการของบราซิลว่า “เป็นการกระทำโดยพลการและไร้หลักฐานรองรับ” พร้อมย้ำว่าการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมจากต่างประเทศ “เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้” และละเมิดหลักพื้นฐานของการเคารพอธิปไตยระหว่างประเทศ
คำแถลงดังกล่าวมีขึ้นในวันเสาร์ (19 กรกฎาคม) เพื่อตอบโต้กรณีรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศคว่ำบาตรวีซ่าแก่อเล็กซานเดร เดอ โมราอิส ผู้พิพากษาศาลสูงของบราซิล ครอบครัวของเขา และเจ้าหน้าที่ศาลคนอื่น ๆ ซึ่งมีบทบาทในคดีพิจารณาชาอีร์ โบลโซนาโร อดีตประธานาธิบดีที่ถูกกล่าวหาว่าวางแผนรัฐประหารล้มผลเลือกตั้งปี 2022
ลูลากล่าวว่า ตัวเขามั่นใจว่าไม่มีการข่มขู่หรือการคุกคามใด ๆ จากภายนอกจะสามารถสั่นคลอนพันธกิจสำคัญสูงสุดของสถาบันในบราซิลได้ นั่นคือการปกป้องระบอบประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมอย่างถาวร
ในขณะเดียวกัน ฮอร์เฮ เมสเซียส อัยการสูงสุดฝ่ายบริหารของลูลา ก็ออกแถลงผ่าน X ระบุว่า เปาโล โกเนต อัยการสูงสุดของประเทศ ก็ตกเป็นหนึ่งในเป้าหมายของคำสั่งเพิกถอนวีซ่าครั้งนี้ด้วย
เมสเซียสวิจารณ์ว่า การเพิกถอนวีซ่าของสหรัฐฯ เป็นการกระทำที่ “ไร้หลักการ” และ “ข่มขู่” ข้าราชการตุลาการที่ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ พร้อมย้ำว่า “ไม่มีการกระทำลับใด ๆ ที่สกปรก จะสามารถทำให้ตุลาการของบราซิลหวั่นไหวหรือหยุดยั้งไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอิสระได้”
เกลซี ฮอฟมันน์ รัฐมนตรีฝ่ายความสัมพันธ์กับรัฐสภาของรัฐบาลลูลา ระบุว่า ผู้พิพากษาศาลสูงอีก 7 ราย จากทั้งหมด 11 คน ก็ถูกสหรัฐฯ เพิกถอนวีซ่าด้วยเช่นกัน ได้แก่
- หลุยส์ โรแบร์โต บาร์โรโซ
- ดิอาส โตฟโฟลี
- คริสเตียโน ซานิน
- ฟลาวิโอ ดิโน
- คาร์เมน ลูเซีย
- เอดซอน ฟาคิน
- กิลมาร์ เมนเดส
ทั้งนี้ ศาลสูงและสำนักงานอัยการสูงสุดของบราซิลยังไม่ได้ออกความเห็นใด ๆ อย่างเป็นทางการต่อเหตุการณ์นี้
ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวถึงกระบวนการไต่สวนโบลโซนาโรว่าเป็น “การล่าแม่มด” ซึ่งเป็นคำที่เขาใช้บ่อยในการโจมตีฝ่ายตรงข้ามของตนเอง พร้อมเรียกร้องให้ยกเลิกข้อกล่าวหาต่อโบลโซนาโร
ทั้งนี้ ทรัมป์เพิ่งออกจดหมายเปิดผนึกเมื่อสัปดาห์ก่อน ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าบราซิล 50% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม พร้อมเปิดประเด็นด้วยการวิจารณ์กระบวนการไต่สวนโบลโซนาโรโดยตรง
อดีตผู้นำขวาจัดของบราซิลถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนล้มล้างผลเลือกตั้งและขัดขวางการขึ้นดำรงตำแหน่งของลูลาในเดือนมกราคม 2023 แม้เขาจะปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้นำการก่อรัฐประหาร แต่ก็ยอมรับว่าเคยเข้าร่วมการประชุมหลายครั้งที่มีเป้าหมายเพื่อกลับผลการเลือกตั้งดังกล่าว
ทั้งนี้ คำสั่งเพิกถอนวีซ่าของทรัมป์ จะส่งผลกระทบอะไรบ้าง?
- ทางการเมือง: ในมิติความสัมพันธ์ที่จะส่งผลกระทบระหว่างรัฐบาลลูลา และรัฐบาลทรัมป์ นอกจากนี้ยังสร้างแรงกดดันต่อฝ่ายตุลาการของราซิล โดยเฉพาะในคดีที่เชื่อมโยงกับการเมืองภายใน
- ทางระดับตุลาการ: เจ้าหน้าที่ศาลและอัยการที่ถูกเพิกถอนวีซ่า จะไม่สามารถเดินทางเข้าสหรัฐฯ ได้ หรืออาจถูกขึ้นบัญชีดำ (Blacklist) ซึ่งมีผลต่อภาพลักษณ์ระดับนานาชาติ และอาจเกิดการตั้งคำถามในประเทศว่า “สหรัฐฯ ละเมิดอธิปไตยบราซิลหรือไม่?”
ภาพ:
Nathan Howard / REUTERS
Adriano Machado / REUTERS
อ้างอิง: