หลังการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือบอร์ดสภาพัฒน์ นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณารายละเอียดโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร กรอบวงเงิน 1.79 แสนล้านบาท โดยเป็นการพิจารณาตามระเบียบที่กำหนดไว้ว่า โครงการการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ต้องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ สศช. ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี
ซึ่งจากการสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกประเด็นอย่างละเอียดแล้ว ทาง คณะกรรมการ สศช. ได้เห็นชอบโครงการ และหลังจากนี้จะสรุปผลการประชุมวันนี้นำเสนอไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีสัปดาห์หน้าและสัปดาห์ถัดไปจะเข้าสู่ที่ประชุม ครม. พิจารณาต่อไป
โดยก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันว่า โครงการดังกล่าวจะผ่านความเห็นชอบจากบอร์ดสภาพัฒน์หรือไม่ เนื่องจากผลการศึกษาในภาพรวมของโครงการไม่ได้มีผลตอบแทนทางด้านการเงิน หรือ FIRR เพราะประเมินไม่ได้ มีเพียงผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจหรือ EIRR อยู่ที่ 11.68% หากไม่รวมการพัฒนาเมืองและกระจายความเจริญด้านเศรษฐกิจอยู่ที่ 8% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์ของสภาพัฒน์ ที่โครงการขนาดใหญ่ทั่วไปต้องเกิน 12% ขึ้นไป
ด้านความคืบหน้าในการประชุมร่วมกันครั้งแรกระหว่างสภาวิศวกรและสถาปนิกไทย กับบริษัทจีน 2 ราย ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้แทนจีน ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค วันเดียวกันนี้ ที่ประชุมหารือกันเรื่องแผนการอบรมและทดสอบวิศวกรและสถาปนิกจากจีน ซึ่งมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 90% โดยวิศวกรจะต้องได้รับการอบรมรวม 18 ชั่วโมง หรือ 3 วัน ด้านสถาปนิกจะต้องได้รับการอบรมรวมประมาณ 10 ชั่วโมง หรือ 2 วัน
ส่วนการถ่ายโอนเทคโนโลยี สภาวิศวกรและสภาสถาปนิกเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการถ่ายโอนเทคโนโลยี และจัดทำรายงานขั้นตอนการถ่ายโอนเทคโนโลยี รวมถึงมีการกำหนดสัดส่วนวิศวกรหรือสถาปนิกไทยประกบในส่วนงานที่สำคัญ สุดท้ายยังมีการหารือเรื่องบทบาทความร่วมมือระหว่างสภาวิศวกรและสถาปนิกไทย-จีน และจัดทำ MOU เพื่อความร่วมมือด้านวิชาชีพในระยะยาว
โดยผู้แทนจีนได้เห็นชอบในหลักการทั้ง 3 ประเด็น และเชิญสภาวิศวกรและสภาสถาปนิกไทยไปร่วมประชุมครั้งต่อไป ระหว่างวันที่ 4-8 กรกฎาคมนี้ ที่กรุงปักกิ่ง เพื่อหารือในประเด็นสำคัญต่อไป
สำหรับโครงการดังกล่าวมีค่าดำเนินการเป็นเงินจำนวน 179,412 ล้านบาท แบ่งการดำเนินการเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา และช่วงนครราชสีมา-หนองคาย
โดยหลังจากนี้หาก ครม. อนุมัติให้ดำเนินโครงการ ขั้นตอนต่อจากนี้คือ การจ้างออกแบบรายละเอียด จ้างที่ปรึกษา เปิดประมูลก่อสร้าง ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการดำเนินการตามขั้นตอนวิธีพิเศษ เพื่อให้โครงการสามารถเริ่มสร้างได้ทันภายในปีนี้
อ้างอิง:
- สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.
- www.prachachat.net
- มติชนออนไลน์