วันนี้ (2 กรกฎาคม) ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์ในคดีดูหมิ่นสถาบันฯ หมายเลขดำ อ.1860/2567 ซึ่งพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 ที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน ซึ่งได้ดำเนินเป็นวันที่สอง
ทักษิณเดินทางมาถึงศาลอาญาในเวลาประมาณ 09.26 น. โดยเลือกเข้าประตูข้างอาคารศาลเพื่อหลบเลี่ยงสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวบริเวณด้านหน้าศาล และในเวลา 12.55 น. ทักษิณได้เดินทางออกจากศาลอาญา หลังจากเสร็จสิ้นการสืบพยานโจทก์ในช่วงเช้า
วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของทักษิณ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการสืบพยานโจทก์นัดที่สอง มีพยานทั้งหมด 4 ปาก โดยสืบไปแล้ว 1 ปากในช่วงเช้า และจะสืบต่ออีก 3 ปากในช่วงบ่าย ซึ่งศาลนัดหมายในเวลา 14.00 น.
ทนายวิญญัติระบุว่า หลังการสืบพยานวันแรก ได้พูดคุยกับทักษิณเพียงแค่เรื่องคดีความและประเมินการสืบพยานเท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้พูดคุยเรื่องการเมือง และ ทักษิณจะเดินทางมาฟังการสืบพยานจนกว่าจะจบสิ้นกระบวนการพิจารณาอย่างแน่นอน
ในการพิจารณาคดีวันนี้ พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาว ได้เดินทางมาร่วมรับฟังการพิจารณาคดีเป็นวันที่สอง เพื่อให้กำลังใจบิดา นอกจากนี้ ยังมี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และ เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย
ก่อนที่ ทักษิณจะขึ้นรถออกจากศาล พินทองทาได้สวมกอดทักษิณ เพื่อให้กำลังใจ ก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายกันขึ้นรถคนละคัน ระหว่างที่รถของทักษิณขับผ่านหน้าศาลอาญาบริเวณถนนรัชดาภิเษก กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง ได้โบกมือและชูป้ายให้กำลังใจทักษิณ
ด้าน สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ให้สัมภาษณ์สั้นๆ กับสื่อมวลชน โดยยืนยันว่าเมื่อวานนี้(1 กรกฎาคม)ทักษิณไม่มีความเครียดใดๆ กับคดีนี้ ส่วนกรณีที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สมชายมองว่า แพทองธารได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างเต็มที่แล้ว และตนมองว่าไม่มีอะไรที่เสียหาย แต่เมื่อศาลมีคำสั่งออกมาเช่นนี้ก็ต้องน้อมรับ
