วอลเลย์บอลหญิงไทยหนีตกชั้น ความจริงที่ต้องยอมรับและผ่านไปให้ได้
ทัพวอลเลย์บอลหญิงไทยกำลังเผชิญสถานการณ์ที่ไม่ง่ายนัก ในศึก Volleyball Nations League 2025 (VNL 2025) หลังผ่านการแข่งขันไป 2 สนาม รวม 8 นัด ทีมชาติไทยเก็บชัยชนะได้เพียงแมตช์เดียว และรั้งอันดับ 16 จาก 18 ทีม
เท่ากับว่าเวลานี้ ทีมไทยต้องต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อ ‘หนีตกชั้น’ และรักษาสถานะในเวทีระดับโลกเอาไว้ให้ได้
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับผลงานทีมไทยใน 2 สนามแรก?
สนามแรกที่ปักกิ่ง และสนามที่สองที่ฮ่องกง ทีมไทยชนะเพียงนัดเดียว (ชนะฝรั่งเศส 3-1 เซ็ต) แพ้ถึง 7 นัดให้กับทีมอย่างโปแลนด์, เบลเยียม, ตุรกี, ญี่ปุ่น, อิตาลี, สาธารณรัฐเช็ก และบัลแกเรีย
โดยปัญหาหลักๆ ที่เกิดกับทีมไทยและเห็นได้ชัดในเวลานี้มี 2 จุดหลักๆ คือ
- ผู้เล่นตัวหลักไม่ฟิตสมบูรณ์ เช่น หัตถยา บำรุงสุข และ ชัชชุอร โมกศรี ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวน ขณะที่ผู้เล่นหลายคนอยู่ในภาวะขาดความมั่นใจ และไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งได้ตามความหวัง
- จุดอ่อนทางเทคนิค โดยเฉพาะเกมรับ ทั้งการรับเสิร์ฟและบอลแรกยังไม่เสถียร ส่งผลให้การเซ็ตเกมบุกติดขัด การสื่อสารในทีมยังไม่ลื่นไหล บ่อยครั้งที่นักกีฬาปล่อยบอลตกแบบง่ายๆ ยังอ่านเกมไม่ขาด การบล็อกลูกตบคู่แข่งก็ยังไม่เฉียบคม
ผลลัพธ์จากสิ่งนี้ทำให้ทีมไทยเก็บได้เพียง 5 คะแนนจากการลงเล่น 8 นัด เสียไปถึง 22 เซ็ตจาก 30 เซ็ตที่ลงสนาม การปิดเกมในช่วงกลางถึงท้ายเกม ยังคงเป็นจุดที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะหลายเซ็ตที่ผ่านมาทีมไทยมักเสียแต้มรวดจนพ่ายในช่วงเวลาสำคัญ
จากสถานการณ์นี้ มีความจริงที่เราต้องยอมรับคือ ทีมไทยกำลังอยู่ในสถานการณ์ ‘หนีตกชั้น’ เต็มตัว
ภายหลัง VNL ปีนี้มีการปรับรูปแบบใหม่โดยเพิ่มจำนวนทีมเป็น 18 ทีม และยกเลิกสถานะทีมหลัก (Core Team) ซึ่งหมายความว่า ทุกทีมมีโอกาสตกชั้น ทีมอันดับสุดท้าย (อันดับ 18) จะหล่นไปเล่นในรายการ Volleyball Challenger Cup ปีหน้า และตอนนี้ไทยอยู่ในอันดับ 16 มีเพียง 5 คะแนน นำหน้าเกาหลีใต้เพียง 1 คะแนน และมีเซอร์เบียไล่จี้อยู่ในโซนล่างด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สนามที่ 3 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองอาร์ลิงตัน สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 10-14 กรกฎาคม ถือเป็นโอกาสสุดท้ายที่ทีมไทยจะต้องเก็บคะแนนเพิ่มเพื่อหนีตกชั้น แต่คู่แข่งที่ต้องเผชิญล้วนแข็งแกร่งกันทุกทีม
📌 10 กรกฎาคม พบ สหรัฐอเมริกา (อันดับ 7 ของโลก)
📌 11 กรกฎาคม พบ เยอรมนี (อันดับ 12 ของโลก)
📌 12 กรกฎาคม พบ สาธารณรัฐโดมินิกัน (อันดับ 9 ของโลก)
📌 14 กรกฎาคม พบ แคนาดา (อันดับ 10 ของโลก)
ทั้ง 4 ทีมนี้มีอันดับโลกสูงกว่าทีมไทยทั้งหมด และอยู่ในฟอร์มที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะสหรัฐฯ และเยอรมนี ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องระบบการเล่นที่แม่นยำและร่างกายที่แข็งแกร่ง ทีมไทยจำเป็นต้องคว้าชัยชนะอย่างน้อย 1-2 เกม หรือหากแพ้ก็ต้องแพ้ให้ได้ 2-3 เซ็ต เพื่อเก็บแต้มบ้างในแต่ละนัด เพราะทุกแต้มอาจเป็นตัวตัดสินชะตาการอยู่รอด
หากทีมไทยแพ้รวด และคู่แข่งโดยตรงอย่างเกาหลีใต้หรือเซอร์เบียเก็บคะแนนเพิ่มได้ ไทยอาจจบอันดับสุดท้ายและตกชั้นไปในที่สุด
สถานการณ์ที่ทีมไทยเผชิญอยู่ต้องยอมรับว่า ‘ไม่ง่าย’ แต่ความกดดันจากเป้าหมายที่บีบให้ทีมไทยต้องสู้เต็มที่เพื่อไม่ตกชั้น นับเป็นความท้าทายที่อาจส่งผลต่อฟอร์มการเล่นในทางที่ดีขึ้น…
หากทีมสามารถคว้า 3-6 คะแนนจากสนามสุดท้ายได้สำเร็จ โอกาสรอดตกชั้นก็ยังคงเปิดกว้าง
นี่คือภารกิจสำคัญของวอลเลย์บอลหญิงไทย ที่จะต้องรวมพลัง ฝ่าฟัน และพิสูจน์ให้เห็นว่า ทีมชุดนี้ยังสู้ได้อย่างยอดเยี่ยม และยังคู่ควรที่จะยืนอยู่บนเวที VNL ต่อไปในปีหน้า ✌️
