สหรัฐอเมริกาได้อนุมัติยาฉีด ‘ป้องกัน HIV’ ชนิดแรกของโลกที่ใช้เพียงปีละสองครั้ง ซึ่งนับเป็น ‘นวัตกรรม’ ครั้งสำคัญในวงการแพทย์ โดย FDA อนุมัติยา lenacapavir ที่จะจำหน่ายในชื่อ Yeztugo สำหรับการป้องกัน เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน
ขณะที่ยาตัวเดียวกันนี้เคยได้รับอนุมัติในชื่อ Sunlenca สำหรับรักษาผู้ติดเชื้อ HIV ที่ดื้อยา Gilead Sciences ผู้ผลิตยา คาดการณ์ว่าจะมีการเปิดตัวทั่วโลก ซึ่งอาจช่วยปกป้องผู้คนนับล้านได้ แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าจะมีผู้คนจำนวนเท่าใดในสหรัฐฯ และต่างประเทศที่จะเข้าถึงทางเลือกใหม่ที่ทรงพลังนี้ได้
แม้ว่าวัคซีนป้องกัน HIV ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่ายาฉีดชนิดนี้ ซึ่งมีชื่อว่า lenacapvir อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดรองลงมา ยาตัวนี้แทบจะ ‘กำจัด’ การติดเชื้อใหม่ทั้งหมดในการศึกษาบุกเบิกสองฉบับในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และมีประสิทธิภาพดีกว่ายา PrEP ชนิดเม็ดรายวันที่ผู้ใช้อาจลืมรับประทาน
“สิ่งนี้มีความเป็นไปได้ที่จะยุติการแพร่เชื้อ HIV ได้อย่างแท้จริง” เกร็ก มิลเล็ต ผู้อำนวยการนโยบายสาธารณะของ amfAR, The Foundation for AIDS Research กล่าว
PrEP หรือยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อ ซึ่งรวมถึงยาเม็ดรายวัน หรือยาฉีดที่ให้ทุกสองเดือน มีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในการช่วยป้องกันการติดเชื้อ HIV (นอกเหนือจากการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี)
โดย lenacapvir ถือเป็นยาชนิดออกฤทธิ์ยาวนานที่สุดถึงหกเดือน ซึ่งอาจเป็นทางเลือกที่ดึงดูดผู้ที่ไม่ต้องการไปพบแพทย์บ่อยๆ หรือกังวลเรื่องการตีตราจากการรับประทานยาเม็ดทุกวัน อย่างไรก็ตาม ยานี้ป้องกันได้เฉพาะการติดเชื้อ HIV เท่านั้น ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ได้
Gilead ยังไม่ได้ประกาศราคาของ Yeztugo อย่างเป็นทางการ แต่โฆษกบริษัทระบุว่าน่าจะอยู่ ‘ในระดับเดียวกับยา PrEP แบรนด์อื่นๆ ที่มีอยู่’ ซึ่งอาจหมายถึงราคาที่ค่อนข้างสูงและอาจเข้าไม่ถึงสำหรับผู้คนในประเทศที่มีรายได้น้อย
อย่างไรก็ดี Gilead ได้ทำข้อตกลงอนุญาตให้ผู้ผลิตยาสามัญ 6 ราย ผลิต lenacapavir เพื่อใช้ในการป้องกัน HIV โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ สำหรับจำหน่ายใน 120 ประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลาง
ในการศึกษาที่เข้มงวดในแอฟริกาใต้และยูกันดา ซึ่งเปรียบเทียบผู้หญิงและวัยรุ่นหญิงที่มีเพศสัมพันธ์กว่า 5,300 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับ lenacapavir ปีละสองครั้ง กับกลุ่มที่ได้รับยา PrEP ชนิดเม็ดรายวัน พบว่าไม่มีการติดเชื้อ HIV ในกลุ่มที่ได้รับยาฉีดเลย (ประสิทธิภาพ 100%) ขณะที่ประมาณ 2% ในกลุ่มที่ใช้ยาเม็ดรายวันติดเชื้อ HIV จากคู่นอนที่ติดเชื้อ
การศึกษาอีกชิ้นหนึ่งพบว่ายาฉีดปีละสองครั้งมีประสิทธิภาพ 96% ในกลุ่มชายรักชายและผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศในสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก HIV เอียน แฮดด็อก ผู้เข้าร่วมการศึกษา กล่าวว่า “ตอนนี้ผมลืมไปเลยว่ากำลังใช้ PrEP เพราะผมไม่ต้องพกขวดยา” และเสริมว่า “มันขยายโอกาสในการป้องกันสำหรับชายหญิง เกย์ หรือคนทั่วไป”
ปัจจุบันมีคนอเมริกันเพียง 400,000 คนที่ใช้ PrEP ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นเพียงเศษเสี้ยวของจำนวนที่ควรได้รับประโยชน์ การศึกษาล่าสุดพบว่ารัฐที่มีการใช้ PrEP สูงมีการติดเชื้อ HIV ใหม่ลดลง 38% ระหว่างปี 2012-2022 ขณะที่รัฐที่เข้าถึง PrEP ได้น้อยกลับมีอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้น 27% ในช่วงเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม อนาคตของ lenacapvir ยังคงเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ เช่น การปรับโครงสร้างระบบการดูแลสุขภาพในสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการลดงบประมาณหน่วยงานสาธารณสุข และโครงการ Medicaid รวมถึงการลดความช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐฯ เพื่อต่อสู้กับ HIV
เกร็ก มิลเล็ต กล่าวว่า ช่องโหว่ขนาดใหญ่ในระบบทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก “จะทำให้เราลำบากในการทำให้แน่ใจว่าเราไม่เพียงแต่จะสามารถนำ lenacapvir เข้าสู่ร่างกายผู้คนได้ แต่ยังต้องมั่นใจว่าพวกเขาจะกลับมา (รับยา) แม้เพียงปีละสองครั้ง”
ฮุย หยาง หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการด้านอุปทานของ Global Fund to Fight HIV, TB, and Malaria กล่าวว่าการมียาออกฤทธิ์ยาวนานอย่าง lenacapavir เป็นทิศทางใหม่ที่อาจช่วยแก้ปัญหาการรับประทานยาไม่ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในโครงการป้องกัน HIV มาหลายทศวรรษ Global Fund ตั้งเป้าให้มีคนเข้าโครงการป้องกันเพิ่มอีก 2 ล้านคนใน 3 ปีข้างหน้า และ lenacapavir อาจช่วยเร่งให้ถึงเป้าหมายนี้ได้เร็วขึ้น
นายแพทย์เดวิด โฮ ศาสตราจารย์ที่ Columbia University ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการใช้ยาต้าน HIV แบบผสมผสาน มองว่า lenacapavir เป็น ‘ความก้าวหน้าครั้งใหญ่’ แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาวัคซีน HIV ในอนาคต เนื่องจากการมียาป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงขนาดนี้ อาจทำให้การทดลองวัคซีนทำได้ยากขึ้นจากประเด็นจริยธรรมในการใช้ยาหลอกกับผู้เข้าร่วมการทดลอง “เราอาจเสียแรงผลักดันในการวิจัยวัคซีนไปบ้าง เพราะมีสิ่งที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ HIV ขนาดนี้แล้ว” เขากล่าว
ภาพ: StanislavSukhin / Shutterstock
อ้างอิง: