วานนี้ (11 มิถุนายน) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สรุปผลการเก็บตัวอย่างและวิเคราะห์ตะกอนดินในแม่น้ำกก ลำน้ำสาขา และแม่น้ำโขง ครั้งที่ 3 หลังเกิดความขุ่นผิดปกติในแม่น้ำกกอย่างต่อเนื่อง
โดยผลการตรวจพบว่าสารหนูยังคงเกินมาตรฐานในหลายจุด และบางพื้นที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนหากบริโภคปลาในปริมาณมาก
สถานการณ์ในแม่น้ำกก
ผลการตรวจวัดตะกอนดินในแม่น้ำกก พบสารหนูเกินมาตรฐานคุณภาพตะกอนดินในแหล่งน้ำผิวดินทุกจุดตรวจวัด โดย 13 จุดเกินระดับมาตรฐานที่ส่งผลกระทบต่อสัตว์หน้าดิน แต่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์
อย่างไรก็ตาม พบสารหนูเกินระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสัตว์หน้าดิน และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของมนุษย์หากบริโภคปลาเป็นจำนวนมากและสม่ำเสมอใน 2 จุด ได้แก่ บริเวณสะพานสองดินแดนบ้านแม่สลัก (KK03) และสะพานเฉลิมพระเกียรติ 1 อำเภอเมืองเชียงราย (KK09)
นอกจากนี้ ยังตรวจพบตะกั่วเกินระดับมาตรฐานเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดิน แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์ ในจุดเดียวกับที่พบสารหนูเกินมาตรฐาน เช่น สะพานสองดินแดนแม่สลัก ตำบลท่าตอน (KK03) อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และบ้านจะเด้อ ตำบลดอยฮาง (KK04) รวมถึงสะพานเฉลิมพระเกียรติ 1 อำเภอเมืองเชียงราย (KK09)
สำหรับโลหะหนักอื่นๆ เช่น นิกเกิล ทองแดง โครเมียม และแคดเมียม ก็พบค่าเกินระดับมาตรฐานเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดินในบางจุด แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์
สถานการณ์ในลำน้ำสาขา
จากการตรวจวัดทั้ง 3 ครั้ง พบการปนเปื้อนโลหะหนักเกินระดับมาตรฐานเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดินในหลายลำน้ำสาขา แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์ ดังนี้:
- แม่น้ำฝาง (FA01): พบนิกเกิล สารหนู และโครเมียมเกินมาตรฐาน
- แม่น้ำกรณ์ (KO01): พบนิกเกิล ทองแดง สารหนู และโครเมียมเกินมาตรฐาน
- แม่น้ำลาว (LA01): พบนิกเกิล สารหนู และโครเมียมเกินมาตรฐาน
- แม่น้ำสรวย (SU01): พบนิกเกิล และโครเมียมเกินมาตรฐาน
สถานการณ์ในแม่น้ำสาย
แม่น้ำสาย ซึ่งเริ่มเก็บตัวอย่างในการตรวจวัดครั้งที่ 3 (พฤษภาคม 2568) พบค่าสารหนูเกินระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสัตว์หน้าดินทั้ง 3 จุดตรวจวัด และมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนหากมีการบริโภคปลาเป็นจำนวนมากและเป็นประจำ
สถานการณ์ในแม่น้ำโขง
ผลการตรวจวัดในแม่น้ำโขงบริเวณบ้านสบกก ตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน (94 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) ในครั้งที่ 3 (พฤษภาคม 2568) พบสารหนูเกินระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสัตว์หน้าดินอย่างมีนัยสำคัญ และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนหากบริโภคปลาในปริมาณมากและสม่ำเสมอ ซึ่งผลการตรวจครั้งที่ 2 (เมษายน 2568) พบเพียงเกินระดับมาตรฐานเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดินเท่านั้น นอกจากนี้ ยังพบตะกั่ว นิกเกิล ทองแดง และโครเมียม เกินระดับมาตรฐานเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดินในจุดเดียวกัน
ข้อสังเกตและแนวทางแก้ไข
จากการวิเคราะห์ คพ. พบว่า ในช่วงฤดูน้ำหลาก กระแสน้ำที่ไหลเร็วขึ้นได้ชะล้างตะกอนจากต้นน้ำลงสู่ลำน้ำมากขึ้น ทำให้สารหนูและโลหะหนักสะสมในระดับตื้นกระจายทั่วบริเวณชั้นบนของพื้นท้องน้ำ และถูกพัดพาไปตลอดเส้นลำน้ำ ซึ่งแตกต่างจากผลการตรวจวัดครั้งที่ 2 ที่พบว่าหลังจากน้ำไหลผ่านฝายเชียงราย สารหนูมีค่าลดลงอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ คพ. อยู่ระหว่างการตรวจสอบผลการตรวจวัดตะกอนดินในแม่น้ำโขงหลังจุดบรรจบกับแม่น้ำกกอีกครั้ง เพื่อยืนยันผลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจากการตรวจวัดครั้งก่อนหน้า และยังอยู่ระหว่างทดสอบการตกตะกอนของสารแขวนลอย เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาโลหะหนักในน้ำเกินค่ามาตรฐาน โดยจะรายงานผลการดำเนินงานและติดตามสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมเป็นระยะต่อไป
คพ. ชี้ว่าแนวโน้มของการปนเปื้อนโลหะหนักในแม่น้ำกก ลำน้ำสาขา แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง คาดว่าปะปนมากับสารแขวนลอยในน้ำ ดังนั้นการพักน้ำหรือทำให้สารแขวนลอยตกตะกอนอาจเป็นแนวทางหนึ่งในการลดค่าโลหะหนักในน้ำได้