วันนี้ (3 มิถุนายน) เมื่อเวลา 12.00 น. กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ พร้อมใจกันยิงสลุตหลวง 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน
- กองทัพบกทำพิธียิงสลุต ณ บริเวณท้องสนามหลวง โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์
- กองทัพเรือยิงสลุต ณ ป้อมวิไชยประสิทธิ์ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยกองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
- กองทัพอากาศยิงสลุตหลวง ณ อุทยานการบิน กองทัพอากาศ (ดอนเมือง) โดยกรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน
การยิงสลุตถือเป็นธรรมเนียมที่ทั่วโลกยึดถือสืบทอดกันมาแต่ครั้งโบราณ เพื่อแสดงความเคารพแก่ชาติ ธง หรือบุคคล โดยเป็นการยิงปืนใหญ่ด้วยดินดำหรือดินไม่มีควัน มีจำนวนนัดเป็นเกณฑ์ตามควรแก่เกียรติ หรือสิ่งที่ควรรับความเคารพ คำว่า ‘สลุต’ มีรากศัพท์มาจากคำว่า ‘Salutio’ ในภาษาละติน
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการตราพระราชกำหนดการยิงสลุตขึ้นใหม่ คือ การยิงสลุต ร.ศ. 131 (พ.ศ. 2455) ซึ่งกำหนดให้มีจำนวนปืนไม่ต่ำกว่า 4 กระบอก และแบ่งประเภทการยิงสลุตออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ สลุตหลวง (แบ่งเป็นสลุตหลวงธรรมดา 21 นัด และสลุตหลวงพิเศษ 101 นัด), สลุตข้าราชการ และสลุตนานาชาติ
พระราชกำหนดยิงสลุต ร.ศ. 131 ถูกยกเลิกไปเมื่อ พ.ศ. 2483 จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางราชการจึงได้รื้อฟื้นประเพณียิงสลุตขึ้นมาใหม่เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2491 เนื่องในพระราชพิธีวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร