ในคราบน้ำตาที่ไหลรินของนักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษและแฟนบอลทรีไลออนส์ก็ยังมีเรื่องดีๆ ให้น่าชื่นชม เพราะอย่างน้อยที่สุด แม้ฝันการเข้าชิงและพาถ้วยฟุตบอลกลับบ้านเป็นครั้งแรกในรอบ 52 ปีจะดับสลายไปในชั่วพริบตา แต่กำลังใจของพวกเขาและแรงสนับสนุนจากแฟนบอลยังคงเหนียวแน่นไม่เสื่อมคลาย
โดยเฉพาะแกเร็ธ เซาท์เกต เฮดโค้ชทีมชาติวัย 44 ปี ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขาภูมิใจในลูกทีมและสตาฟฟ์โค้ชทุกคน และเชื่อว่าประสบการณ์และรอยแผลในวันนี้จะช่วยให้ทั้ง 23 คนเติบโตขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลที่แข็งแกร่งในภายภาคหน้า
“ผมรู้ดีว่าเราเพิ่งจะแพ้ครั้งใหญ่ พ่ายแพ้ครั้งใหญ่จริงๆ ในช่วงเวลานี้พวกเราได้รับความเจ็บปวดจากความพ่ายแพ้เหมือนกันทั้งหมด เราคิดว่าตัวเองคู่ควรกับตำแหน่งในตอนนี้ไหมนะเหรอ มองจากความเป็นจริง ผมคิดว่าไม่มีใครคิดเช่นนั้นนะ ย้อนกลับไปเมื่อ 18 เดือนที่แล้วแทบจะไม่มีใครคาดหวังว่าพวกเราจะเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้ด้วยซ้ำ
“แต่เมื่อมาอยู่ที่นี่แล้ว พวกเราคิดว่าเราควรจะชนะเกมนี้ได้จริงๆ พวกเรามีโอกาสทำสิ่งที่ทีมชาติชุดรุ่นพี่ของพวกเราเคยทำไว้ได้สำเร็จและผ่านเข้าสู่รอบชิง ถึงอย่างนั้นเราก็ยังเป็น 1 ใน 3 ทีมชุดที่เคยผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในประวัติศาสตร์ทีมชาติฟุตบอลอังกฤษได้ นี่คือส่ิงที่นักฟุตบอลและทีมสตาฟฟ์ควรจะภาคภูมิใจ
“ผมภาคภูมิใจในตัวผู้เล่นทุกคนที่มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ภูมิใจในวิธีที่พวกเขาได้ลงเล่นรับใช้ชาติของตัวเองและน่าเอาเยี่ยงอย่าง พวกเขาต้องผ่านการสะสมประสบการณ์ในเกมใหญ่ๆ เพื่อจะก้าวขึ้นมาเป็นทีมที่สามารถเอาชนะทีมอื่นๆ ได้ พวกเขาต้องนำประสบการณ์ที่ได้รับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ใช่แค่ประสบการณ์ในค่ำคืนนี้เท่านั้น แต่ผมหมายถึงจากหลายๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเป็นทีมที่เข้มแข็งขึ้น”
แม้ความล้มเหลวในครั้งนี้ยังทำให้ทีมชาติอังกฤษวิ่งห่างจากความสำเร็จในนามทีมชาติไปอย่างน้อยอีก 54 ปี (ได้ลุ้นกันอีกทีในฟุตบอลยูโร 2020) แต่แฟนบอลผู้ดีทุกคนยังคงสนับสนุนทีมอย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะแฟนบอลในสนามที่ร่วมกันร้องเพลง Don’t look back in anger เป็นนัยว่าพวกเขาจะอยู่หนุนหลังขุนพลทรีไลออนส์ต่อไป
ในประเด็นนี้เซาท์เกตบอกว่า “ปฏิกิริยาของแฟนบอลหลังจบเกมเมื่อเทียบกับ 2 ปีที่แล้ว (ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอลยูโร 2016) คือการบอกกับผู้เล่นว่าประสบการณ์ของพวกเขาในทีมชาติจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีได้ และยังบอกกับพวกเขาว่าประเทศนี้ภูมิใจกับสิ่งที่เขาทำและวิธีที่เล่นในสนามมากเพียงใด”
เกมการแข่งขันนัดถัดไป ทีมชาติอังกฤษจะลงแข่งกับทีมชาติเบลเยียม วันเสาร์ที่ 14 ก.ค. นี้ เวลา 21.00 น. เพื่อลุ้นแย่งเป็นทีมอันดับที่ 3 กัน โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองทีมได้พบกันในรอบแบ่งกลุ่มไปแล้ว และเป็นปีศาจแดงจากยุโรปที่เก็บชัยไปได้ 1-0 จากประตูโทนของอัดนัน ยานูไซ
Photo: Reuters
อ้างอิง: