วันนี้ (2 มีนาคม) จิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีนิด้าโพลรายงานผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง ‘6 เดือน รัฐบาลนายกฯ อุ๊งอิ๊ง’ ที่มีการชี้นำผลสรุปว่า “ประชาชนไม่พอใจผลงานรัฐบาล” ซึ่งพบข้อบ่งชี้ว่า โพลนี้อาจมีคำถามปลายเปิดแบบอคติหรือไม่
จิรายุระบุว่า เนื่องจากรัฐบาลก็มีการสำรวจความคิดเห็นเป็นประจำทุกเดือน ซึ่งส่วนใหญ่เห็นว่า รัฐบาลเดินมาถูกทางแล้ว ทั้งในด้านการแก้ไขปัญหาสังคม และเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ที่เห็นได้อย่างชัดเจนเป็นตัวเลขที่มีรูปธรรม เติบโตถึง 3.2% ในไตรมาสที่ผ่านมา และคาดว่าในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ จะมีการเติบโตมากยิ่งขึ้น จากนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล
จิรายุมองว่า เกือบ 6 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ทำผลงานเด่นเป็นรูปธรรมไว้มากมาย พร้อมยกตัวอย่าง 5 เรื่องที่อยู่ในใจประชาชน อาทิ
- การปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งใช้กลไกความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ในการระเบิดสะพานโจร ซีลชายแดนทุกด้าน ตัดเส้นทางข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย ตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ตัดน้ำมัน ระงับบัญชีม้ากว่าล้านบัญชี ออกกฎหมายจัดการคอลเซ็นเตอร์ และ อาชญากรรมทางไซเบอร์ เจ้าของแอปพลิเคชัน ธนาคาร เครือข่ายมือถือ ร่วมรับผิดชอบความเสียหายต่อประชาชน
- โครงการเงินหมื่น ที่ช่วยฟื้นเศรษฐกิจกระจายตัวลงไปในทุกพื้นที่ สู่กลุ่มเปราะบางในจังหวัดที่มีความยากจนสูง มีเงินหมุนเวียนเข้าสู่ร้านค้าขนาดเล็ก และชุมชน ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และภาคธุรกิจปรับตัวสูงขึ้น เป็นการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภา
- โครงการบ้านเพื่อคนไทย ซึ่งเป็นรูปธรรม เป็นคำสัญญาจากรัฐบาล ว่าจะทำให้คนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี โดยใช้พื้นที่ของรัฐที่มีศักยภาพพัฒนาให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ทำให้คนไทยเข้าถึงที่อยู่อาศัย ไม่ต้องมีเงินดาวน์ ผ่อนรายเดือนไม่สูง ได้บ้านคุณภาพดี
- การดูแลสุขภาพของประชาชน ในรูปแบบ 30 บาท รักษาทุกที่ บริการประชาชนให้มีสุขภาพดี ลดการเดินทาง และสร้างให้คนไทยมีอายุยืนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นนโยบายที่เห็นเป็นรูปธรรม
- นายกรัฐมนตรีเป็นตัวแทนของประเทศไทย ในการเชิญชวนนักลงทุนระดับโลกเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก ที่มีมูลค่าหลายล้านล้านบาท ในช่วงเวลาเพียง 5 เดือน ทั้ง บริษัท Google, TikTok, NVIDIA และหลากหลายบริษัททั่วโลก ทำให้เห็นถึงอนาคตของประเทศไทย ในด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เดินมาถูกทางแล้ว
รวมถึงการทำให้ GDP ปี 67 เติบโตขึ้นทุกไตรมาส ดึงการลงทุนเข้าประเทศสูงสุดในรอบ 10 ปี มีมูลค่าหลายล้านล้านบาท ทุบสถิติการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ถึง 10.5 ล้านล้านบาท และทุบสถิติส่งออกสินค้าประมงทำรายได้ 2.4 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้เกิดการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น นำไปสู่การปรับตัวสูงขึ้นของค่าแรงในภาพรวม เพราะเมื่อบริษัทต่างชาตินำเงินมาลงทุนในประเทศ จะสร้างประโยชน์ให้กับระบบเศรษฐกิจโดยรวม
จิรายุย้ำว่า การทำงานของรัฐบาลในช่วงเกือบ 6 เดือนที่ผ่านมา สิ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมจะเริ่มทยอยออกดอกออกผล สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ให้กับประเทศและประชาชน ได้ในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ยังมีนโยบายที่เป็นผลสำเร็จอย่างมีรูปธรรมไปแล้ว เช่น การปราบปรามยาเสพติด บุหรี่ไฟฟ้า การเจรจาค้าขายระหว่างประเทศ การลดขั้นตอนให้กับนักลงทุนในทางเศรษฐกิจต่างๆ ทำให้นักลงทุนมาลงทุนได้ง่ายมากขึ้น
