มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำจุดยืนไทยเดินหน้าปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์และการหลอกลวงทางออนไลน์อย่างจริงจัง ยืนยันหากไม่จบ จะไม่เลิก ตามนโยบายของแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
หลังหารือร่วมกับ หลิวจงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน และ อ่อง จ่อ จ่อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเมียนมา มีการเห็นชอบแนวทางขยายผลปราบปรามและดูแลเหยื่อที่ได้รับผลกระทบ โดยแบ่งเป็นสองประเด็นหลัก คือ การดำเนินมาตรการปราบปรามและการส่งตัวเหยื่อกลับประเทศ
ไทยจะยังคงใช้มาตรการตัดไฟฟ้า น้ำมัน และอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาต่อไป พร้อมยกระดับความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสามประเทศ โดยใช้กลไกการประสานงานระหว่างสถานทูตจีน สถานทูตเมียนมา และหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทย ทั้งกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หลังจากนี้ จะมีการขยายผลใช้โมเดลความร่วมมือนี้ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ที่ยังมีเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดำเนินการอยู่
โดยการส่งตัวเหยื่อกลับประเทศต้นทางแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นชาวจีน ซึ่งสามารถส่งกลับได้ทันทีเนื่องจากมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจน และรัฐบาลจีนมีความพร้อม ส่วนกลุ่มสัญชาติอื่น ๆ ต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์สัญชาติ ซึ่งฝ่ายเมียนมาได้อนุญาตให้สถานทูตและสถานกงสุลของประเทศต้นทางเข้าดำเนินการพิสูจน์สัญชาติในเมืองเมียวดี เพื่อให้การส่งตัวเป็นไปอย่างราบรื่น
สำหรับเหยื่อบางส่วนที่ถูกส่งข้ามมายังฝั่งไทยและยังอยู่ระหว่างกระบวนการส่งกลับ ได้มีการหารือกับองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) เพื่อพิจารณามาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้รับทราบปัญหาด้านมนุษยธรรมของเหยื่อจำนวนมากที่ยังรอการช่วยเหลือในฝั่งเมียวดี และอยู่ระหว่างการหารือแนวทางช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไป
อ้างอิง:
- กระทรวงการต่างประเทศ
