วันนี้ (22 กุมภาพันธ์) ผู้สื่อข่าวรายถึงสถานการณ์ชาวต่างชาติที่รวบรวมมาได้จากเมืองสแกมเมอร์ ซึ่งอยู่ในการควบคุมดูแลของกองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (DKBA) และกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (BGF) ตามแนวชายแดนประเทศไทย-เมียนมา ว่าปัจจุบันการดูแลของฝั่งของกองทัพ DKBA มีปัญหาขาดแคลนในเรื่องอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค ทำให้ผู้นำกะเหรี่ยง DKBA ต้องประกาศขอยุติการช่วยเหลือระดมคนต่างชาติในพื้นที่ก่อน
พลจัตวา ไซจ่อ หล่าย ประธานองค์กร DKBA กล่าวกับสื่อเมียนมาว่า ขณะนี้มีชาวต่างชาติอยู่ในการดูแลของฝ่าย DKBA จำนวน 405 คน กองกำลังเกิดปัญหาการดูแลเรื่องอาหาร น้ำดื่ม และน้ำใช้ เนื่องจากต้องดูแลคนจำนวนมาก อีกทั้งขณะนี้ทางประเทศไทยก็ไม่รับตัวชาวต่างชาติกลุ่มดังกล่าว
เท่าที่ตนเองทราบ กลุ่มชาวต่างชาติที่ฝ่าย DKBA ส่งผ่านไปประเทศไทยไปก่อนหน้านี้ยังไม่ได้กลับประเทศของตัวเองทั้งหมด เพราะไม่มีสถานทูตของแต่ละชาติติดต่อรับตัวไป ในส่วนของ DKBA จึงกังวลว่าการควบคุมคนจำนวนมากโดยที่พวกเขาไม่ใช่นักโทษ อาจจะทำให้พวกเขาหนีข้ามไปฝั่งประเทศไทยได้ หากหนีไปจริงก็เป็นอันตรายกับประเทศไทย
พลจัตวา ไซจ่อ หล่าย กล่าวต่อว่า ฝ่าย DKBA ยังยืนยันที่จะปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่รับผิดชอบให้หมดไปภายใน 3 เดือน แต่การเข้าไปทำงานของคนต่างชาติในพื้นที่ฝั่งเมียนมา เท่าที่ทราบเป็นความสมัครใจมากกว่าการถูกหลอกลวง มีการตกลงไปทำงานแล้วแต่เกิดเหตุการณ์การจ่ายค่าจ้างไม่เป็นไปตามข้อตกลง อีกทั้งมีการทรมาน-ทำร้ายร่างกาย หรือเป็นการค้ามนุษย์ขายตัวลูกจ้างไปให้อีกบริษัทหนึ่ง เป็นต้น
