วันนี้ (5 กุมภาพันธ์) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตัดกระแสไฟ ปิดช่องทางการส่งน้ำมัน และสัญญาณอินเทอร์เน็ต ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านติดชายแดนไทยจำนวน 5 จุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ผบ.ตร. ระบุว่า การตัดกระแสไฟที่จ่ายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นกระแสไฟที่ถูกต้องนั้นเป็นอำนาจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาอยู่แล้ว หน้าที่ของตำรวจก็คือ เฝ้าระวังบุคคลหรือหน่วยงานที่ลักลอบจ่ายกระแสไฟที่มีส่วนไปช่วยเหลือการกระทำความผิด ตำรวจถึงจะบังคับใช้กฎหมายเพื่อเอาผิด โดยหลังมีการตัดกระแสไฟไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ยังไม่มีรายงานความผิดปกติในพื้นที่ตามแนวชายแดนแต่อย่างใด
ส่วนการคัดกรองบุคคลที่จะเข้า-ออกประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดตรวจสอบ รวมถึงประสานข้อมูลกับทางการจีน หรือในระบบข้อมูลสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.6) เฝ้าระวังตรวจสอบผู้กระทำความผิดหรือบุคคลที่มีหมายจับจากประเทศต่างๆ ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน รวมถึงติดตามพฤติกรรมการอยู่อาศัยและการเดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศ พร้อมสั่งให้ชุดสืบสวนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 6 คัดแยกข้อมูลและสถิติการเดินทางเข้า-ออกของกลุ่มบุคคลที่เสี่ยงต่อการกระทำความผิด เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ
ผบ.ตร. กล่าวว่า กรณีที่ รังสิมันต์ โรม สส. พรรคประชาชน พาดพิงไปถึงนายตำรวจระดับสูงอักษรย่อ ต. เป็นผู้มีอิทธิพลและรับผลประโยชน์ในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมานั้น เบื้องต้นสั่งให้จเรตำรวจตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่าตำรวจพร้อมรับฟังความเห็นของประชาชน
