วันนี้ (1 กุมภาพันธ์) วรันธร วานิชถาวร รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23-24 มกราคมที่ผ่านมา ศูนย์อาเซียนเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศทางกฎหมาย สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้จัดการประชุมความร่วมมืออัยการสองฝั่งโขงเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ (Mekong Prosecutor Bilateral Meeting on Cooperation against Transnational Crimes)
โดย จุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รองอัยการสูงสุด และ ชัยชนะ พันธุ์ภักดีดิสกุล ผู้ตรวจการอัยการ นำคณะพนักงานอัยการที่ปฏิบัติราชการอยู่ในสำนักงานอัยการในเขตพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร นครพนม และอำนาจเจริญ ประชุมกับพนักงานอัยการแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่สำนักงานอัยการประชาชนแขวงสะหวันนะเขต สปป. ลาว
ระหว่างการประชุมคณะผู้แทนทั้งสองฝ่ายได้นำเสนอประเด็นสำคัญและกรณีศึกษาในการดำเนินคดียาเสพติดข้ามชาติระหว่างไทยกับ สปป.ลาว สถานการณ์ของการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีการลักลอบนำยาเสพติดจากพื้นที่ทางเหนือของ สปป.ลาว แล้วลักลอบนำข้ามแม่น้ำโขงจากพื้นที่แขวงสะหวันนะเขตเข้าสู่ประเทศไทย การกระทำผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติดของไทย การใช้มาตรการริบทรัพย์สินของผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและการฟอกเงิน การค้ามนุษย์ตามพื้นที่ชายแดน การลักลอบนำรถที่ถูกลักทรัพย์หรือรับของโจรจากไทยข้ามฝั่งไป สปป.ลาว รวมถึงการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ
ผู้เข้าร่วมประชุมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวปฏิบัติที่ดีในความร่วมมือการดำเนินคดีอาชญากรรมข้ามชาติ การติดตามพยานชาวลาวเพื่อไปเบิกความหรือไต่สวนพยานคดีในประเทศไทย รวมทั้งความเป็นไปได้ในการสืบพยานคดีอาญาในลักษณะการประชุมทางจอภาพ (Video Conference)
การดำเนินกิจกรรมครั้งนี้เป็นไปตามแนวทางของบันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุดแห่งราชอาณาจักรไทยและองค์การอัยการประชาชนสูงสุดแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ลงวันที่ 25 มีนาคม 2547 ที่มุ่งส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอัยการทั้งสองฝ่ายตามพื้นที่ชายแดน โดยได้รับการสนับสนุนจากสถาบันช่วยเหลือด้านกฎหมายและวิชาการ (Institute for Legal Support and Technical Assistance (ILSTA)) ประเทศลักเซมเบิร์ก