โดนัลด์ ทรัมป์ หวนคืนสู่ทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 47 หลังเสร็จสิ้นพิธีกล่าวสาบานตนที่อาคารรัฐสภา (U.S. Capitol) ซึ่งปีนี้จัดภายในห้องโถง เนื่องด้วยสภาพอากาศหนาวเหน็บ
ทรัมป์กล่าวปฏิญาณตนว่าจะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างซื่อสัตย์ จะรักษาและปกป้องรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ อย่างสุดความสามารถ
หลังสาบานตน ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์แรกในฐานะประธานาธิบดี
มีบุคคลสำคัญมากมายเข้าร่วมรัฐพิธีครั้งนี้ รวมถึงอดีตประธานาธิบดีอย่าง บารัก โอบามา, จอร์จ ดับเบิลยู. บุช และ บิล คลินตัน นอกจากนี้ยังมีมหาเศรษฐี ซีอีโอ และผู้บริหารบริษัทเทคยักษ์ใหญ่เข้าร่วมพร้อมหน้าไม่ว่าจะเป็น อีลอน มัสก์ (SpaceX), มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Meta), เจฟฟ์ เบโซส์ (Amazon) และ ทิม คุก (Apple)
ในวันแรกของการดำรงตำแหน่งคาดว่าทรัมป์จะลงนามคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหาร (Executive Order) เกือบ 100 ฉบับ เพื่อเดินหน้านโยบายต่างๆ ตามที่หาเสียงไว้ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า การใช้อำนาจเหล่านี้จะเซ็ตโทนการเป็นประธานาธิบดีที่เด็ดขาดของเขาในเทอมที่ 2 นี้
คาดหมายว่าหนึ่งในคำสั่งพิเศษที่ทรัมป์จะลงนามบังคับใช้คือ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินบริเวณชายแดนติดกับเม็กซิโก เพื่อเปิดทางให้มีการระดมทรัพยากรและเจ้าหน้าที่เพื่อวางกำลังตรวจตรา และสั่งให้สร้างกำแพงให้แล้วเสร็จ เพื่อป้องกันผู้อพยพไหลทะลักเข้าสหรัฐฯ
นอกจากนี้ทรัมป์อาจสั่งให้เริ่มกระบวนการแก้กฎหมาย เพื่อไม่ให้มีการสงวนสิทธิการเป็นพลเมืองอเมริกันโดยกำเนิดสำหรับบุตรของผู้อพยพผิดกฎหมายที่เกิดในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นนโยบายที่ก่อให้เกิดการถกเถียงเป็นวงกว้าง และหากทรัมป์ทำจริง จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ในส่วนของการขึ้นภาษีที่ทั่วโลกจับตานั้น คณะทำงานของทรัมป์ยืนยันว่าจะยังไม่มีการประกาศมาตรการขึ้นภาษีในวันแรกของการดำรงตำแหน่ง แม้ว่าทรัมป์จะมีแผนออกคำสั่งให้หน่วยงานต่างๆ ศึกษาและประเมินนโยบายการค้ากับจีนก็ตาม
ภาพ: Chip Somodevilla / Pool via Reuters