ยังคงเป็นประเด็นร้อนแรงให้ติดตามอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีของ แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข นักร้องชื่อดัง ที่ได้เปิดใจถึงกรณีการฟ้องร้องของเขาและภรรยาอย่าง นิว-จีริสุดา ศรีวัฒน์ ว่าการที่ตนหายไปจากการปล่อยผลงานเพลงและการรับงานคอนเสิร์ตในช่วงปีที่ผ่านมา เพราะดำเนินการฟ้องร้องบุคคลที่เข้ามาบุกรุกภรรยาของเขาหลังเวที และสร้างความเกลียดชังให้เกิดความเข้าใจผิด จนเกิดเป็นกระแสในโลกโซเชียลมากมายถึงเรื่องราวของการสืบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ตลอดหลายวันที่ผ่านมา
ซึ่งต่อมาวง Tilly Birds ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าบุคคลที่แสตมป์บอกว่าคุกคามภรรยานั้นคือแฟนสาวของ Sound Engineer ของวง และวงขอวางตัวเป็นกลาง เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัวในคดีชู้สาว ก่อนที่ในคืนที่ผ่านมา ผู้ใช้บัญชี Instagram ชื่อ gapjirapat แฟนหนุ่มของคู่กรณี ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงถึงคดีชู้สาวดังกล่าว โดยโพสต์รูปภาพพร้อมมีใจความดังนี้
“เรื่องประเด็นคดี ไม่เคยมีคำตัดสินเรื่องคุกคามแต่อย่างใด มีเพียงคดีหมิ่นประมาท กับคดีอื่นๆ ที่โจทก์ถอนฟ้อง คดีที่เรายอมความคือคดีละเมิด ในเนื้อความมีเรื่องเกี่ยวกับการชู้สาวที่ศาลเยาวชน เราได้ทำสัญญาการจ่ายเงิน เป็นจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อให้เรื่องจบ และเราไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับเขาอีกตามสัญญาท้ายฟ้อง เรามองว่าเราจ่ายได้ อีกทั้งชั่งน้ำหนักกับเรื่องที่พ่อพวกเราป่วย จึงตัดสินใจไปทางนี้ เพื่อจะกลับมาใช้เวลาดูแลครอบครัว และคงดีที่ไม่ต้องพูดถึงกันอีกต่อไป ตรงส่วนนี้คือที่ทางวง Tilly Birds หมายถึงครับ
“แนบหลักฐานในการฟ้องมาให้ดูครับ มีการฟ้องกันหลายคดี มีการฟ้องชู้ด้วย หากทางนั้นมีหลักฐานใดโต้แย้งเชิญได้เลยครับ เพราะฉะนั้นทุกคดีของเราไม่เคยมีการสืบพยาน ไม่เคยไปถึงเรื่องจริง มีแต่ตกลงว่าจะจ่ายค่าเสียหายให้เพื่อจบเรื่อง ซึ่งวันนี้เรารู้แล้วว่าเราพลาด เพราะมันทำให้คนเข้าใจว่าเรายอมรับผิดคดีเกี่ยวกับการคุกคามใดๆ แบบที่เขาอ้าง และอ้างว่าชนะไม่มีอยู่จริงครับ ถ้ามีอยู่ช่วยแสดงออกมาด้วยครับ”
ก่อนที่ในช่วงเช้าของวันนี้ (19 มกราคม) เพจ ‘โตแล้วจะไปญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ได้’ ได้กล่าวอ้างว่าเป็นเพื่อนของแสตมป์ ออกมาโพสต์รูปภาพการพูดคุยของเขากับแสตมป์ถึงกรณีคดีชู้สาว พร้อมข้อความดังนี้
“สวัสดีครับ ผมชื่อ ป้อง เป็นเพื่อนกับแสตมป์
“ผมคือหนึ่งในพยานให้นิว คดีชู้สาว (แต่ไม่ถึงปากที่ให้ไปขึ้นศาล) ผมไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับคู่กรณีทั้งแจมและแก๊ป
“แต่ผมเป็นคนกลางติดต่อแจมให้แสตมป์ในช่วงเวลาที่เขาติดต่อกันเองไม่ได้ ผมรู้เรื่องราวเกือบทั้งหมดของปัญหานี้ แบบมีหลักฐานเป็นแชตทุกช่องทางกับแสตมป์ (แต่ไม่รู้ว่าเป็นคำโกหกของเพื่อนผมหรือไม่)
“แม้ผมจะเป็นเพื่อนแสตมป์ แต่ผมรู้สึกไม่โอเคกับการเล่าบนเวที เพราะแสตมป์เล่าไม่หมด จึงเกิดความวุ่นวายในสังคม ศิลปินและบุคคลหลายคนได้รับผลกระทบทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาของ 4 คนนี้เลย
“ผมได้คุยไลน์กับแสตมป์ครั้งสุดท้ายหลัง 30 พฤษภาคม 2566 ไม่กี่วัน (ซึ่งตอนแรกผมต้องไปเป็นพยาน) โดยให้ผมเช็ก IG แจมว่าลบรูปบางอย่างไปหรือยัง ผมตอบไปแล้ว หลังจากนั้นผมไม่ได้คุยกับเพื่อนผมอีกเลย จนเกิดเหตุพูดบนเวที ผมทักไลน์ไปว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมยังมีปัญหาอีก เห็นว่าจบ แยกย้ายต่างคนก็ใช้ชีวิตกันไปแล้ว กลายเป็นนิวตอบไลน์มาว่า “ไม่ต้องห่วง ไว้ว่ากัน กำลังมีคนโพสต์ด่าอยู่พอดี” แล้วไม่ตอบอะไรผมอีกเลย
“ผมรอให้คู่กรณีคือแก๊ปได้โพสต์ก่อน เพื่อจะได้อธิบายว่าเป็นคดีชู้สาว ไม่ใช่เป็นเรื่องการคุกคามแบบซาแซงที่แสตมป์เล่าบนเวที ถ้าบนเวทีแสตมป์เริ่มต้นว่าทุกคนครับ ผมนอกใจเมียผมเป็นเวลา 2 ปีก่อนที่เมียผมจะจับได้ แล้วหลังจากนั้นจึงเกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้นครับ (อย่างที่พูดบนเวที) สารที่ประชาชนรับรู้จะต่างไปจากตอนนี้ ไม่มากไม่น้อยอย่างแน่นอน อาจจะไม่เกิดเหตุการณ์ทัวร์ไปลงผิด ศิลปินหลายคนก็ไม่ต้องเกี่ยวข้องเลยแบบนี้ ความจริงผมก็ไม่เกี่ยวข้องเลย แต่ยอมที่จะแลกเพราะทำไมเรื่องความรักที่ไม่ปกติของ 4 คน ต้องมีผู้ไม่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบแบบนี้ สังคมวุ่นวายไปหมด แฟนเพลงของแต่ละคนต้องมาปะทะกันเอง
“อย่างที่ผมเคยทวีตไปว่า ไม่สงสัยเลยเหรอว่าศิลปินเกือบทั้งวงการทราบเรื่อง แต่ทำไมไม่มีใครอยากยุ่ง เพราะ
- ทุกคนอาจมีแผล หากเข้ามายุ่ง เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อาจถูกขุดแบบมั่วๆ ก็ได้ จึงเลือกที่จะเงียบเสียดีกว่า
- ถ้าออกมาเทกแอ็กชันแล้วแฟนเพลงฝ่ายนั้นไม่เชื่ออีก ก็กลายเป็นทำให้แฟนเพลงปะทะกันเองแบบที่เกิดขึ้นตอนนี้
- ถ้าประชาชนรู้ว่าแสตมป์นอกใจเมีย คนที่พังคือตัวแสตมป์เอง
“ในเมื่อไม่มีใครเล่าอะไรให้ชัดเจน (แบบไม่โกหก) ผมขอใช้พื้นที่เพจ ‘โตแล้วจะไปญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ได้’ โพสต์แบบยาวๆ เพื่อที่จะให้ทุกคนทราบพฤติกรรมความไม่ปกติหลายๆ อย่างจากทั้งแสตมป์และนิว ผมไม่กลัวว่าจะถูกฟ้องกลับจากฝ่ายใดเลย หากผมยึดหลักพูดความจริงจากหลักฐานแชตทั้งหมด หากถูกฟ้องจะต้องมีการพิสูจน์ก่อนว่าผมพูดเท็จ แม้แชตจะเป็นเรื่องโกหกที่แสตมป์เล่ากับผมก็ตาม
“ตัวอย่างแรก แสตมป์เคยบอกผมว่าเขาไม่ได้เงินใช้เลย เงินอยู่ที่นิวทั้งหมด เขาอยากสร้างบ้านใหม่ให้แม่ นิวก็ไม่ให้เงิน เรื่องนี้แสตมป์บอกผมปี 2564 เลยทำให้ผมไม่ชอบนิว แต่พอต้องขึ้นศาล ผมไปเล่าให้ทนายฟังแบบนี้ มีการบันทึกเทปไปให้นิวกับแสตมป์ฟังว่าผมพูดอะไรบ้าง วันต่อมาแสตมป์มาขอโทษผมว่าเรื่องทั้งหมดเขาโกหกผมมาตลอด หากแสตมป์โกหกผมแบบนี้ แสตมป์ก็สามารถโกหกให้นิว แจม และทุกคนเข้าใจผิดได้เช่นครับ ขอจบเรื่องแรกเท่านี้ก่อนครับ ไว้จะมาอธิบายความประหลาดอื่นๆ อีก
“หมายเหตุ:
- ก่อนโพสต์นี้ผมได้คุยกับ โอม Cocktail และวง Tilly Birds แล้วด้วย เพื่อเช็กว่าข้อมูลฝ่ายเขาตรงกับผมที่ได้รับจากแสตมป์ไหม ปรากฏว่าไม่ตรงกันหลายเรื่อง (ตอนนี้ทั้งหมดบินไปสหรัฐอเมริกาเมื่อคืนนี้)
- ขอบคุณคุณ Art Eakarat ที่ให้คำปรึกษาด้วยครับ
“ปล. ถ้าหลังจากนี้มีชื่อ ผัก อยู่ ผักคือ aka ที่แสตมป์ใช้เรียกแจมครับ”
เหตุการณ์ดังกล่าวยังคงเป็นประเด็นร้อนในสังคมที่ยังหาข้อสรุปและทางออกไม่ได้อย่างสมบูรณ์ ณ เวลานี้ โดยผู้ที่ติดตามข่าวก็ยังคงต้องรอติดตามข้อเท็จจริงจากทั้งฝ่ายของ แสตมป์ อภิวัชร์ และคู่กรณี อย่างมีวิจารณญาณต่อไป
อ่านประเด็นข่าวที่เกี่ยวข้องได้ที่:
- https://thestandard.co/stamp-apiwat-harassment-case/
- https://thestandard.co/what-the-duck-statement/
- https://thestandard.co/army-stamp-threat-case/
- https://thestandard.co/tilly-birds-stamp/
อ้างอิง: