เปลี่ยนวิธีคิดเรื่องการลงทุนในหุ้นกับ Jitta

สืบเนื่องจากเอพิโสด The Money Kids น้องออกัส ลูกชายคนโตวัย 10 ขวบของมันนี่โค้ชได้พูดถึง Jitta ว่าเป็นเครื่องมือหนึ่งในการช่วยคัดกรองหุ้นก่อนลงทุน (ขนาดเด็ก 10 ขวบยังรู้จักและใช้เป็น!)

เอพิโสดนี้มันนี่โค้ชจึงชวน อ้อ-พรทิพย์ กองชุน ผู้ร่วมก่อตั้ง จิตตะ มาพูดคุยต่อเสียเลยในประเด็นต่างๆ เช่น จิตตะทำงานอย่างไร ช่วยคนลงทุนในหุ้นได้อย่างไร ไม่มีความรู้เรื่องหุ้นเลยแล้วใช้จิตตะได้ไหม รวมถึงโมเดลเรื่องการเปิดพอร์ตหุ้นให้ลูกที่น่าสนใจมากๆ

ทำไมถึงใช้ชื่อว่า จิตตะ ใช่คำเดียวกับในทางพุทธไหม

ใช่ค่ะ เป็นหนึ่งในอิทธิบาท 4 (ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา) ซึ่ง ‘จิตตะ’ แปลว่าหนึ่งในทางสู่ความสำเร็จ คือการที่เรามีความมุ่งมั่น เอาใจใส่ ฝักใฝ่ในความรู้เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง การลงทุนในหุ้นก็เช่นกัน เราต้องทำอย่างมีความรู้และมีหลักการ

อีกอย่างคือเราอยากขยายเทคโนโลยีนี้ให้ต่างชาติได้ใช้ด้วย เราเลยเลือกชื่อที่สื่อถึงความเป็นเอเชีย และที่สำคัญอ้อเคยทำงานที่กูเกิล ตอนนี้กูเกิลยังไม่มีโปรดักต์ที่ขึ้นต้นด้วย J คิดว่าถ้ามันรุ่ง ในอนาคตกูเกิลอาจมาซื้อโปรดักต์ของเรา (หัวเราะ)

จิตตะ คือเว็บไซต์ช่วยวิเคราะห์หุ้นถูกไหม

ใช่ค่ะ การวิเคราะห์หุ้นมีหลายรูปแบบ เช่น การลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) หรือการลงทุนแบบใช้เทคนิค ดูกราฟ (Technical Investing) คุณเผ่า-ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ (ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง) ได้พิสูจน์มาหลากหลายรูปแบบ คุณเผ่าไปซื้องบการเงินของบริษัท 10 ปีย้อนหลังกว่า 3,000 บริษัท ใช้เวลาไปกว่า 2 ปีในการอ่านจนรู้สึกว่าถ้าการลงทุนใช้เวลาเยอะขนาดนี้แล้วใครจะลงทุนได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพราะว่าการวิเคราะห์งบเป็นสิ่งที่ต้องทำซ้ำๆ และอะไรที่ต้องทำซ้ำๆ เราสามารถใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยได้ เราจึงไปคุยกับรุ่นน้องที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีคือ น้องฮั้นท์-ศิระ สัจจินานนท์ และชวนเขามาสร้างเว็บไซต์วิเคราะห์หุ้นด้วยกัน

‘เฟล’ เพราะคนไม่เข้าใจ

พอทำเสร็จก็บินไปซิลิคอนแวลลีย์และนำไปให้คนที่นั่นใช้ ปรากฏว่าเฟล เพราะเขาไม่เข้าใจวิธีการใช้ เราคิดว่าสิ่งที่เราทำต้องทำให้คนลงทุนได้ แต่เราลืมถามไปว่าถ้าจะลงทุนได้ คุณอยากได้ข้อมูลอะไร เหมือนเวลาที่คุณหนุ่มไปงานสัมมนา คนที่เข้ามาพูดคุยเขาจะถามว่าดูอย่างไรว่าหุ้นตัวไหนดี ตัวไหนซื้อได้ เขาอยากรู้แค่นี้ แต่เราให้ข้อมูลเขาเยอะเกินไป เราจึงต้องปรับตัวใหม่และตอบเพียงแค่สองคำถามที่เขาอยากรู้ด้วย Jitta Score บอกหุ้นดีคะแนน 0-10 และ Jitta Line เพื่อบอกราคาที่เขาควรซื้อ เราเน้นความง่าย เน้นการลงทุนแบบเน้นคุณค่าระยะยาวเพื่อทบต้นไปเรื่อยๆ เป็นผลกำไรระยะยาว

ทำไมจึงเลือกการลงทุนระยะยาว

สิ่งแรกเลยคือคุณเผ่าถนัดแนวเน้นคุณค่า เราจึงเริ่มทำจากตรงนี้ เคยมีคนมาเสนอว่าให้ผสมแบบอื่นๆ ด้วย มีกราฟบ้าง จะได้เป็นไฮบริด ซึ่งพอเราไปรีเสิร์ช มันไม่ใช่แนวเรา

สอง เราเชื่อมั่นในหลักการ เพราะเราลงทุนแบบนี้มาตลอดแล้วได้ผลและสบายใจ แนวคิดของเราคือไม่จำเป็นต้องเช็กเว็บไซต์เราทุกวัน เดือนละครั้งก็โอเคแล้ว คนลงทุนไม่ต้องการการวิเคราะห์ที่อลังการ เขาต้องการกำไรและผลตอบแทนการลงทุนที่ดี จิตตะจึงเป็นเครื่องพิสูจน์ตรงนี้ แต่ช่วงแรกเราโปรโมตในกลุ่มนักลงทุนแนวเน้นคุณค่าเท่านั้น การขยายวงจึงไม่กว้าง ต้องมาปรับตัวเพื่อที่จะเข้าหากลุ่มคนให้มากขึ้นและสามารถสอนเรื่องการลงทุนระยะยาวให้ได้ มันเป็นเหมือนการลงทุนในบริษัทที่เราเป็นเจ้าของ ซึ่งแตกต่างจากการเล่นหุ้นแบบกราฟที่ค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อนมากกว่า

จิตตะจะช่วยคนลงทุนได้อย่างไร

เราอยากปรับเปลี่ยนมุมมองคนลงทุนให้กว้างขวางมากขึ้น และด้วยสาเหตุที่เราเชื่อมั่นในการลงทุนแนวเน้นคุณค่า ประกอบกับต้นแบบความสำเร็จอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่ทำให้เราเชื่อมั่นในการลงทุนแนวนี้ว่าสามารถก่อให้เกิดผลประโยชน์แก่คนหมู่มาก คือตอนที่เราได้มีโอกาสไปคุยกับ แมรี บัฟเฟตต์ อดีตลูกสะใภ้ของวอร์เรน ผู้เขียนหนังสือ Buffettology เราให้เขาลองใช้จิตตะ เขาบอกว่ามันง่ายมาก เหมือนแปลหนังสือที่เขาเขียนออกมาในรูปแบบเทคโนโลยีและทำให้เห็นภาพมากขึ้น แมรียังบอกอีกด้วยว่า จิตตะทำให้ผู้ลงทุนเห็นคุณค่าการลงทุนแบบเน้นคุณค่าและสามารถปฏิบัติได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เราจึงพยายามที่จะทำให้จิตตะสามารถเข้าถึงคนหมู่มากและนักลงทุนได้

จิตตะไม่ใช่แค่เครื่องมือประกอบการลงทุน แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยเปลี่ยนมายด์เซตของนักลงทุน

เห็นได้ชัดมากคือผู้ลงทุนที่ติดดอย แต่ไม่รู้สาเหตุ เขาเพิ่งมาเข้าใจเมื่อซื้อหุ้นตัวนั้นด้วยราคาที่สูงกว่าจิตตะไลน์ ซึ่งถือว่าราคาแพง หรือให้เขาดูจิตตะสกอร์ เขาจึงเข้าใจภาพรวมของบริษัท เพราะโดยปกตินักลงทุนจะเห็นแค่ภาพรวมระยะสั้นรายสัปดาห์หรือรายเดือน แต่จิตตะสามารถโชว์ภาพรวมระยะยาว 10 ปีย้อนหลัง และที่สำคัญคนที่ติดดอยมักไม่ลงมาจากดอย เพราะคิดว่าไม่ขายคือไม่ขาดทุน เราจึงโชว์จิตตะให้เขาดู เขาถึงเข้าใจว่าการขาย ณ ช่วงเวลานั้นเพื่อนำเงินมาลงทุนในหุ้นดีราคาถูกจะมีประโยชน์กับตัวเขามากกว่า เขาจะเริ่มเห็นภาพ ซึ่งสิ่งนี้ก็ทำให้เราภูมิใจว่าเราสามารถทำให้เขาเห็นอีกมิติหนึ่งของการลงทุนได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

สามารถใช้จิตตะอย่างเดียวในการลงทุนโดยไม่มีความรู้ด้านหุ้นเลยได้หรือไม่

ควรมีความรู้พื้นฐาน เพราะการเข้าใจในจิตตะสกอร์ และจิตตะไลน์ ทำได้ไม่ยาก แต่การลงทุนหุ้นต้องมีอารมณ์หรือมุมมองต่อตลาดหุ้นที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ด้วย ถ้าเกิดหุ้นตกหรือขึ้น มันเป็นสัจธรรม เราต้องมองระยะยาว แต่ถ้าพื้นฐานยังดีอยู่ก็ควรถือไว้ ฉะนั้นเราก็ต้องมีความรู้และความเข้าใจในสิ่งนี้ด้วย จิตตะก็จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและการลงทุนได้ง่ายขึ้น

เราต้องมีความรู้มาปรับมุมมองและทัศนคติต่อการลงทุน แต่ก็ต้องมีจุดยืนของตนเอง ไม่ตามทุกสิ่งที่เราได้ยินมา ควรอ่านแล้ววิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน และดูว่าเราลงทุนแบบไหนแล้วสบายใจ

บริการทุกอย่างฟรีหมด แล้วจิตตะอยู่ได้อย่างไร

ขาดทุนตลอดค่ะ (หัวเราะ) แต่เราอยากพิสูจน์ก่อนว่าข้อมูลของเราสามารถใช้ได้จริง อยากให้นักลงทุนเชื่อมั่นก่อน เราก็ถือว่าเป็นสตาร์ทอัพที่ออกโปรดักต์ที่สามารถแก้ปัญหาหรือช่วยคนไปก่อน ส่วนโมเดลธุรกิจและการหาเงินจะตามมาเอง คือต้องมีคนใช้ก่อนเหมือนเฟซบุ๊กและกูเกิล

บางคนมีทัศนคติต่อหุ้นที่แปลกๆ เช่น หุ้นมีความเสี่ยงมาก คนที่ลงทุนหุ้นได้ต้องมีเงินเยอะ หรือต้องมีความรู้ทางด้านการเงินสูงๆ อยากให้คุณอ้อแนะนำน้องๆ รุ่นใหม่ที่สนใจในการลงทุนหุ้น

อันดับแรก การลงทุนมีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ ทอง หรืออื่นๆ ควรไปศึกษามาก่อน แต่การลงทุนในหุ้น ข้อดีคือผลตอบแทนจะสูงที่สุด แต่ความเสี่ยงก็ผันผวนมากที่สุดเหมือนกัน แต่มันมีวิธีควบคุมความผันผวนและทำให้ความเสี่ยงน้อย คือการเลือกหุ้นที่เติบโตแล้วกระจายการลงทุนในหุ้นหลายๆ ตัว และควรซื้อตอนที่หุ้นราคาไม่แพงเกินไป ตามหลักการการลงทุนแบบเน้นคุณค่าคือ ซื้อหุ้นดี ราคาถูก เหมือนที่คุณปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ บอกว่าถ้าอยากลงทุนในหุ้น แต่ไม่มีความรู้ ควรซื้อ Index Fund หลังจากนั้น เราจะเริ่มมีความมั่นใจ เราสามารถเลือกเฉพาะตัวดีๆ อาจจะ 20 ตัว หลังจากนี้ก็สามารถใช้จิตตะเป็นตัวช่วยได้

ถ้าเราใช้จิตตะเลือกหุ้นดี ราคาเจ๋ง ทุกคนใช้ แปลว่าทุกคนก็รวยหมดสิ

ถ้าทุกคนใช้จะทำให้เสถียรภาพของตลาดดีขึ้นมาก เพราะหุ้นที่ทุกคนซื้อก็จะเป็นหุ้นพื้นฐานดี สมมติว่าคนไทยครึ่งประเทศเชื่อจิตตะแล้วซื้อตาม คุณก็จะซื้อแต่ธุรกิจที่ดี ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อหุ้นที่ธุรกิจไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นหุ้นปั่นหรืออื่นๆ

แนวคิดการทำพอร์ตลงทุนให้ลูกกลายเป็นจุดเด่นของจิตตะไปแล้ว

เราแค่อยากพิสูจน์ให้เห็นว่าการลงทุนในหุ้นดีราคาถูกตามแบบจิตตะ เราสามารถลงทุนระยะยาวได้ ลูกอ้อชื่อน้องไอวี่ หลังจากน้องไอวี่เกิดมา 1 เดือน เราก็เปิดตัวอีกโปรดักต์หนึ่งคือ Jitta Wealth คือบริการจัดการพอร์ตการลงทุนให้เสร็จสรรพ เหมือนเป็นกองทุนส่วนบุคคล เราจะปรับพอร์ตให้ทุกอย่าง คุณเผ่าก็บอกว่าเป็นของขวัญให้ลูก ก็คือเปิดพอร์ตให้ 1 ปีหลังจากนั้นเรามาดูแล้วผลลัพธ์ค่อนข้างโอเค ไอวี่ได้กำไรไป 20% จึงเป็นเคสขึ้นมา

เวลาที่ดีที่สุดในการเริ่มลงทุนคือ ‘ตอนนี้’ ถ้าเรามีระยะเวลาในการลงทุนนาน เราจะได้กำไร ผลตอบแทนทบต้นมากขึ้น ทุก 6 ปีผลตอบแทนจะเพิ่มอีกเท่าตัว การออมในบัญชี ดอกเบี้ยค่อนข้างน้อย อีกทั้งปัญหาเงินเฟ้อ ดังนั้นควรลงทุนแบบมีหลักการ

ฝากถึงคนที่สนใจการลงทุน

หุ้นมันโตขึ้นเรื่อยๆ บางคนมัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานโดยไม่จัดการเรื่องเงิน และการจัดการที่ดีต้องหาแหล่งทำให้เงินโตได้ดี มันมีหลากหลายวิธีมาก สำหรับทั้งคนที่ไม่ต้องการความเสี่ยงสูง ลงทุนระยะยาว หรือ Passive Investment แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเริ่มทำ อ้อเสียดายเวลามาก น่าจะเริ่มเร็วกว่านี้ ซึ่งข้อมูลมีมากมายให้ศึกษา คุณสามารถใช้ Jitta เป็นตัวช่วยได้ หรือ Jitta Wealth เพื่อบริหารจัดการพอร์ตสำหรับคนไม่มีเวลาได้

ฟังรายการ The Money Case by The Money Coach พอดแคสต์ โดยแอปฯ Podcasts (สำหรับผู้ใช้ iOS), Podbean และแอปฯ ประเภท Podcast Player ยี่ห้อใดก็ได้ (สำหรับผู้ใช้ Android) หรือฟังทาง SoundCloud และ YouTube ก็ได้เช่นกัน