วันนี้ (24 ธันวาคม) จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติเป้าหมายของนโยบายการเงิน ประจำปี 2569 โดยกำหนดให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วง 1-3% เป็นเป้าหมายของนโยบายการเงินด้านเสถียรภาพราคาสำหรับระยะปานกลาง และเป็นเป้าหมายของนโยบายการเงินสำหรับปี 2569 แล้ว
หลังการเคลื่อนไหวดังกล่าว สื่อต่างชาติ รวมถึง Bloomberg รายงานว่า การคงเป้าหมายเงินเฟ้อดังกล่าวถือเป็นชัยชนะของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลังจากก่อนหน้านี้ รัฐบาลมีความพยายามเจรจากับ ธปท. เรื่องการปรับเปลี่ยนกรอบเงินเฟ้อจากระดับ 1-3% เป็นค่ากลางที่ 2% หรือ ‘ปรับเพิ่มขึ้น’ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจหลายต่อหลายครั้ง
โดยย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพิ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25% ต่อปี ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากฝั่งรัฐบาลที่ต้องการให้ ธปท. ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม โดยในการแถลงข่าว ธปท. ยังยืนว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยัง ‘สอดคล้อง’ กับศักยภาพเศรษฐกิจ ขณะที่เงินเฟ้อโน้มเข้าสู่กรอบเป้าหมาย
จุลพันธ์เน้น ‘คลัง-แบงก์ชาติ’ ต้องนำเงินเฟ้อไปสู่ค่ากลางที่ 2%
นอกจากนี้ จุลพันธ์ย้ำอีกว่า กรอบเงินเฟ้อระยะปานกลางเป็นการร่วมมือของทั้งกระทรวงการคลังและ ธปท. ที่จะต้องช่วยกันประคับประคองให้อัตราเงินเฟ้อเข้าสู่ค่ากลางของกรอบเงินเฟ้อที่ 2% ด้วยกลไกนโยบายของทั้งสองฝั่ง
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของไทยอยู่ระดับต่ำกว่าเป้าหมายของ ธปท. ที่ 1-3% เป็นส่วนใหญ่ โดยตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เฉลี่ย 11 เดือน (มกราคม-พฤศจิกายน) ของปี 2567 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 สูงขึ้น 0.32%AoA
ด้าน กนง. ล่าสุดคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2567 และ 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 0.4% และ 1.1% ตามลำดับ
อ้างอิง: