มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการเป็นเจ้าภาพการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและผู้แทนระดับสูง 6 ประเทศ ทั้งไทย, เมียนมา, สปป.ลาว, จีน, อินเดีย และบังกลาเทศ เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เป็นข้อห่วงกังวลร่วมกัน ทั้งในเรื่องความมั่นคงชายแดน การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด และการหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งทุกประเทศต่างเห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการประสานงานในการบังคับใช้กฎหมาย
มาริษเผยว่า การหารืออย่างไม่เป็นทางการครั้งนี้เป็นข้อริเริ่มของไทย โดยต่อยอดมาจากข้อริเริ่มของไทยเมื่อครั้งการหารืออย่างไม่เป็นทางการ 3 ฝ่าย ระหว่างไทย อินเดีย และเมียนมา ช่วงการประชุม BIMSTEC ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และการหารืออย่างไม่เป็นทางการ 4 ฝ่าย ระหว่างไทย, จีน, เมียนมา และ สปป.ลาว ช่วงการประชุมแม่โขง-ล้านช้าง ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
การหารืออย่างไม่เป็นทางการครั้งนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรกที่เมียนมาและประเทศเพื่อนบ้านมาร่วมประชุมครบทั้ง 5 ประเทศ ซึ่งสะท้อนความจริงจังของทุกประเทศที่ต้องการปรึกษาหารือและร่วมมือกันมากยิ่งขึ้น เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่างๆ และการหารือในวันนี้ได้แยกต่างหากจากการหารืออย่างไม่เป็นทางการในกรอบอาเซียนวันพรุ่งนี้ (20 ธันวาคม) แต่จะช่วยเสริมความพยายามของอาเซียนในการดำเนินการตามฉันทมติ 5 ข้อ หรือ Five-Point Consensus ที่ได้ให้กับเมียนมาให้มีผลเป็นรูปธรรม
รัฐมนตรีต่างประเทศยังกล่าวด้วยว่า ประเทศต่างๆ ชื่นชมที่ไทยริเริ่มจัดการหารือครั้งนี้ และมีความเห็นสอดคล้องกันว่า การหารือกันโดยตรงระหว่างเมียนมากับประเทศเพื่อนบ้านมีความจำเป็นและสำคัญมาก เพราะประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมาต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในเมียนมาโดยตรงและมีความเข้าใจต่อสถานการณ์ในเมียนมาดีกว่าประเทศอื่นๆ โดยเห็นประโยชน์ของการพบกันเป็นระยะ แล้วแต่โอกาสจะเหมาะสม ซึ่งไทยจะสานต่อการหารือในครั้งนี้
ขณะที่เขายืนยันว่าบรรยากาศการหารือในวันนี้ถือว่าดีมาก เพราะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างตรงไปตรงมาและสร้างสรรค์
โดยรัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศเมียนมายังได้เล่าให้ที่ประชุมฟังเกี่ยวกับแผนงานด้านการเมืองของเมียนมา และความคืบหน้าในการเตรียมการจัดการเลือกตั้งในปีหน้า เช่น การจัดทำสำมะโนประชากรและการจดทะเบียนพรรคการเมือง โดยแจ้งด้วยว่ามีความตั้งใจที่จะเชิญผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งจากต่างประเทศ อาทิ จากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งฝ่ายเมียนมากำลังพิจารณารายละเอียดและจะแจ้งมิตรประเทศให้ทราบ
ทั้งนี้ มาริษยังเปิดเผยอีกด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้พบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา โดยครอบคลุมประเด็นทวิภาคีที่สำคัญต่างๆ อาทิ ประเด็นลูกเรือประมงไทย 4 คน ซึ่งได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากทางการเมียนมาว่าลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 คนจะได้รับการปล่อยตัวกลับประเทศไทยเร็วๆ นี้ และทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจและป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก
อ้างอิง:
- กระทรวงการต่างประเทศ